xs
xsm
sm
md
lg

เรื่องเล่า "ข่าวเด็ดแมเนเจอร์" และทางข้างหน้า "เขาว่าอร่อย"

เผยแพร่:   โดย: ดรงค์ ฤทธิปัญญา


๒ สัปดาห์ก่อนทีมงานรายการ ถามคำ ตอบคำ ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม นิวส์วัน ในเครือเดียวกัน ได้มาขอสัมภาษณ์พิธีกรทั้ง ๓ จากรายการข่าวเด็ดแมเนเจอร์ โดยอยากให้พูดถึงที่มาที่ไปของรายการสักหน่อย ส่วนอีกเทปนึงขอสัมภาษณ์พิธีกรผู้น่ารักอย่าง “นินิว ปิยะนันท์ ขุนทอง” หลังมีผู้ชมสอบถามผ่านรายการนี้ว่า คุณนินิว นี่เป็นใคร คาดว่าทั้ง ๒ เทปคงจะออกอากาศไปหมดแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

มันก็ทำให้ผมพลันนึกขึ้นมาได้ว่า ... เอ๊ะ ผมยังไม่เคยเล่าเรื่องรายการให้คุณผู้อ่านได้ทราบกันเลยนิ

ใช่ครับ หลายๆ คนคงอาจไม่ทราบว่า ผมมีรายการข่าวที่ต้องจัดเป็นประจำอยู่ ๑ รายการ นั่นคือ "ข่าวเด็ดแมเนเจอร์" ร่วมกับน้องอีก ๒ คน คือ “อ๊อฟ กิตตินันท์ นาคทอง” และ นินิว ปัจจุบันออกอากาศทางช่อง นิวส์วัน ทุกวันจันทร์ - พฤหัสบดี เวลา ๒๐.๑๕ - ๒๐.๓๐ น. ทางเว็บไซต์ยูทิวบ์ ชาแนล ASTVManagervdo และทางเว็บไซต์เฟซบุ๊กแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Live ซึ่งทั้ง ๒ ช่องทางนี้จะสามารถชมเทปรายการในวันศุกร์ที่ไม่ได้ออกอากาศทางทีวีด้วย

ฉะนั้น ผมจึงขอถือโอกาสเขียน ย้อนนำเรื่องราวผ่านความทรงจำ มาบันทึกเป็นอักษรให้ได้อ่าน ..... (จริงๆ ไม่ใช่อะไร กันตัวเองลืมด้วย ฮ่าๆๆๆ)

รายการนี้เริ่มต้นมาจากความคิดของคุณ “วริษฐ์ ลิ้มทองกุล” ผู้อำนวยการเว็บไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการ ตามดำริของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ที่อยากให้ตัวของเว็บไซต์ได้มีความหลากหลายมากขึ้น นอกเหนือจากข่าว รายงานพิเศษ บทความ ที่มีแค่ข้อความและภาพ นำไปสู่ภาพเคลื่อนไหวและเสียง ท่าน ผอ.ก็เลยส่งความคิดนี้มายังสำนักเว็บมาสเตอร์ ซึ่งมีพี่นิรันดร์ เยาวภา เป็นเว็บมาสเตอร์ในขณะนั้น โดยมอบ ผมและ อ๊อฟ กิตตินันท์ ให้ช่วยกันผลิตรายการในเชิงสรุปข่าวสั้นๆ ขึ้นมา

จำได้ว่า วันที่พี่ท่านให้นโยบายนี่ ผมกะน้องก็รีบไปวางแผนกันโดยพลัน ก่อนที่จะผลิตเทปทดลองฉบับแรกเมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๗ ตอนนั้นผมรับผิดชอบในการร่างสคริปท์ขึ้นด้วยอาศัยเทคนิคครูพักลักจำในสมัยที่ฝึกงานอยู่ฝั่งนิวส์วัน เมื่อเกือบ ๙ ปีก่อน โดยเอาข่าวที่น่าสนใจประจำวัน ผนวกกับข่าวเบาๆ ทิ้งท้าย ส่วนอ๊อฟ กิตตินันท์ ก็ผลิตกราฟฟิค อุปกรณ์การถ่ายทำก็อาศัยกล้องจากไอโฟน ๕ซี ของอ๊อฟ ไมค์ก็ใช้ไมค์จากตัวเครื่องโทรศัพท์ ส่วนห้องอัดก็คือห้องรับประทานอาหารของสำนักงานเนี่ยล่ะครับ เล่นกันดิบๆ ก่อนที่จะนำไปเสนอให้พิจารณา

