ในที่สุด "ตุ๊กตาลูกเทพ" ก็ค่อยๆ กลายไปเป็น "ตุ๊กตาลูกกำพร้า" เพราะถูกเหล่าบรรดาพ่อแม่ที่เคยศรัทธา หอบหิ้วทิ้งเกลื่อนวัด เกิดเป็นขยะศรัทธา สร้างภาระให้แก่พระ แม้บางคนเลือกเลี้ยงไว้ตามเดิม แต่คงไม่กล้าเอาออกไปไหนมาไหน เหตุเพราะทนสังคมแอนตี้ไม่ไหว เป็นไปตามสัจธรรมของโลก "อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป โดยเฉพาะในโลกยุควัตถุนิยมที่ทุกอย่างมาไวไปไว
ลูกเทพตกกระป๋อง ถูกทิ้งเกลื่อนวัด!
บทจะรักก็เลี้ยงดูปรนเปรอ บทจะชังก็ทอดทิ้งไม่เหลียวแล วันนี้ "ตุ๊กตาลูกเทพ" กลายเป็น "ตุ๊กตาขยะ" ถูกทิ้งเกลื่อนวัด นั่งกันหน้าสลอน หลอกหลอนสายตาแก่ผู้พบเห็น โดยเฉพาะชาวบ้านที่เดินทางมาทำบุญในวัดสว่างอารมณ์ ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เพราะมีรายงานว่า พ่อแม่ลูกเทพหลายคนเลิกรัก เลิกเห่อ หิ้วตุ๊กตาลูกเทพ ซึ่งมีกว่า 10 ตัวมาทิ้งไว้ตามใต้ต้นโพธิ์ในบริเวณวัด และวางไว้ตามสถูปเจดีย์ โดยมีธูปจุดปักไว้เหมือนเป็นการบอกกล่าวอำลา
ส่วนเหตุผลของการอุ้มมาทิ้ง อาจมีทั้งคนที่ "ตาสว่าง" มองเห็นความจริงมากขึ้น หลังจากมีกระแสขุดรากถอนโคนให้คนตาสว่างเข้าใจว่าอะไรคือสาระที่แท้จริง อะไรควรเชื่อ ไม่ควรเชื่อ ในขณะที่บางคนทนกระแสสังคมแอนตี้ไม่ไหว ทำให้ภาพลักษณ์ของกลุ่มคนที่นิยมเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพถูกมองเป็นลบ ทั้งถูกมองแรง และหัวเราะคิกคักว่า "บ้า" จนคนบางส่วนเริ่มลังเล ไม่มั่นใจในการอุ้มตุ๊กตาออกไปไหนมาไหนด้วย
นับว่าเป็นไปตามที่ พระพยอม กัลยาโณ หรือพระราชธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เคยออกมายืนยันผ่านสื่อฉบับหนึ่งว่า อีกไม่นานตุ๊กตาลูกเทพก็เป็นขยะความเชื่อ เพราะ "จตุคามรามเทพตัวพ่อ" เป็นขยะไปแล้ว ทิ้งกันเกลื่อนกลาดไปแล้ว ซึ่งของพวกนี้เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป
สอดรับกับ "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ก็ตอกย้ำว่า คนไทยส่วนใหญ่ส่ายหน้ากับตุ๊กตาดังกล่าว เห็นได้จากผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,029 คน ระหว่างวันที่ 26-27 มกราคม 2559 ส่วนใหญ่มองว่า งมงาย ล้าหลัง พึ่งไสยศาสตร์ 71.22% อันดับ 2 สิ้นเปลืองเงินทอง 60.71% อันดับ 3 ผู้ไม่หวังดีนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องเช่น ซุกยาเสพติด หลอกลวง ต้มตุ๋น 50.45%
