เมื่อวันเสาร์ที่ 16 พฤพาคม 2558 เวลา 11.45 น. คณะแพทย์ผู้ทำการรักษาอาการอาพาธหลวงพ่อคูณ ได้ออกแถลงการณ์ การมรณะภาพของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่
ทีมแพทย์ระบุว่าการทำงานหลายระบบของหลวงพ่อคูณล้มเหลว และเนื่องจากภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น จึงนำไปสู่การมรณะภาพ
ผมเคยได้ความรู้มาจากคุณลุงท่านหนึ่งว่า ร่างกายคนเราส่วนมากอวัยวะต่างๆจะเริ่มหยุดทำงานตอนอายุเข้าเลข 8 กล่าวคือระบบต่างๆในร่างกายจะเริ่มหยุดทำงาน เช่นเริ่มไม่ค่อยกิน ระบบย่อยอาหารเริ่มไม่ทำงาน หรือระบบหายใจทำงานช้าลง ทำให้หลับมากขึ้นในแต่ละวัน เป็นต้น หลวงพ่อคูณชราภาพ เจ็บป่วยมาเป็นระยะ จนมรณภาพด้วยวัย 92 ปี
หลวงพ่อคูณ เกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2466 ในครอบครัวชาวไร่ชาวนา ที่บ้านไร่ ตำบลกุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา บวชเรียนตั้งแต่วัยหนุ่มจนมรณภาพ รวม 71 พรรษา คนไทยคุ้นเคยภาพหลวงพ่อคูณนั่งยองๆชันเข่า คีบบุหรี่ไว้ในมือ พูดสรรพนามมึงกูกับทุกคน มีลูกศิษย์ห้อมล้อมให้ปลุกเสกวัตถุมงคล ถือไม้เคาะหัวให้พรคนที่ไปกราบไหว้ สอนธรรมให้ชาวบ้านเข้าใจได้สั้นๆง่ายๆ
สืบเนื่องจากการมรณะภาพของหลวงพ่อคูณ ก็มีข่าวอื่นๆตามมาอีกเยอะเลยทีเดียว เริ่มกันที่พินัยกรรมของท่าน ที่ทำไว้ก่อนหน้านี้หลายปี ขณะหลวงพ่อคูณ อายุ 77 ปี ถิ่นพำนักวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ลงวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2543 พินัยกรรมกำหนดการเผื่อถึงการมรณภาพ เกี่ยวกับเรื่องการจัดงานศพา ภายหลังมรณภาพว่า
1.ศพของอาตมา ให้มอบแก่มหาวิทยาลัยขอนแก่นภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากมรณภาพลง เพื่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น มอบให้แก่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปศึกษาค้นคว้าตามวัตถุประสงค์ของภาคต่อไป
2.พิธีกรรมศาสนา การสวดอภิธรรมศพ ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำพิธีสวด พระอภิธรรมศพที่คณะแพทยศาสตร์ 7 วัน ตั้งแต่ถึงวันมรณภาพลง
3.การจัดทำพิธีบำเพ็ญกุศลเมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้ว ให้จัดงานแบบเรียบง่าย ละเว้นการพิธีสมโภชใดๆ และห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ โกฏิ และพระราชพิธีอื่นๆ เป็นกรณีพิเศษเป็นการเฉพาะ โดยให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทำพิธีเช่นเดียวกับการจัดพิธีศพของอาจารย์ใหญ่นักศึกษาแพทย์ประจำปี ร่วมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่น แล้วเผา ณ ฌาปนสถานวัดหนองแวง พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หรือวัดอื่นใดที่คณะแพทยศาสตร์เห็นสมควร และเหมาะสม โดยทำพิธีเผาให้เสร็จสิ้นที่ จ.ขอนแก่น
