ริ้วขบวนพระอิสริยยศพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ “สมเด็จพระสังฆราช” ออกจากวัดบวรฯ ไปยังพระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติตามแบบโบราณราชประเพณี “สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์” นั่งเสลี่ยงราชรถพระนำอ่านพระอภิธรรม ประชาชนสวมชุดดำร่วมส่งเสด็จเนืองแน่น
วันนี้ (16 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ตั้งแต่ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ทหาร ตำรวจ คณะศิษยานุศิษย์ ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานได้เข้าร่วมริ้วขบวนพระอิสริยยศแห่เชิญพระโกศพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) ที่หน้าวัดบวรนิเวศวิหาร ด้านถนนพระสุเมรุ จำนวนรวม 1,424 คน โดยเมื่อเวลา 07.00 น. พล.ท.ม.จ.เฉลิมศึก ยุคล เป็นผู้แทนพระองค์ มาเป็นประธานในพิธีเชิญพระโกศพระศพสมเด็จพระสังฆราชลงจากพระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร ประดิษฐานยังราชรถในริ้วขบวน
เมื่อเวลา 08.00 น. ริ้วขบวนพระอิสริยยศพร้อมเคลื่อนขบวนจากวัดบวรนิเวศวิหาร ไปตามถนนพระสุเมรุเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ไปตามถนนหลานหลวง เลี้ยวขวาไปตามถนนกรุงเกษม เลี้ยวขวาถนนหลวง เข้าสู่พระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส ทางประตูด้านใต้ รวมระยะทาง 3.38 กิโลเมตร ทั้งนี้ เมื่อถึงวัดเทพศิรินทราวาสจะปรับเป็นริ้วขบวนที่ 2 เป็นขบวนเชิญพระโกศพระศพเวียนรอบพระเมรุ
สำหรับริ้วขบวนพระอิสริยยศ ประกอบด้วย ขบวนทหาร 3 เหล่าทัพ 3 กองพัน ขบวนพระอิสริยยศ พนักงานพระราชพิธีนำริ้ว ประตูหน้า ธง 3 ชาย นำริ้วขบวน คู่แห่นุ่งผ้าเกี้ยวลาย สวมเสื้อครุย ลอกพอก สายละ 80 จำนวน 2 สาย กลองชนะพื้นแดงลายทอง สายละ 40 จำนวน 2 สาย จ่าปี่ จ่ากลอง แตรฝรั่ง แครงอน สังข์ สารวัตรกลองชนะ สารวัตรแตร
เครื่องสูงพระนำหน้า มีฉัตร 5 ชั้น บังแทรก ฉัตร 7 ชั้น เครื่องสูงหลังพระนำ มีฉัตร 5 ชั้น ฉัตร 7 ขั้น และบังแทรก ตามด้วยสัปทนกั้นพระนำ บังสูรย์พระนำ กำกับเครื่องสูงพระนำ พนักงานเชิญพัดยศสมณศักดิ์พระนำ รถพระอ่านพระอภิธรรมนำ คนฉุดชักรถพระนำและยกบันได พนักงานถือแพนหางนกยูง คู่เคียง รถพระนำข้าราชการกระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แวดล้อมด้วยเครื่องสูงเชิญหน้าราชรถพระโกศพระศพ ประกอบด้วยฉัตร 5 ชั้น ฉัตร 7 ชั้น และบังแทรก กำกับเครื่องสูงหน้า ผู้อำนวยการขบวน ผู้จัดขบวนและควบคุม พระแสงหว่างเครื่องหน้า กำกับพระแสงหว่างเครื่องหน้า
ราชรถเชิญพระโกศพระศพ คนฉุดชักราชรถและยกบันได กำกับราชรถเชิญพระโกศพระศพ พนักงานถือแพนหางนกยูง พนักงานภูษามาลาประคองโกษ เชิญพระกลดตาดขาว บังพระสูรย์ พัดโบก คู่เคียงราชรถพระโกศพระศพ โดยข้าราชการกระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ข้างละ 2 จำนวน 2 ข้าง อินทร์เชิญจามร พรหมเชิญจามร เครื่องสูงหลังราชรถเชิญพระโกศพระศพ มีฉัตร 7 ชั้น ฉัตร 5 ชั้น และบังแทรก กำกับเชิฐเครื่องสูงหลัง ประตูหลัง และเชิญเครื่องยศสมณศักดิ์ตาม เป็นริ้วขบวนที่ 1 โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช นั่งเสลี่ยงราชรถพระนำอ่านพระอภิธรรม ถือเป็นขบวนพระเกียรติยศ ซึ่งจัดตามแบบโบราณราชประเพณี
ทั้งนี้ วัดบวรนิเวศวิหารได้จัดซุ้มดอกไม้จันทน์บริเวณลานข้างโรงเรียนวัดบวรนิเวศ รองรับพุทธศาสนิกชนที่จะเดินทางมาร่วมพิธี อีกทั้งยังติดตั้งจอภาพแอลอีดีขนาดใหญ่ให้รับชมความสง่างามของริ้วขบวน ตลอดจนพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพทั้งหมดด้วย สำหรับตลอดเส้นทางเคลื่อนขบวนมีประชาชนแต่งกายชุดสีดำมาร่วมส่งเสด็จกันอย่างเนืองแน่น
สำหรับราชรถเชิญทั้ง 2 องค์ ได้สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 6 ใช้ในงานพิธีหรือพระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับทางพระพุทธศาสนา เช่น นำอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) มายังท้องสนามหลวง และใช้ในกระบวนพระอิสริยยศเชิญพระโกศสมเด็จพระสังฆราชในอดีต ทั้งหมดรวม 8 พระองค์ ตั้งแต่สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 11 สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ ในการพระราชทานเพลิงพระศพ ณ พระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส ในรัชกาลที่ 8 และสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (หม่อมราชวงศ์ชื่น นพวงศ์สุจิตโต) องค์ที่ 13 วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2502 และสมเด็จพระอรินวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) องค์ที่ 18 วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในรัชกาลที่ 9 ปี 2531
ติดตาม Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่