ความเดิมตอนที่แล้ว อ่าน
วิถีชาวกรุง : เมื่อผมสั่ง "เล็กยำ" ๙ ร้านย่านบางลำพู (๑)
ผ่านไปแล้ว ๓ ร้าน กับภารกิจตามล่าหา "เล็กยำ" ก๋วยเตี๋ยวเมนูโปรดของผม จากย่าน ถ.สามเสน เราจะมุ่งสู่ถนนพระอาทิตย์ แว่บถนนจักรพงษ์ แล้วตรงไปถนนพระสุเมรุ วกเข้าถนนสิบสามห้าง แล้วปิดท้ายที่ถนนตะนาว เก็บ ๖ ร้านที่เหลือมาเล่าให้ได้อ่านกัน
ถ้าพร้อมแล้ว มาลุยกันต่อครับ
ร้านที่ ๔ อยู่ใกล้กองบัญชาการบ้านพระอาทิตย์มากๆ ห่างกันแค่ไม่กี่คูหา กับร้านที่ชื่อ "จานโปรด" หรือร้านบ้านปลาสด ที่โด่งดังในอดีต แต่เปลี่ยนมาขายก๋วยเตี๋ยวและอาหารได้หลายปีมาแล้ว ความน่าสนใจของร้านนี้อยู่ที่ก๋วยเตี๋ยวสมุนไพรเส้นโหรา?? คือมีให้เลือกถึง ๙ สูตรตามดาวประจำวันเกิด!!! คุณพระ ... เดี๋ยวนี้จะกินยังต้องดูดวงด้วยเหรอ?? ... นั่นก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลกันไป และแน่นอนผมเกิดวันจันทร์ ก็ต้องกินก๋วยเตี๋ยวหมูใจดี สูตรอ่อนโยน หรือ ต้มจืดนั่นเอง ...
แต่ ... เฮ้ย เรามาตามหาเล็กยำนะครับ!! ความเชื่อนี้จึงยุติลง ผมถามพี่พนักงานว่าเล็กยำที่นี่มีอะไรแนะนำ เอาตัวท็อปเลย แกแนะนำเป็น "ก๋วยเตี๋ยวต้มยำปลากะพง สูตรครบเครื่องประเทืองปัญญาาาาาาาาาาา" (ลากเสียงยาวให้เหมือนรายการแข่งอาหาร) ซึ่งเมนูนี้มี ๒ ราคา ธรรมดา ๘๐ บาท!! กับพิเศษ ๑๐๐ บาท ... เห็นราคาแล้วอยากจะเห็นหน้าตาสินค้าในบัดเดียวนี้
บรรยากาศร้านจัดว่าดี มีที่นั่งโซนใต้ถุนบ้าน และสวนเล็กๆ ที่มีน้าคนนึงเอาอาหารมาล่อกระรอกให้ไต่ต้นไม้ลงมากินโชว์นักท่องเที่ยวต่างชาติ ร้านนี้หยุดทุกวันพฤหัสบดี นับว่าต่างจากเจ้าอื่นในย่าน ไม่นานนักเล็กยำของผมก็มา ดูจากหน้าตาแล้วน่าสนใจไม่น้อย มีปลากะพง กุ้งแห้ง ถั่วป่น งาขาว นอกจากนี้ก็มีผักอย่างถั่วงอก และผักบุ้ง ใส่มาด้วย ... อืมมม์ แปลกดีนะ พอเริ่มคนๆ แล้วตักน้ำแกงชิมคำแรก ... มีรสเค็มแล้วค่อยเปรี้ยวน้ำมะนาว ทานสักพักทำไมรู้สึกเหมือนกินแกงส้มก็ไม่รู้ หรือนี่จะเป็นสูตรต้มยำของเขา เนื้อปลาสดดี แน่น อร่อย อันนี้ชอบๆ ส่วนเส้นเหนียวนุ่มลื่นดี โดยรวมก็โอเคครับ นานๆ กินที