วลีเด็ดท้ายรายการที่พูดว่า "อย่าลืมนะครับ คลิ๊กเดียวรู้เรื่องอ่าน ..." ก็เริ่มมาจากเทปนี้ด้วยนะ ฮ่าๆๆ

ผ่านไปไม่นานโปรเจคท์นี้ก็ผ่านความเห็นชอบ ท่าน ผอ.ได้ให้ทีมวิดีโอมาช่วยเสริมกำลัง โดยคุณเกษตร ชนะเสรีชัย หัวหน้าฝ่ายฯ มาให้คำแนะนำรูปแบบรายการ พร้อมกับมอบหมายให้พี่โหน่ง จิอรรถ์ ภูจิตทอง ช่างภาพและมือตัดต่อ มาช่วยทำให้ดูเป็นรายการทีวีมากขึ้น แล้วจึงทดลองออกอากาศด้วยการอัปโหลดลงในยูทิวบ์เอเอสทีวีแมเนเจอร์วิดีโอ ก่อนที่จะเริ่มจัดจริงจังรายทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ ในวันที่ ๑๖ มิถุนายน ถ้านับจากวันนั้นนี่ก็ปีนิดๆ ได้แล้ว

ในช่วงนั้นได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการเป็น "๑๐ ข่าวเด็ดแมเนเจอร์" แบ่งเป็น ๒ ช่วง ช่วงแรกนำ ๑๐ ข่าวยอดนิยมจากในเว็บไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการ มาเรียงลำดับให้ผู้ชมได้ทราบว่า ข่าวใดได้รับความนิยมสูงสุดประจำวัน ส่วนช่วงที่ ๒ ชื่อว่า "ไม่เด็ดแต่โดน" นำข่าวหรือเรื่องที่น่าสนใจ ดูมีสีสันมานำเสนอ ก่อนจะปรับเปลี่ยนรูปแบบอีกครั้งในเวลาต่อมา

จริงๆ ธีมรายการนี้ได้มีการคิดและถกเถียงกันมาพอสมควรครับ ตัวผมอยากให้เป็นรายการข่าวที่ไม่ซีเรียสจนเกินไป ให้คนดูรู้สึกไม่อึดอัด (เพราะแค่เราดำเนินรายการก็น่าอึดอัดพอแล้ว ฮ่าๆๆๆ) และรู้สึกว่า โอ้โห มันมีข่าวแบบนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอวะ? ส่วนอ๊อฟ กิตตินันท์ เขาต้องการทำให้เป็นรายการที่หนัก เต็มไปด้วยข่าวที่สำคัญ เนื้อหาเข้มข้น จึงต้องมาตกลงกัน จึงได้รูปแบบอย่างที่ว่ามานั่นล่ะฮะ ท่านผู้ชม

ผมเริ่มเชิญทีมข่าวต่างๆ เข้ามาร่วมแจมเป็นแขกรับเชิญภายในรายการในเบรกที่ ๒ เพื่อให้พวกเขาได้เล่าถึงประสบการณ์ที่สัมผัสกับแหล่งข่าวโดยตรง ทั้งบทสัมภาษณ์ หรือชิ้นข่าวที่เขาได้ไปทำขึ้นมาเอง มันเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถอ่านเจอได้ในข่าวที่เขาได้เขียนมา แต่พวกเขาจะสามารถอธิบายในสิ่งนั้นได้ดียิ่งขึ้น ผมยกตัวอย่าง เช่น ข่าวหมวดวิทยาศาสตร์ ที่ดูเข้าใจยากมากๆ ผมได้ชวนผู้สื่อข่าวประจำกองบรรณาธิการข่าววิทยาศาสตร์ มาอธิบายบางปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่เกิดขึ้นให้ผู้ชมได้เข้าใจ หรืออย่างบทสัมภาษณ์ดารา หรือบุคคลอื่นๆ ก็เชิญนักข่าวผู้ไปคุยมาเล่าถึงเบื้องหน้าและหลังของคนเหล่านั้น ตัวจริงกับภาพลักษณ์ต่างกันมั้ย อะไรประมาณนี้

