xs
xsm
sm
md
lg

ทันตแพทย์สาวหนีหนี้ทุนการศึกษา…เธอไม่ใช่คนแรกที่ทำแบบนี้

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย

สัปดาห์ก่อนโซเชียลมีเดียและสื่อต่างๆ วิพากษ์วิจารณ์ตุ๊กตาลูกเทพกระหึ่ม สัปดาห์นี้กระหึ่มด้วยข่าวอดีตอาจารย์ด้านทันตแพทย์ เบี้ยวทุนมหาวิทยาลัยมหิดล จากการขอทุนไปเรียนต่อระดับปริญญาโทปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา เรียนจบแล้วหนีหนี้ไม่ยอมกลับมาใช้ทุน ทำให้อาจารย์และเพื่อนผู้ค้ำประกันต้องแบกภาระใช้หนี้ก้อนโต

เธอเองอ้างเหตุผลการเบี้ยวหนี้ว่า รับไม่ได้ที่ต้องกลับมาใช้ทุนอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งฟังไม่ขึ้นเลยจริงๆ ถ้าคิดว่าการใช้ทุนแบบนี้ไม่เป็นธรรม ก็ไม่ควรขอรับทุนแต่แรก การขอทุนการศึกษาผู้ขอรับทุนต้องรับรู้ยอมรับเงื่อนไขต่างๆตามระเบียบของมหาวิทยาลัย ซึ่งต้องกำหนดและประกาศอย่างเป็นทางการอยู่แล้ว ผมว่าการอ้างแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการหนีปัญหา โยนขึ้ให้คนอื่นซะมากกว่า

ข่าวนี้กระจายออกไปอย่างกว้างขวางรวดเร็วตามพลังของกระแสโซเชียลมีเดีย และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตอนนี้คนไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาหลายคนออกมาช่วยกันแชร์ข้อมูลของทันตแพทย์สาวรายนี้กันยกใหญ่ ชนิดที่ว่าสืบกันไปส่องถึงหลังคาบ้าน ที่พักอาศัยหลังใหญ่ ซื้อบ้านราคาเท่าไร ออฟฟิศที่ทำงานอยู่ที่ไหน แต่งงานมีครอบครัวเปลี่ยนสัญชาติตามสามี ฯลฯ

ในที่สุดก็มีการแชร์ภาพหน้าตา ชื่อเสียงเรียงนาม และพฤติกรรมของเธอ เกิดกระแสการลงโทษทางสังคมกันอย่างกว้างขว้าง ชนิดเต็มหน้าเฟซบุ๊คเลยทีเดียว

แถมยังมีคนไทยบางส่วนรวมพลังกันแชร์เรื่องของเธอลงในเฟซบุ๊คอย่างเป็นทางการของทางมหาวิทยาลัยที่รับเธอทำงานในต่างประเทศด้วย

ที่จริงเรื่องขอรับทุนไปเรียนต่อแล้วไม่กลับมาทำงานใช้ทุน ไม่ยอมใช้หนี้ ผู้ค้ำประกันต้องใช้หนี้แทน เกิดขึ้นมาแล้วมากมาย ในเกือบทุกมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาวิทยาลัยของรัฐ ซึ่งเงินทุนการศึกษาต่อส่วนใหญ่เป็นเงินจากงบประมาณ จากภาษีของประชาชน

เป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับอาจารย์ รุ่นพี่ หรือเพื่อนอาจารย์ ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ค้ำประกัน เพราะความเมตตาลูกศิษย์ หรือเพราะความมีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนอาจารย์ สุดท้ายต้องรับภาระชดใช้เงินหลักสิบล้านแทนผู้รับทุน ในขณะที่อาจารย์เหล่านั้นต่างก็มีภาระในการเลี้ยงดูพ่อแม่และครอบครัวของตนอยู่แล้ว บางคนต้องทำงานใช้หนี้กันเป็นสิบๆปี หรือใช้หนี้กันจนถึงเกษียณอายุราชการก็มี

จริงๆแล้วการกู้ยืมเงิน หรือการขอทุนการศึกษาเพื่อเรียนต่อ ผู้ค้ำประกันควรเป็นคนในครอบครัวของผู้กู้ยืมหรือผู้รับทุน เช่นพ่อแม่หรือพี่น้องในครอบครัว ไม่ควรให้คนอื่นค้ำประกัน อาจารย์ที่มีลูกศิษย์มาขอร้องให้เป็นผู้ค้ำประกัน ต้องใจแข็งปฏิเสธครับ ถึงเป็นเพื่อนกันก็ไม่ควรค้ำประกัน