ต่อด้วยอีกร้านที่อยู่ไม่ไกลกันนัก สุดเขตถนนพระอาทิตย์พอดี ชื่อร้าน "พัวกี่" นี่ก็เป็นอีก ๑ เจ้าที่อยู่บนถนนสายนี้มานาน และเป็นเจ้าประจำของชาวผู้จัดการอีก ๑ แห่ง อาหารตามสั่ง อย่างข้าวผัด ข้าวหมูกระเทียม ที่นี่อร่อยครับ (เพราะกินอยู่ไม่กี่เมนู) ที่เด่นอีกอย่างของร้านนี้คือเย็นตาโฟ และ เกี๊ยวกุ้ง ... แต่งวดนี้เราจะสั่งเล็กยำครับ ซึ่งเล็กยำเขาก็มีทั้งแบบต้มยำก๋วยเตี๋ยวและต้มยำกุ้ง ผมสั่งแบบ "ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำเกี๊ยวกุ้ง" ด้วย จะกินโชว์ทั้งทีมันต้องให้ครบสูตรสิ ... ง่อวววววว
ร้านนี้จะคึกคักมากในช่วงเที่ยงๆ เพราะเป็นจุดหมายหลักของชาวออฟฟิศในย่าน เวลาหิวแล้วนึกอะไรไม่ออกร้านนี้มักเป็นคำตอบอยู่เสมอ ภายในร้านตกแต่งสไตล์บ้านคนจีน มีโซนที่นั่งหลังตรงแบบบนรถไฟชั้น ๓ สมัยก่อนด้วย รอไม่นานอาหารที่สั่งก็มาอยู่ตรงหน้า เป็นต้มยำที่ใส่พริกป่น ถั่วลิสงป่น ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ฮือก๊วย หมูสับ ถั่วงอก ผักกวางตุ้ง!?!? และ เกี๊ยวกุ้ง ไฮไลต์ของชามนี้ ที่ไม่ผิดหวังจริงๆ เกี๊ยวห่อกุ้งสัมผัสได้ถึงกุ้ง ส่วนอื่นๆ ลูกชิ้นปลาก็เนื้อเด้งดี ลูกชิ้นอื่นๆ ก็ตามมาตรฐาน พอมาชิมน้ำแกงคำแรกที่รับรู้คือรสเผ็ดโดดขึ้นมาเดี่ยวๆ พอทานซ้ำไปสักพักเริ่มมีรสเปรี้ยวมะนาว หวาน เค็ม ตามมา ก็โอเคนะ กับชามนี้ ๕๕ บาท ใครสนใจมาทาน อย่าเผลอมาวันอาทิตย์นะครับ เพราะร้านนี้เขาปิด
เจ้าต่อมามาลองลิ้มชิมรสเล็กยำสไตล์อิสลามกันบ้าง กับร้านนี้อยู่ในตรอกสุเหร่า หรือ ซอยมัสยิดจักรพงษ์ อีก ๑ ศาสนสถานสำคัญของชาวบางลำพู บนถนนจักรพงษ์ ด้านหน้าตรอกจะมีเนื้อปิ้งขายอยู่ ถัดเข้ามาเป็นร้านข้าวแกง แล้วก็ร้านก๋วยเตี๋ยว ติดกันยังมีบ้านหลังนึงขายข้าวหมกไก่อร่อยด้วย ไว้วันหลังจะมาเล่าให้ฟัง วันนี้ขอทำภารกิจก่อน ที่นี่ไม่มีชื่อร้าน หรือมีก็ไม่แน่ใจนัก เอาเป็นว่าชื่อ “ก๋วยเตี๋ยวมัสยิดจักรพงษ์” แล้วกัน ขายราคาธรรมดาชามละ ๔๐ บาท เท่าที่เคยสังเกตรู้สึกจะหยุดวันอังคารนะ
“ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำ” ของร้านนี้ก็ค่อนข้างคล้ายกับหลายๆ เจ้า มีลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ฮือก๊วย แต่เพิ่มเกี๊ยวไก่ กับ เนื้อไก่มาให้ ซึ่งเครื่องก็เยอะใช้ได้เหมือนกัน ใส่ถั่วงอก ถั่วป่น พริกป่น แต่ลองชิมน้ำแกงดูแล้วรู้สึกเหมือนมีรสพริกเผามาด้วยแหะ มันเผ็ดอวลๆ เกือบจะจัดแต่ก็ไม่จัด มีรสหวานตามมา รสเปรี้ยวกับเค็มจางๆ ผสมกัน ส่วนเครื่องพวกลูกชิ้น ที่ให้มานั้น ยอมรับเลยว่า รสชาติไม่ค่อยประทับใจเท่ากับหลายๆ ร้าน ตัวเกี๊ยวก็ธรรมดาไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก .... เอาแค่นี้ดีกว่า