4.เมื่อดำเนินตามข้อ 3 เสร็จสิ้นแล้ว อัฐิ เถ้าถ่าน และเศษอังคารทั้งหมด ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปลอยที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย ตามที่เห็นสมควร และเหมาะสม
5.ค่าใช้จ่าย และเงินอื่นใดที่เกิดขึ้นจาการดำเนินการตามนัย ข้อ 2, 3 และ 4 ให้ดำเนินการ ดังนี้
5.1 ค่าใช้จ่ายในการจัดงาน และบำเพ็ญกุศลศพทั้งหมด ให้นำเงินที่อาตมาบริจาคให้แก่ภาควิชาวิทยาศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อปี 2536 เป็นเงินเริ่มต้นในการดำเนินการจัดงานศพ ถ้าไม่เพียงพอให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทดรองจ่ายไปกอ่น
5.2 ในการจัดการ และบำเพ็ญกุศลศพ ตามนัยข้อ 5.1 หากมีเงินเหลือ หรือมีผู้บริจาคสมทบ ให้คืนเงินที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทดรองจ่ายไปก่อนให้เสร็จสิ้น
5.3 หากมีเงินเหลืออยู่อีกหลังจากดำเนินการตามนัยข้อ 5.1 และข้อ 5.2 แล้ว ให้มอบแก่กองทุนพระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฎ์ (หลวงปู่เทสก์) เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมช่วยเหลือพระสงฆ์ที่อาพาธประจำหอผู้ป่วยหอสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือให้ดำเนินการอย่างอื่นตามที่อาตมาหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เห็นสมควร โดยอาตมาจะแสดงความประสงค์ให้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติมแนบไว้ให้ทราบต่อไป หากไม่ดำเนินการให้ถือตามความในตอนต้นเท่านั้น
6.ให้นายอำเภอด่านขุนทด ศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทด และคณะบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกันเป็นผู้จัดการศพ มีอำนาจดำเนินการให้เป็นไปตามพินัยกรรมนี้
7.ให้ยกเลิกพินัยกรรม ฉบับวันที่ 15 ก.ย.2536 หรือฉบับอื่นใดที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ และให้ยึดถือพินัยกรรมฉบับนี้แทน
8.พินัยกรรมฉบับนี้ ต้นฉบับเก็บรักษาไว้ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และได้มีการทำสำเนาไว้อีก 3 ชุด เก็บรักษาไว้ที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทด และนายอำเภอด่านขุนทด แห่งละ 1 ฉบับ
สิ่งที่น่าสนใจว่าพินัยกรรมของหลวงพ่อคูณแฝงหลักธรรมไว้หลายเรื่อง การทำทานด้วยการมอบร่างให้มหาวิทยาลัย คณะแพทย์ศาสตร์ เพื่อใช้เป็นอาจารย์ใหญ่ของนักศึกษาแพทย์ เป็นการให้ทานเป็นแบบอย่างแก่พระสงฆ์และคนทั่วไป ในเวลาเดียวกันก็ตัดหนทางไม่ไห้ลูกศิษย์หรือคนใกล้ชิดเอาร่างท่านไปหาประโยชน์ ซึ่งท่านถูกลูกศิษย์หรือคนใกล้ตัวที่แวดล้อมท่านหากินด้วยการให้ท่านปลุกเสกสารพัดเมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ แม้เมื่อท่านชราภาพ อาพาธยังถูกเข็นให้นั่งมาในวีลแชร์เพื่อปลุกเสก