ผ่านไปสักระยะผมรู้สึกว่า ควรจะเพิ่มบางสิ่งขึ้นมาในรายการให้ดูมีสีสันมากขึ้น ลำพังผมกับอ๊อฟ แน่นอนว่าบุคคลิกจะต่างกัน แต่บางทีมันก็จืดชืดเสียเหลือเกิน ผมจึงมองไปที่น้องอีกคนนั่นคือ นินิว ผู้สื่อข่าวประจำกองบรรณาธิการข่าวไลฟ์ ที่เคยชวนมาเป็นแขกรับเชิญ เขามีลักษณะเฉพาะตัวอันร่าเริงสดใส และก็ไม่ผิดคาดจริงๆ ที่เชิญเข้ามาร่วมดำเนินรายการ ทำให้ทุกอย่างดูผ่อนคลายมากขึ้น

เรื่องหนึ่งที่นินิว กังวลใจอย่างมากก่อนจะมาจัดนั่นคือ นินิว ควรจะพูดอย่างไรกับผู้ชม เพราะตนเองไม่ได้มีลักษณะทางเพศเหมือนผู้ชายคนอื่น ผมก็เลยบอกไปว่า ... มึงเป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้นนั่นแหละ อย่าหลอกคนดู เราทำรายการข่าว เสนอความจริง เราก็ควรที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง เพื่อแสดงถึงความจริงใจของเราด้วย ... ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นินิวก็ไม่เคยแอ๊บแมนพูดครับในรายการอีกเลย ฮ่าๆๆ และผลตอบรับที่กลับมา เสียงส่วนใหญ่ของผู้ชมกลับรู้สึกว่า เขาไม่ได้รู้สึกติดขัดใจภาพลักษณ์ของนินิวเลย หลายคนชื่นชมในการทำหน้าที่ทั้งต่อหน้า และในการแสดงความเห็นผ่านสังคมออนไลน์ แต่แน่นอน มันก็มีผู้ชมบางท่านโยนก้อนอิฐใส่มาบ้าง ให้ปรับเปลี่ยนการแสดงออกบ้าง ซึ่งผมก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่เขาจะวิจารณ์ได้ แต่ผมเองก็เลือกที่จะเคารพในสิทธิทางเพศของนินิวมากกว่า ก็เท่านั้น

รายการดำเนินมาจนถึงครึ่งปี เข้าสู่ พ.ศ.๒๕๕๘ จึงได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของมันอีกครั้ง เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคนิยมสื่อโซเชี่ยลมากขึ้น โดยแบ่งเป็น ๒ ช่วง ในช่วงแรกชื่อ "หน้าหนึ่งแน่นอน" เป็นการนำเรื่องที่คิดว่าจะต้องเป็นข่าวใหญ่ขึ้นหน้า ๑ ของหนังสือพิมพ์หลายๆ ฉบับมานำเสนอ มีการสรุปผลงานข่าวที่ตนเองเล่าว่า ได้ขึ้นหน้า ๑ ฉบับไหนหรือไม่ในวันถัดมาด้วย ส่วนอีกช่วง "ทั้งเด็ดทั้งโดน" ก็ยังคงคอนเซปท์เดิม สบายๆ รวมทั้งรองรับแขกรับเชิญที่เป็นคนมีชื่อเสียงด้วย พร้อมเพิ่มช่วงพิเศษส่วนตัวตามความถนัดของแต่ละคน อาทิ ของอ๊อฟ ก็จะออกแนววิเคราะห์ข่าว ของนินิว ก็ลงพื้นที่จริง เล่าถึงสถานการณ์สดๆ ตามแบบฉบับของข่าวไลฟ์ ส่วนผมก็เน้นเรื่องที่ผมรู้สึกชอบ หรือ กระแสที่กำลังเป็นที่พูดถึงในขณะนั้น แต่ช่วงพิเศษก็ได้ยุบลงไปเนื่องจากภารกิจที่อัดแน่นในงานหลักของพวกเรา ซึ่งในช่วงนี้ทีมตัดต่อก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดยได้น้องนิ๊ก ณัฐพัชร์ วิริยะขจรธรรม มาลุยงานแทน

และสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือ รายการนี้ดันไปเข้าตาผู้บริหารของช่อง "นิวส์วัน" จนให้โอกาสพวกเราทั้ง ๓ ได้โลดแล่นบนจอแก้วเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘ จนถึงปัจจุบัน ก็ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