มาถึงร้านที่ ๗ ข้ามถนนจักรพงษ์ กลับมาที่ถนนพระสุเมรุ เลี้ยวเข้าซอยไกรสีห์ ซอยเล็กๆ ข้างธนาคารกรุงไทย หลังห้างนิวเวิร์ลด์ที่เคยรุ่งเรืองแห่งย่านบางลำพู กับร้าน “ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาทำเอง” หรืออีกชื่อคือร้านก๋วยเตี๋ยวเจ๊หมวย ที่มีเพียงรถเข็นตั้งเป็นเพิงเล็กๆ กับโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งทานริมซอก ในซอย ร้านนี้ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเล็กยำร้านแรกๆ ที่ได้ทาน ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ชายคาบ้านพระอาทิตย์
มาเดี๋ยวนี้อัพราคาขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจ ธรรมดา ๓๕ พิเศษ ๔๐ แน่นอนว่า ผมต้องสั่งพิเศษ เพราะมันมีของเด็ดอย่างเกี๊ยวหมูใส่ลงมาด้วย ไม่นานนัก “ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำพิเศษ” ก็มาเสิร์ฟ ในชามมีหมูชิ้น ฮือก๊วย เกี๊ยวปลา ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลา เกี๊ยวหมู และเกี๊ยวแผ่นทอด มีผักเป็นถั่วงอก ยำแบบใส่ถั่วป่น รสชาติของที่นี่ขึ้นชื่อว่าเผ็ดสุดๆ เผ็ดจริงๆ ไม่ได้เผ็ดเล่นๆ ทานไปเหงื่อแตกไปแน่นอน พอเริ่มได้ที่รสเปรี้ยวน้ำส้มสายชูและรสหวานจะตามมา ส่วนลูกชิ้นปลาก็เด้งดี อื่นๆ ก็ตามมาตรฐาน เกี๊ยวหมูที่เพิ่มมาก็ได้สัมผัสถึงเนื้อหมูแต่จะออกเค็มไปหน่อย ใครชอบทานเผ็ด ที่นี่ควรลองครับ
อีกร้านที่น่าสนใจในย่านนี้อยู่บนถนนสิบสามห้าง ตรงข้ามกับวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ชื่อร้าน “ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายง้ำ” ที่น่าจะเคยโด่งดังเมื่ออดีต และเป็นที่ฝากท้องของขาจร นักท่องเที่ยว นักช็อป จนพนักงานหน้าร้านลวกก๋วยเตี๋ยวกันมือเป็นระวิง ผมสั่ง “ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำ” ธรรมดาชามละ ๔๐ บาท เพราะคิดว่าคงไม่มีไอเท็มลับอะไรใส่มาให้ รอสักพักก็ได้เมนูที่สั่งไว้
เล็กยำในชามนี้ ก็ไม่ต่างกับร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาที่อื่นนัก มีหมูชิ้น ลูกชิ้นปลา ฮือก๊วย ลูกชิ้นกุ้ง เกี๊ยวปลา ถั่วงอก ผักกาดหอม ถั่วป่น และพริกป่น แบบหยาบๆ ที่ดูน่าจะผ่านการเผามา ลองชิมน้ำแกงเป็นสิ่งแรก กลิ่นพริกเด่นชัดขึ้นมาพอๆ กับถั่วที่คั่วจนหอม แต่รสกลับเผ็ดกลางๆ และจืด ทานไปสักพักเริ่มรับรู้ถึงรสหวานและเค็มตามมา แต่นับว่าน้อย ส่วนรสเปรี้ยวนั่นเจือจางจริงๆ ... ส่วนเครื่อง ลูกชิ้นปลา เนื้อเด้งดี ฮือก๊วย ลูกชิ้นกุ้ง ก็อร่อยตามมาตรฐาน ที่ชอบสุดคือเกี๊ยวปลาที่นี่หนา ไม่คาว ไม่เลี่ยน เหนียวนุ่มดี ก็อย่างว่า ... ร้านนี้เขาเด่นที่ลูกชิ้นนิ