พินัยกรรมระบุให้คนที่จะมาจัดการศพเป็นคนในสถาบันการศึกษา ทั้งคณบดี ศึกษาธิการอำเภอ และนายอำเภอโดยตำแหน่ง ไม่ใช้ตัวบุคคล ท่านคงเล็งเห็นว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการศึกษา คือผู้ที่ท่านวางใจได้ว่าจะทำตามที่ท่านต้องการ
การจัดการศพในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้จัดพิธีศพร่วมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่นๆของนักศึกษาแพทย์ ให้ทำพิธีศพเรียบง่ายให้เสร็จสิ้นที่จังหวัดขอนแก่น อัฐิอังคารเศษเถ้าถ่านทั้งหมดให้ไปลอยแม่น้ำโขงที่จ.หนองคาย หลวงพ่อคูณสั่งไว้ชัดเจนจนผมรู้สึกว่าหลวงพ่อมองการณ์ไกล ชัดเจนว่าหลังจากหลวงพ่อมรณภาพจะเกิดความขัดแย้งแย่งชิงผลประโยชน์ ที่สำคัญหลวงพ่อรู้เข้าใจกิเลสคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ให้ทำพิธีศพที่วัดบ้านไร่ ซึ่งมีกลุ่มลูกศิษย์ คนใกล้ชิด ขัดแย้งผลประโยชน์กันเป็นที่รู้มานานแล้วก่อนหลวงพ่อจะละสังขาร
ความเก่งกล้าทางอาคมในการปลุกเสกที่ทำมาตั้งแต่ปี 2493 เรียกว่า หกสิบกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้มีวัตถุมงคล ตะกรุด พระเครื่อง หลวงพ่อคูณออกมามากมาย มีการซื้อขายกันวงเงินมหาศาล วัดบ้านไร่ มีรายได้จำนวนมากในแต่ละเดือน หลวงพ่อคูณนำเงินบริจาคมาสร้างสาธารณประโยชน์ ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน และมีคนจำนวนหนึ่งหาผลประโยชน์ส่วนตัวหากินกับวัดจากความเชื่อของคนทั่วไปมายาวนาน
พินัยกรรมของหลวงพ่อคูณพูดถึงเรื่องเงินในการจัดพิธีศพ และการจัดการเงินจากการทำบุญของประชาชนที่มาเคารพสรีระสังขาร โดยไม่เกี่ยวข้องกับวัดบ้านไร่ ก็เพื่อตัดปัญหาและป้องกันการหาประโยชน์จากงานศพของหลวงพ่อ
ในขณะที่มีการปลุกเสกวัตถุมงคล หลวงพ่อคูณสั่งสอนหลักธรรมให้คนปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรม เช่น เมื่อมีพระเครื่องหลวงพ่อคูณติดตัวให้ภาวนาพุทโธ ทำจิตให้สมาธิแน่วแน่ทละเว้นคำด่าทอ ด่าพ่อแม่ตน และพ่อแม่คนอื่น อย่าผิดสามีภรรยาผู้อื่น ให้สวดมนต์ก่อนเข้านอนทุกคืน ถ้าใจอยู่กับพุทโธ ให้เป็นกลางๆไม่สอดส่ายไปทางไหน นั่นหมายความว่า ใจเป็นสมาธิ จะช่วยปกป้องคุ้มครองเราได้ดียิ่งกว่าวัคถุมงคลใดๆในโลก แต่ดูเหมือนคนจำนวนมากยังไปกราบไหว้หลวงพ่อคูณเพราะเชื่อถือในคาถาอาคมนำหน้าอยู่ดี
หลังจากมีการเปิดพินัยกรรมก็มีข่าวบรรดาลูกศิษย์ของท่านเห็นแตกต่างกัน ซึ่งส่วนตัวผมไม่ค่อยเห็นด้วยนักกับการที่ลูกศิษย์ของท่านมานั่งถกกัน ผมว่าสิ่งที่ควรทำที่สุดคือทำตามประสงค์และเจตนารมณ์ของท่านทุกข้อตามพินัยกรรม ซึ่งแค่นั้นก็น่าจะพอแล้ว
นอกจากนี้ผมอยากขอร้องและวิงวอนว่าอย่าใช้ชื่อของท่านหรือข้อมูลเกี่ยวกับท่านมาหาผลประโยชน์กันเลยครับ เวลานี้ เครื่องรางของขลัง พระเครื่องหลวงพ่อคูณ ซื้อขายกันในราคาพุ่งสูงขึ้นเป็นหลักแสน ผมเห็นหน้าเพจหนึ่งในเฟสบุ๊คเอาข้อมูลประวัติตัวเลขต่างๆของท่านมาใบ้หวย แทนที่จะมองเห็นธรรมะจากหลวงพ่อ กลับเห็นเลขหวยกันซะอีก หวยงวดที่กำลังจะมาถึงนี้คงคึกคักกันเป็นพิเศษ เป็นซะอย่างนี้ละครับพี่น้องคนไทยกับหวยนี่เป็นของคู่กันจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ด้วยความไม่ธรรมดา หลวงพ่อคูณเป็นพระรูปหนึ่ง ที่คนไทยจะจดจำเล่าขานกล่าวถึงกันไปอีกนาน