อีกโปรเจคท์หนึ่ง ที่ซุ่มกันมาพอสมควร และเพิ่งได้เปิดปฐมทัศน์ไป ๒ ตอนแล้วก็คือ รายการที่ชื่อว่า "เขาว่าอร่อย" (จริงๆ ชื่อรายการที่คุยไว้แต่แรกคือ "เค้าว่าอร่อย" แต่ดันพิมพ์ผิดเป็น "เขา" แทน ฮ่าๆๆ) เป็นอีกหนึ่งรายการที่ผมอยากทำมานานแล้ว ผมดูรายการชิมอาหารส่วนใหญ่มักมีการติดต่อร้านล่วงหน้าเพื่อขอถ่ายทำและได้กินฟรี ผมก็มานั่งคิดว่า ถ้ากูทำเนี่ย จะไปโดยไม่บอกและกินแบบจ่ายตังค์ จะได้รู้ไปเลยว่ามันอร่อยจริงหรือไม่ หรือไม่ก็ไปกินทุกเมนูในร้านอันไหนดีไม่ดีก็บอกกันตรงๆ ก็เคยเอาข้อเสนอไปคุยเล่นๆ กับ ผอ.มาครั้งนึงเมื่อนานมาแล้ว แล้วก็เงียบไป จนกระทั่งจู่ๆ แกก็ผุดโปรเจคท์นี้ขึ้นมาให้เรา ๓ คนและน้อง “เฮอร์มี่ ประวีณา พลเขตต์” นักข่าวโต๊ะวิทย์ มาร่วมงานกัน

โดยมีนโยบายให้ไปกินเมนูที่กำลังฮิตในสังคมออนไลน์ ที่เค้าว่ามันอร่อยมากมายเนี่ย อร่อยจริงหรือไม่ ทำให้เราต้องมาช่วยกันหาข้อมูลกันสนุกมือเลย ก่อนจะลงพื้นที่ไปกินและถ่ายทำกันแบบไม่บอกให้ร้านรู้ว่าเราไปทำอะไร (แต่ตอนนี้เขาคงรู้แล้วล่ะ ฮ่าๆๆๆ) แล้วให้วิจารณ์ตามลิ้นของแต่ละคน ผมกำกับให้น้องทั้ง ๓ พูดจากสิ่งที่รับรู้จริงๆ ชอบก็ชอบ ไม่ชอบก็ไม่ชอบ ไม่มีใครถูกผิด และไม่ได้พิพากษาด้วยว่า คนอื่นมากินเมนูนี้แล้วจะต้องอร่อยไปกับผู้ดำเนินรายการหรือไม่ เพียงแต่ทั้ง ๓ คนเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของลิ้นที่ต่างกันมาชิมรสชาติอาหารนั้น

ที่พูดอย่างนี้ก็ไม่น่าจะผิดเท่าไหร่นะ เพราะทักษะการกินของทั้ง ๓ นี่ไม่คล้ายกันเท่าใด อย่างเฮอร์มี่ เป็นคนที่ทำกับข้าวจึงสามารถแยกรายละเอียดของอาหารได้ และเคยทานด้วยวัตถุดิบชั้นดี ส่วนนินิว ก็จะถนัดอาหารทั่วไป และพื้นบ้าน ขณะที่ อ๊อฟ คือผู้นิยมอาหารกล่องร้านสะดวกซื้อ

และสุดท้ายก็เป็นผู้ชมนั่นล่ะ ที่จะเห็นพ้องกับผู้ดำเนินรายการหรือไม่ เมื่อได้ลองเข้าไปชิมในเมนูนั้น

ส่วนสำคัญของรายการที่ต้องการสื่อก็คือ อยากให้รู้ว่า ถ้าคุณมากินแล้ว คุณจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ไม่ใช่แค่ในแง่ของความอร่อย แต่หมายถึง หน้าตาของเมนูที่จัดมา ลักษณะอาหาร รวมทั้งสภาพร้าน บรรยากาศ และอื่นๆ เป็นไปตามที่เค้าว่ากันจริงหรือไม่

รายการเขาว่าอร่อยนี้ ออกอากาศทางยูทิวบ์ ชาแนล เอเอสทีวีแมเนเจอร์วิดีโอ เช่นกันครับ แต่จะฉายทุกวันศุกร์ หรือรอชมผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ เอเอสทีวีผู้จัดการไลฟ์ และ ข่าวเด็ดแมเนเจอร์ ได้เช่นกัน