ร้านสุดท้ายอยู่บนถนนตะนาว ใกล้ๆ กับร้านขนมปังพรชัย เจ้าดังแห่งบางลำพู อยู่ในตรอกเล็กๆ หน้าตรอกจะมีรถเข็นวางตู้โชว์ลูกชิ้น มีป้ายเชลล์ชวนชิมเขียนไว้ว่า “กิมเซี้ย” แค่ป้ายก็น่าสนใจแล้ว ภายในมีที่นั่งเพียงไม่กี่โต๊ะอยู่ทั้ง ๒ ฟากของตรอกให้รถเข็นหรือมอเตอร์ไซค์สามารถผ่านไปได้ ร้านเปิดตั้งแต่ช่วงเช้า หยุดวันพุธปลายเดือน แต่เนื่องจากไม่ได้กินมานาน เลยถามพ่อค้าไปว่า พิเศษกับธรรมดาต่างกันอย่างไร แกก็บอกว่า พิเศษ ๔๕ บาท มีเกี๊ยวปลา ส่วนธรรมดา ๓๕ บาท มีแต่ลูกชิ้นปกติ ก็โอเค สั่ง “ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำพิเศษ” มาลองดูว่าจะเหมือนหรือต่างจากก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาร้านอื่นหรือเปล่า ....
เล็กยำของที่นี่ดูน่าจะเผ็ดไม่น้อย มีลูกชิ้นปลา ที่เนื้อเด้งตามมาตรฐาน ลูกชิ้นกุ้งทั้งแบบทอด และแบบนึ่ง อันนี้แปลกรสคล้ายๆ กุ้งปั้นก้อนที่นึ่งมาในติ่มซำ (ผมก็เรียกไม่ถูกแหะ) ส่วนแบบทอดก็ผสมแห้วมาด้วย และยังมีเกี๊ยวทอด ลูกชิ้นปลาทอดพอง อันนี้ก็ชอบ ปลาเส้นผสมพริกที่ทำเป็นแท่งคล้ายหมูยอหั่นมา ๑ ชิ้น รสชาติอารมณ์เหมือนกินไส้กรอกโบโลน่าใส่พริกเลย อร่อยดี และสุดท้าย เกี๊ยวปลา นี่ก็ดีไม่แพ้เจ้าอื่น เหนียวนุ่ม สัมผัสได้ถึงรสปลา แต่ไม่เลี่ยน รสต้มยำที่นี่จัดว่าเผ็ด เผ็ดโดดมาเลยล่ะ กลิ่นพริกป่นหอมดี รสเปรี้ยวน้ำส้มสายชูค่อยๆ ตามมา และจบด้วยรสเค็มและหวานจางๆ
ทั้งหมดนี้ก็เป็น ๙ ร้านตัวอย่างที่ผมไปเสาะแสวงหามาเล่าให้ได้อ่านยั่วน้ำลายกัน ซึ่งมันก็คือส่วนหนึ่งในการทดลองของผม ที่ชอบหาแต่ละร้านมาเปรียบเทียบ “ความต่าง” ที่เป็นเสมือนเอกลักษณ์ของแต่ละร้าน แม้จะดูเหมือนกัน ผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกัน แต่สุดท้ายมันย่อมมีความต่าง ไม่มากก็น้อย อยู่ในตัวของมัน ส่วนเรื่อง “ความชอบ” นั้นก็เป็นวิจารณญานของลิ้นและประสบการณ์แต่ละคน ก็คงมาโทษว่าใครผิดถูกคงไม่ได้
แต่ถ้าถามว่า ผมชอบร้านไหนที่สุดละก็ .... ขออุบคำตอบเอาไว้แอบไปนั่งกินประจำคนเดียวแล้วกันครับ .... เดี๋ยวร้านอื่นๆ เขาจะเสียใจ (ทำเสียงแบบบุญชู ) ฮ่าๆๆๆๆ