ส่วนเรื่องที่มีการนำตุ๊กตาลูกเทพไปปลุกเสกเพื่อบูชา ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ พบว่า ไม่เห็นด้วย 51.90% เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะมีพระสงฆ์มาเกี่ยวข้องขัดต่อหลักพุทธศาสนา ดูน่ากลัว ฯลฯ อันดับ 2 เฉย ๆ 45.19% เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล ขึ้นอยู่กับความเชื่อและวิจารณญาณของแต่ละคนฯลฯ
เมื่อถามว่ามีความสนใจที่จะซื้อมาบูชาบ้างหรือไม่นั้น อันดับ 1 ไม่สนใจ 98.54% เพราะสิ้นเปลืองเงินทอง ไร้สาระ งมงาย ชีวิตจะดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับความขยันและการกระทำมากกว่า ฯลฯ อันดับ 2 สนใจ 1.46% เพราะตุ๊กตาน่ารักดี อยากมีไว้เป็นของตัวเองบ้าง และอยากลองพิสูจน์ดูว่าจะดีจริงหรือไม่
ไม่แปลกที่กระแสตุ๊กตาลูกเทพจะค่อยๆ หดหายไป เพราะสังคมไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย โดยมองว่า งมงาย สิ้นเปลืองเงินทอง ประกอบกับกระแสแอนตี้จากโลกโซเชียลฯ สุดท้ายก็ค่อยๆ กลายเป็น "ตุ๊กตาลูกกำพร้า" ถูกทิ้งวัด เพราะไม่มีใครรัก ไม่มีใครเลี้ยงอีกต่อไปแล้ว แม้บางกลุ่มจะยังคงมีความเชื่อ ความศรัทธา และเลี้ยงดูบูชาตามเดิม แต่บางคนก็เริ่มลังเลที่จะหอบกระเตงไปไหนมาไหนเหมือนแต่ก่อน
กระแสแอนตี้ เพราะตัวคนเลี้ยง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ "ตุ๊กตาลูกเทพ" มาไวไปไว สาเหตุหนึ่งมาจากการเลี้ยงลูกเทพที่ดู "เยอะ" เกินไป ไม่ว่าจะอุ้มติดตัวไปกินข้าวตามร้านอาหาร หรือขึ้นเครื่องบินเสมือนหนึ่งเป็นผู้โดยสาร หรือป้อนข้าว ป้อนน้ำเสมือนหนึ่งเป็นลูกชาย ลูกสาว รวมไปถึงข่าวการปลุกเสก ทำพิธีแบบไสยศาสตร์ ส่งผลให้คนในสังคมหวาดผวา และมองตุ๊กตาประเภทนี้ในด้านลบ
เกี่ยวกับประเด็นนี้ นพ.ทวี ตั้งเสรี ผู้ทรงคุณวุฒิกรมสุขภาพจิต ให้ทัศนะผ่านทีมข่าว Live ว่า กระแสการเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพมาไวไปไว เพราะสังคมแอนตี้ในลักษณะเสียดสี เย้ยหยัน ทำให้ผู้ที่ซื้อมาเลี้ยงหลายคนรู้สึกอับอายจึงเกิดเป็นภาพลูกเทพเกลื่อนวัดอย่างที่เป็นข่าว
"ลูกเทพค่อยๆ ตกกระแสไป ส่วนหนึ่งมาจากสังคมที่แอนตี้อย่างหนัก โดยมองว่า งมงาย ทำให้ที่เลี้ยงๆ กันอยู่รู้สึกว่าแทนที่จะเลี้ยงแล้วดี ให้คุณ กลับถูกสังคมต่อว่า สุดท้ายก็ไม่อยากเลี้ยง ไม่อยากบูชาจึงเอาไปทิ้ง แต่ครั้นจะเอาไปทิ้งก็มีความกลัวเพิ่มขึ้นมาอีก เพราะของพวกนี้ผ่านการปลุกเสก
เหล่าลูกเทพกว่า 10 ตัว ถูกมาทิ้งไว้ที่วัดสว่างอารมณ์ ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