จากวันนั้นสู่วันนี้ เอาจริงๆ ผมเองก็ไม่คิดหรอกว่าจะได้มาทำรายการ ที่สำคัญยังได้ร่วมวางแผนคิดค้นรูปแบบเองด้วย เพราะสายงานที่ทำอยู่ในกองบรรณาธิการข่าวการเมืองออนไลน์ ก็ดูจะห่างไกลคำว่าทีวีเสียเหลือเกิน แต่ใครจะไปคาดคิดครับ อะไรก็เป็นไปได้ ต้องขอบคุณ ท่าน ผอ.ที่ให้โอกาสผมได้ทำในสิ่งที่ฝันเอาไว้ตั้งแต่วัยเยาว์ เมื่อครั้งที่เราตัดสินใจเลือกเดินบนเส้นทางสายสื่อสารมวลชน...

ถ้าท่านอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้แล้ว ก็อย่าลืมติดตามชมรายการของพวกเราทีมข่าวเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ ทั้ง ๒ รายการ แล้วสามารถ ติ ชม ผ่านการแสดงความเห็นด้านล่างนี้ได้นะครับ ... รายการอื่นๆ ของสื่อในเครือก็น่าสนใจเหมือนกันนะ ลองค้นในยูทิวบ์ชาแนลเดียวกันได้เลยครับ

*******
เกร็ดท้ายรายการข่าวเด็ดแมเนเจอร์ ..
- เทปเดโม่ตัวแรก ออกอากาศ ๒๕ เม.ย.๕๗ ข่าวแรกที่อ่านคือข่าว “ยิ่งลักษณ์” ชูนิมิตหมายที่ดี “อภิสิทธิ์” พร้อมคุยรัฐบาล
-ส่วนเทปแรกแบบทางการ ออกอากาศ ๑๖ มิ.ย.๕๗ เรื่องแรกที่อ่านคือ หวย
- “นินิว” เป็นนักข่าวรับเชิญคนแรกของรายการ ออกอากาศเมื่อ ๒๕ มิ.ย.๕๗
-“ไมร่า มณีภัสสร มอลลอย” แชมป์ไทยแลนด์ ก๊อต ทาเล้นต์ คนแรก เป็นแขกรับเชิญคนแรกที่ไม่ใช่นักข่าว ออกอากาศเมื่อ ๙ ต.ค.๕๗
-เทปที่มียอดวิวในยูทิวบ์สูงที่สุดคือ ออกอากาศเมื่อ ๒๘ พ.ย.๕๗ ชื่อตอนว่า “เอมมี่รับภาพหลุดแค่หนังอีโรติก - ผาช่อ แหล่งเที่ยวน้องใหม่ของเชียงใหม่” มีผู้ชม ณ เวลานี้มากกว่า ๗๓๐,๐๐๐ วิว
-ทำมาปีกว่า แต่เปลี่ยนฉากพื้นหลังโลโก้ไปแล้วถึง ๕ ชิ้น รูปโลโก้ล่าสุดผลิตโดยฝ่ายทีวีของช่องนิวส์วัน นอกนั้นฝีมือคุณกิตตินันท์เขาล่ะ
- รูปแบบรายการปัจจุบันเริ่มออกอากาศเทปแรก ๑๙ ม.ค.๕๘
-เทปแรกที่ฉายทางช่องนิวส์วัน ออกอากาศ ๖ พ.ค.๕๘ เป็นอีกครั้งที่ “นินิว” ต้องแนะนำตัวแบบแมนๆ ก่อนที่ผมจะบอกให้พูดแบบปกติ โดยมีนัยยะเพื่อสื่อสารกับผู้ชมให้เปิดใจรับในสิ่งที่เขาเป็น
.... เอาแค่นี้ก่อนแล้วกันนะ

สำหรับใครที่ไม่ได้ดู เรา ๓ คน เล่าถึงที่มาของรายการ "ข่าวเด็ดแมเนเจอร์ " ในรายการ "ถามคำ ตอบคำ" วันนี้แอดมินได้ตัดบางส่วนมาให้ได้ชมกันครับ

Posted by ข่าวเด็ด Manager Online on Sunday, July 26, 2015


เทปเดโม่รายการ


เทปแรกของนินิว


เทปแรกบนนิวส์วัน


ชมรายการข่าวเด็ดแมเนเจอร์ ย้อนหลัง


ชมรายการเขาว่าอร่อย ย้อนหลัง

กำลังโหลดความคิดเห็น