วิถีชาวกรุง : เมื่อผมสั่ง "เล็กยำ" ๙ ร้านย่านบางลำพู (๑)
ผ่านไปแล้ว ๓ ร้าน กับภารกิจตามล่าหา "เล็กยำ" ก๋วยเตี๋ยวเมนูโปรดของผม จากย่าน ถ.สามเสน เราจะมุ่งสู่ถนนพระอาทิตย์ แว่บถนนจักรพงษ์ แล้วตรงไปถนนพระสุเมรุ วกเข้าถนนสิบสามห้าง แล้วปิดท้ายที่ถนนตะนาว เก็บ ๖ ร้านที่เหลือมาเล่าให้ได้อ่านกัน
ถ้าพร้อมแล้ว มาลุยกันต่อครับ
ร้านที่ ๔ อยู่ใกล้กองบัญชาการบ้านพระอาทิตย์มากๆ ห่างกันแค่ไม่กี่คูหา กับร้านที่ชื่อ "จานโปรด" หรือร้านบ้านปลาสด ที่โด่งดังในอดีต แต่เปลี่ยนมาขายก๋วยเตี๋ยวและอาหารได้หลายปีมาแล้ว ความน่าสนใจของร้านนี้อยู่ที่ก๋วยเตี๋ยวสมุนไพรเส้นโหรา?? คือมีให้เลือกถึง ๙ สูตรตามดาวประจำวันเกิด!!! คุณพระ ... เดี๋ยวนี้จะกินยังต้องดูดวงด้วยเหรอ?? ... นั่นก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลกันไป และแน่นอนผมเกิดวันจันทร์ ก็ต้องกินก๋วยเตี๋ยวหมูใจดี สูตรอ่อนโยน หรือ ต้มจืดนั่นเอง ...
แต่ ... เฮ้ย เรามาตามหาเล็กยำนะครับ!! ความเชื่อนี้จึงยุติลง ผมถามพี่พนักงานว่าเล็กยำที่นี่มีอะไรแนะนำ เอาตัวท็อปเลย แกแนะนำเป็น "ก๋วยเตี๋ยวต้มยำปลากะพง สูตรครบเครื่องประเทืองปัญญาาาาาาาาาาา" (ลากเสียงยาวให้เหมือนรายการแข่งอาหาร) ซึ่งเมนูนี้มี ๒ ราคา ธรรมดา ๘๐ บาท!! กับพิเศษ ๑๐๐ บาท ... เห็นราคาแล้วอยากจะเห็นหน้าตาสินค้าในบัดเดียวนี้
บรรยากาศร้านจัดว่าดี มีที่นั่งโซนใต้ถุนบ้าน และสวนเล็กๆ ที่มีน้าคนนึงเอาอาหารมาล่อกระรอกให้ไต่ต้นไม้ลงมากินโชว์นักท่องเที่ยวต่างชาติ ร้านนี้หยุดทุกวันพฤหัสบดี นับว่าต่างจากเจ้าอื่นในย่าน ไม่นานนักเล็กยำของผมก็มา ดูจากหน้าตาแล้วน่าสนใจไม่น้อย มีปลากะพง กุ้งแห้ง ถั่วป่น งาขาว นอกจากนี้ก็มีผักอย่างถั่วงอก และผักบุ้ง ใส่มาด้วย ... อืมมม์ แปลกดีนะ พอเริ่มคนๆ แล้วตักน้ำแกงชิมคำแรก ... มีรสเค็มแล้วค่อยเปรี้ยวน้ำมะนาว ทานสักพักทำไมรู้สึกเหมือนกินแกงส้มก็ไม่รู้ หรือนี่จะเป็นสูตรต้มยำของเขา เนื้อปลาสดดี แน่น อร่อย อันนี้ชอบๆ ส่วนเส้นเหนียวนุ่มลื่นดี โดยรวมก็โอเคครับ นานๆ กินที
ต่อด้วยอีกร้านที่อยู่ไม่ไกลกันนัก สุดเขตถนนพระอาทิตย์พอดี ชื่อร้าน "พัวกี่" นี่ก็เป็นอีก ๑ เจ้าที่อยู่บนถนนสายนี้มานาน และเป็นเจ้าประจำของชาวผู้จัดการอีก ๑ แห่ง อาหารตามสั่ง อย่างข้าวผัด ข้าวหมูกระเทียม ที่นี่อร่อยครับ (เพราะกินอยู่ไม่กี่เมนู) ที่เด่นอีกอย่างของร้านนี้คือเย็นตาโฟ และ เกี๊ยวกุ้ง ... แต่งวดนี้เราจะสั่งเล็กยำครับ ซึ่งเล็กยำเขาก็มีทั้งแบบต้มยำก๋วยเตี๋ยวและต้มยำกุ้ง ผมสั่งแบบ "ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำเกี๊ยวกุ้ง" ด้วย จะกินโชว์ทั้งทีมันต้องให้ครบสูตรสิ ... ง่อวววววว