ดังนั้น สถานที่ที่นิยมไปทิ้งจึงเป็นวัด เนื่องจากเชื่อว่าปลอดภัยสำหรับตัวเองที่สุดแล้ว พอมีคนเอาไปทิ้งมันก็เกิดการเลียนแบบขึ้นมา เพราะกลัวจะเชยในสายตาของสังคม กลายเป็นกระแสทิ้งลูกเทพต่อๆ กันมา ซึ่งคล้ายกับกระแสแรกๆ ที่ฮิตเลี้ยงกัน พอมีกระแสฮิตทิ้งก็เอาบ้าง"
นพ.ทวี ให้ความเห็นต่อไปว่า กระแสต่อต้านการเลี้ยงการบูชาตุ๊กตาลูกเทพ ส่วนหนึ่งมาจากคนซื้อไปเลี้ยงที่มักแสดงพฤติกรรมชวนตั้งคำถาม เพราะดูแปลก งมงายในสายตาใครหลายคน ทั้งพาอุ้มออกไปเที่ยวห้าง กินข้าว หรือขึ้นเครื่องบิน รวมไปถึงผู้ประกอบการหลายรายเกาะกระแส หาประโยชน์จากความเชื่อของคนบางกลุ่ม
"แรกๆ มันเกิดการเลี้ยงในกลุ่มคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง หลายคนจึงยึดเอาตุ๊กตาลูกเทพมาเป็นที่พึ่ง และพยายามเลี้ยงดูให้ดีด้วยการพาไปกินข้าว หรือพาไปโน่นไปนี่ ซึ่งก็เป็นกลุ่มแคบๆ จากนั้นพอมีคนเห็น และมีความเชื่อเหมือนกันก็เกิดกระแสลอกเลียนแบบ พาไปกินข้าว พาไปขึ้นเครื่องแบบออกหน้าออกตา
เมื่อภาพแบบนี้มันเยอะขึ้น คนในสังคมก็เกิดอาการหมั่นไส้ มองว่างมงายจนลุกลามเป็นกระแสต่อต้าน ส่งผลให้กระแสซาเร็วกว่าที่ควร" นพ.ทวีเผย ก่อนจะทิ้งท้ายว่า "คนเราควรจะมีความมั่นใจในตัวเอง อย่าไปพึ่งพิง ยึดถือในสิ่งเหนือธรรมชาติที่มองไม่เห็น ทั้งๆ ที่ตัวเราเองต้องเป็นที่พึ่งของตัวเอง"
ลูกเทพ ลูกกำพร้า ภาระวัด
ทั้งนี้ หลังจากมีกระแสข่าวว่ามีคนนำตุ๊กตาลูกเทพมาทิ้งไว้ที่วัดสว่างอารมณ์ ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.59 ที่ผ่านมา เนื่องจากอับอายที่จะต้องอุ้มตุ๊กตาลูกเทพไปไหนมาไหน และถูกกระแสสังคมจับตามอง จึงได้นำตุ๊กตาลูกเทพมาฝากไว้ที่วัดดังกล่าว
ล่าสุด พระครูยติธรรมานุยุติ เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ เปิดเผยว่า มีคนที่ทราบข่าวได้เดินทางมาดูตุ๊กตาลูกเทพที่วัดกันตลอดทั้งวัน ทางวัดจึงได้ให้เจ้าหน้าที่จัดหาน้ำแดงไปตั้งให้ตุ๊กตาลูกเทพทั้งหมดที่ถูกนำมาทิ้งไว้ ขณะที่คนที่มาดูหลายคนพยายามจะขอตุ๊กตาลูกเทพกลับไปเลี้ยง แต่ทางวัดไม่สามารถให้ไปได้ และได้เตรียมที่จะนำตุ๊กตาลูกเทพทั้งหมดไปเก็บไว้ในห้องที่มีกุญแจปิดมิดชิดเพื่อรักษาเอาไว้ให้เป็นระเบียบต่อไป
สุดท้าย ตุ๊กตาลูกเทพจำนวนไม่น้อยก็ต้องกลายไปเป็น "ตุ๊กตาลูกกำพร้า" ตกเป็นภาระของวัด ของพระจนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแรงๆ และเปรยขึ้นมาลอยๆ ว่า "นี่หรือเมืองพุทธ"
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754