สังคมในปัจจุบัน มีผู้ค้ำประกันจำนวนมาก ที่ประสบชะตากรรมจากการค้ำประกันผู้อื่นที่เบี้ยวหนี้หนีหนี้ ผมว่าข่าวอาจารย์รายนี้หนีหนี้ทุนการศึกษา เป็นอุทาหรณ์เตือนใจคนในสังคมได้ดีตัวอย่างหนึ่ง ทุกคนต้องกล้าปฏิเสธไม่ยอมเป็นผู้ค้ำประกันให้ใครเด็ดขาด การต้องทำงานอย่างหนักหาเงินมาใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อนี่ ผมว่าชีวิตเจ็บช้ำลำบากไปถึงคนในครอบครัวที่ไม่ควรเกิดขึ้น

ปกติคนที่ได้รับทุนการศึกษาต่อทุกสาขา มักเป็นคนเรียนเก่ง มีความสามารถมากกว่าคนอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุนการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ปริญญาเอก ของมหาวิทยาลัยของรัฐ คนเก่งคนมีการศึกษาสูง มีความสามารถ แต่ขาดคุณธรรมจริยธรรมมีมากมาย ขาดสำนึกต่อส่วนรวม เงินก้อนโตที่ใช้เป็นทุนไปเรียนต่างประเทศเป็นเงินจากภาษีประชาชน

การหนีหนี้ไม่ใช้ทุน ให้อาจารย์หรือเพื่อนที่เมตตามีน้ำใจช่วยเหลือ ต้องรับภาระชดใช้หนี้แทน เป็นการ เนรคุณ สร้างปัญหาความยุ่งยากลำบากแก่ชีวิตและครอบครัวผู้มีพระคุณ เป็นการเห็นแก่ตัว คนชนิดนี้มีหรือจะทำเพื่อคนอื่นหรือเพื่อประเทศชาติ

การศึกษาไม่ได้ทำให้คนเก่งเป็นคนดีได้เลยครับ ผมว่าการสร้างคนดีมีคุณธรรมจริยธรรม อยู่ในศีลในธรรม ซื่อสัตย์สุจริตไม่เป็นคนคดโกง ไม่เป็นคนเห็นแก่ต้วจะหายากขึ้นทุกวัน มีแต่คนเห็นแก่ได้ ไม่คิดถึงความทุกข์ยากของคนอื่น ไม่คิดถึงส่วนรวม ไม่คิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ ปัญหาเหล่านี้ มันฟ้องว่า ระบบการศึกษาของเราล้มเหลว ถ้าไม่รีบแก้ไข คนแบบนี้จะเพิ่มมากขึ้นจนเต็มจนล้นประเทศ

เวลานี้ การกู้ยืมเงิน กยศ. เพื่อการศึกษาของนักศึกษาทั่วประเทศ ข้อมูลของกยศ.รายงานว่า จากปี 2539 จนถึงปีงบประมาณ 2556 กู้ไปแล้วกว่า 4 แสนล้านบาท จำนวนผู้กู้ราว 4 ล้านราย นายอารีพงศ์ ภู่ชะอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลังเปิดเผยว่าเมื่อปี 2557 ว่ามีผู้เรียนจบระดับปริญญาตรีแล้วจำนวนมาก เมื่อจบทำงานแล้ว ไม่ยอมชำระหนี้เลยราว 20-30% จากการสำรวจของกยศ. นศ.ที่กู้ยืมเงินมีความสามารถในการผ่อนชำระ แต่ไม่ยอมใช้หนี้มีถึง 70% อีก 30%ไม่มีงานทำ

ด้วยภาวะเศรษฐกิจบ้านเราที่ย่ำแย่มาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีหลัง ค่านิยมบริโภคล้นเกิน รายจ่ายไม่สมดุลกับรายรับ ทำให้หลายคนมีหนี้เพิ่มขึ้น ไม่ใช่แค่หนี้จากการกู้ยืมเรียนเท่านั้น แต่มีหนี้อื่นๆอีกมากมาย รวมทั้งเป็นหนี้ก้อนโตจากนโยบายประชานิยมของรัฐบาลที่ผ่านมา อย่าง หนี้ซื้อรถคันแรก หนี้ซื้อบ้านหลังแรก ฯลฯ

บัณฑิตหนีหนี้ทุนการศึกษา บอกถึงความล้มเหลวในการสร้างคนเก่งคนดีในระบบการศึกษาไทย ขืนปล่อยไว้อย่างนี้ บัณฑิตหนีหนี้คงล้นประเทศ แล้วประเทศไทยจะเหลืออะไรล่ะครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น