ร้านนี้จะคึกคักมากในช่วงเที่ยงๆ เพราะเป็นจุดหมายหลักของชาวออฟฟิศในย่าน เวลาหิวแล้วนึกอะไรไม่ออกร้านนี้มักเป็นคำตอบอยู่เสมอ ภายในร้านตกแต่งสไตล์บ้านคนจีน มีโซนที่นั่งหลังตรงแบบบนรถไฟชั้น ๓ สมัยก่อนด้วย รอไม่นานอาหารที่สั่งก็มาอยู่ตรงหน้า เป็นต้มยำที่ใส่พริกป่น ถั่วลิสงป่น ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ฮือก๊วย หมูสับ ถั่วงอก ผักกวางตุ้ง!?!? และ เกี๊ยวกุ้ง ไฮไลต์ของชามนี้ ที่ไม่ผิดหวังจริงๆ เกี๊ยวห่อกุ้งสัมผัสได้ถึงกุ้ง ส่วนอื่นๆ ลูกชิ้นปลาก็เนื้อเด้งดี ลูกชิ้นอื่นๆ ก็ตามมาตรฐาน พอมาชิมน้ำแกงคำแรกที่รับรู้คือรสเผ็ดโดดขึ้นมาเดี่ยวๆ พอทานซ้ำไปสักพักเริ่มมีรสเปรี้ยวมะนาว หวาน เค็ม ตามมา ก็โอเคนะ กับชามนี้ ๕๕ บาท ใครสนใจมาทาน อย่าเผลอมาวันอาทิตย์นะครับ เพราะร้านนี้เขาปิด
เจ้าต่อมามาลองลิ้มชิมรสเล็กยำสไตล์อิสลามกันบ้าง กับร้านนี้อยู่ในตรอกสุเหร่า หรือ ซอยมัสยิดจักรพงษ์ อีก ๑ ศาสนสถานสำคัญของชาวบางลำพู บนถนนจักรพงษ์ ด้านหน้าตรอกจะมีเนื้อปิ้งขายอยู่ ถัดเข้ามาเป็นร้านข้าวแกง แล้วก็ร้านก๋วยเตี๋ยว ติดกันยังมีบ้านหลังนึงขายข้าวหมกไก่อร่อยด้วย ไว้วันหลังจะมาเล่าให้ฟัง วันนี้ขอทำภารกิจก่อน ที่นี่ไม่มีชื่อร้าน หรือมีก็ไม่แน่ใจนัก เอาเป็นว่าชื่อ “ก๋วยเตี๋ยวมัสยิดจักรพงษ์” แล้วกัน ขายราคาธรรมดาชามละ ๔๐ บาท เท่าที่เคยสังเกตรู้สึกจะหยุดวันอังคารนะ
“ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำ” ของร้านนี้ก็ค่อนข้างคล้ายกับหลายๆ เจ้า มีลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ฮือก๊วย แต่เพิ่มเกี๊ยวไก่ กับ เนื้อไก่มาให้ ซึ่งเครื่องก็เยอะใช้ได้เหมือนกัน ใส่ถั่วงอก ถั่วป่น พริกป่น แต่ลองชิมน้ำแกงดูแล้วรู้สึกเหมือนมีรสพริกเผามาด้วยแหะ มันเผ็ดอวลๆ เกือบจะจัดแต่ก็ไม่จัด มีรสหวานตามมา รสเปรี้ยวกับเค็มจางๆ ผสมกัน ส่วนเครื่องพวกลูกชิ้น ที่ให้มานั้น ยอมรับเลยว่า รสชาติไม่ค่อยประทับใจเท่ากับหลายๆ ร้าน ตัวเกี๊ยวก็ธรรมดาไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก .... เอาแค่นี้ดีกว่า
มาถึงร้านที่ ๗ ข้ามถนนจักรพงษ์ กลับมาที่ถนนพระสุเมรุ เลี้ยวเข้าซอยไกรสีห์ ซอยเล็กๆ ข้างธนาคารกรุงไทย หลังห้างนิวเวิร์ลด์ที่เคยรุ่งเรืองแห่งย่านบางลำพู กับร้าน “ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาทำเอง” หรืออีกชื่อคือร้านก๋วยเตี๋ยวเจ๊หมวย ที่มีเพียงรถเข็นตั้งเป็นเพิงเล็กๆ กับโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งทานริมซอก ในซอย ร้านนี้ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเล็กยำร้านแรกๆ ที่ได้ทาน ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ชายคาบ้านพระอาทิตย์
มาเดี๋ยวนี้อัพราคาขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจ ธรรมดา ๓๕ พิเศษ ๔๐ แน่นอนว่า ผมต้องสั่งพิเศษ เพราะมันมีของเด็ดอย่างเกี๊ยวหมูใส่ลงมาด้วย ไม่นานนัก “ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำพิเศษ” ก็มาเสิร์ฟ ในชามมีหมูชิ้น ฮือก๊วย เกี๊ยวปลา ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลา เกี๊ยวหมู และเกี๊ยวแผ่นทอด มีผักเป็นถั่วงอก ยำแบบใส่ถั่วป่น รสชาติของที่นี่ขึ้นชื่อว่าเผ็ดสุดๆ เผ็ดจริงๆ ไม่ได้เผ็ดเล่นๆ ทานไปเหงื่อแตกไปแน่นอน พอเริ่มได้ที่รสเปรี้ยวน้ำส้มสายชูและรสหวานจะตามมา ส่วนลูกชิ้นปลาก็เด้งดี อื่นๆ ก็ตามมาตรฐาน เกี๊ยวหมูที่เพิ่มมาก็ได้สัมผัสถึงเนื้อหมูแต่จะออกเค็มไปหน่อย ใครชอบทานเผ็ด ที่นี่ควรลองครับ
อีกร้านที่น่าสนใจในย่านนี้อยู่บนถนนสิบสามห้าง ตรงข้ามกับวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ชื่อร้าน “ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายง้ำ” ที่น่าจะเคยโด่งดังเมื่ออดีต และเป็นที่ฝากท้องของขาจร นักท่องเที่ยว นักช็อป จนพนักงานหน้าร้านลวกก๋วยเตี๋ยวกันมือเป็นระวิง ผมสั่ง “ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำ” ธรรมดาชามละ ๔๐ บาท เพราะคิดว่าคงไม่มีไอเท็มลับอะไรใส่มาให้ รอสักพักก็ได้เมนูที่สั่งไว้
เล็กยำในชามนี้ ก็ไม่ต่างกับร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาที่อื่นนัก มีหมูชิ้น ลูกชิ้นปลา ฮือก๊วย ลูกชิ้นกุ้ง เกี๊ยวปลา ถั่วงอก ผักกาดหอม ถั่วป่น และพริกป่น แบบหยาบๆ ที่ดูน่าจะผ่านการเผามา ลองชิมน้ำแกงเป็นสิ่งแรก กลิ่นพริกเด่นชัดขึ้นมาพอๆ กับถั่วที่คั่วจนหอม แต่รสกลับเผ็ดกลางๆ และจืด ทานไปสักพักเริ่มรับรู้ถึงรสหวานและเค็มตามมา แต่นับว่าน้อย ส่วนรสเปรี้ยวนั่นเจือจางจริงๆ ... ส่วนเครื่อง ลูกชิ้นปลา เนื้อเด้งดี ฮือก๊วย ลูกชิ้นกุ้ง ก็อร่อยตามมาตรฐาน ที่ชอบสุดคือเกี๊ยวปลาที่นี่หนา ไม่คาว ไม่เลี่ยน เหนียวนุ่มดี ก็อย่างว่า ... ร้านนี้เขาเด่นที่ลูกชิ้นนิ
ร้านสุดท้ายอยู่บนถนนตะนาว ใกล้ๆ กับร้านขนมปังพรชัย เจ้าดังแห่งบางลำพู อยู่ในตรอกเล็กๆ หน้าตรอกจะมีรถเข็นวางตู้โชว์ลูกชิ้น มีป้ายเชลล์ชวนชิมเขียนไว้ว่า “กิมเซี้ย” แค่ป้ายก็น่าสนใจแล้ว ภายในมีที่นั่งเพียงไม่กี่โต๊ะอยู่ทั้ง ๒ ฟากของตรอกให้รถเข็นหรือมอเตอร์ไซค์สามารถผ่านไปได้ ร้านเปิดตั้งแต่ช่วงเช้า หยุดวันพุธปลายเดือน แต่เนื่องจากไม่ได้กินมานาน เลยถามพ่อค้าไปว่า พิเศษกับธรรมดาต่างกันอย่างไร แกก็บอกว่า พิเศษ ๔๕ บาท มีเกี๊ยวปลา ส่วนธรรมดา ๓๕ บาท มีแต่ลูกชิ้นปกติ ก็โอเค สั่ง “ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำพิเศษ” มาลองดูว่าจะเหมือนหรือต่างจากก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาร้านอื่นหรือเปล่า ....
เล็กยำของที่นี่ดูน่าจะเผ็ดไม่น้อย มีลูกชิ้นปลา ที่เนื้อเด้งตามมาตรฐาน ลูกชิ้นกุ้งทั้งแบบทอด และแบบนึ่ง อันนี้แปลกรสคล้ายๆ กุ้งปั้นก้อนที่นึ่งมาในติ่มซำ (ผมก็เรียกไม่ถูกแหะ) ส่วนแบบทอดก็ผสมแห้วมาด้วย และยังมีเกี๊ยวทอด ลูกชิ้นปลาทอดพอง อันนี้ก็ชอบ ปลาเส้นผสมพริกที่ทำเป็นแท่งคล้ายหมูยอหั่นมา ๑ ชิ้น รสชาติอารมณ์เหมือนกินไส้กรอกโบโลน่าใส่พริกเลย อร่อยดี และสุดท้าย เกี๊ยวปลา นี่ก็ดีไม่แพ้เจ้าอื่น เหนียวนุ่ม สัมผัสได้ถึงรสปลา แต่ไม่เลี่ยน รสต้มยำที่นี่จัดว่าเผ็ด เผ็ดโดดมาเลยล่ะ กลิ่นพริกป่นหอมดี รสเปรี้ยวน้ำส้มสายชูค่อยๆ ตามมา และจบด้วยรสเค็มและหวานจางๆ
ทั้งหมดนี้ก็เป็น ๙ ร้านตัวอย่างที่ผมไปเสาะแสวงหามาเล่าให้ได้อ่านยั่วน้ำลายกัน ซึ่งมันก็คือส่วนหนึ่งในการทดลองของผม ที่ชอบหาแต่ละร้านมาเปรียบเทียบ “ความต่าง” ที่เป็นเสมือนเอกลักษณ์ของแต่ละร้าน แม้จะดูเหมือนกัน ผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกัน แต่สุดท้ายมันย่อมมีความต่าง ไม่มากก็น้อย อยู่ในตัวของมัน ส่วนเรื่อง “ความชอบ” นั้นก็เป็นวิจารณญานของลิ้นและประสบการณ์แต่ละคน ก็คงมาโทษว่าใครผิดถูกคงไม่ได้
แต่ถ้าถามว่า ผมชอบร้านไหนที่สุดละก็ .... ขออุบคำตอบเอาไว้แอบไปนั่งกินประจำคนเดียวแล้วกันครับ .... เดี๋ยวร้านอื่นๆ เขาจะเสียใจ (ทำเสียงแบบบุญชู ) ฮ่าๆๆๆๆ