ทีมแพทย์ระบุว่าการทำงานหลายระบบของหลวงพ่อคูณล้มเหลว และเนื่องจากภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น จึงนำไปสู่การมรณะภาพ
ผมเคยได้ความรู้มาจากคุณลุงท่านหนึ่งว่า ร่างกายคนเราส่วนมากอวัยวะต่างๆจะเริ่มหยุดทำงานตอนอายุเข้าเลข 8 กล่าวคือระบบต่างๆในร่างกายจะเริ่มหยุดทำงาน เช่นเริ่มไม่ค่อยกิน ระบบย่อยอาหารเริ่มไม่ทำงาน หรือระบบหายใจทำงานช้าลง ทำให้หลับมากขึ้นในแต่ละวัน เป็นต้น หลวงพ่อคูณชราภาพ เจ็บป่วยมาเป็นระยะ จนมรณภาพด้วยวัย 92 ปี
หลวงพ่อคูณ เกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2466 ในครอบครัวชาวไร่ชาวนา ที่บ้านไร่ ตำบลกุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา บวชเรียนตั้งแต่วัยหนุ่มจนมรณภาพ รวม 71 พรรษา คนไทยคุ้นเคยภาพหลวงพ่อคูณนั่งยองๆชันเข่า คีบบุหรี่ไว้ในมือ พูดสรรพนามมึงกูกับทุกคน มีลูกศิษย์ห้อมล้อมให้ปลุกเสกวัตถุมงคล ถือไม้เคาะหัวให้พรคนที่ไปกราบไหว้ สอนธรรมให้ชาวบ้านเข้าใจได้สั้นๆง่ายๆ
สืบเนื่องจากการมรณะภาพของหลวงพ่อคูณ ก็มีข่าวอื่นๆตามมาอีกเยอะเลยทีเดียว เริ่มกันที่พินัยกรรมของท่าน ที่ทำไว้ก่อนหน้านี้หลายปี ขณะหลวงพ่อคูณ อายุ 77 ปี ถิ่นพำนักวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ลงวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2543 พินัยกรรมกำหนดการเผื่อถึงการมรณภาพ เกี่ยวกับเรื่องการจัดงานศพา ภายหลังมรณภาพว่า
1.ศพของอาตมา ให้มอบแก่มหาวิทยาลัยขอนแก่นภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากมรณภาพลง เพื่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น มอบให้แก่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปศึกษาค้นคว้าตามวัตถุประสงค์ของภาคต่อไป
2.พิธีกรรมศาสนา การสวดอภิธรรมศพ ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำพิธีสวด พระอภิธรรมศพที่คณะแพทยศาสตร์ 7 วัน ตั้งแต่ถึงวันมรณภาพลง
3.การจัดทำพิธีบำเพ็ญกุศลเมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้ว ให้จัดงานแบบเรียบง่าย ละเว้นการพิธีสมโภชใดๆ และห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ โกฏิ และพระราชพิธีอื่นๆ เป็นกรณีพิเศษเป็นการเฉพาะ โดยให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทำพิธีเช่นเดียวกับการจัดพิธีศพของอาจารย์ใหญ่นักศึกษาแพทย์ประจำปี ร่วมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่น แล้วเผา ณ ฌาปนสถานวัดหนองแวง พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หรือวัดอื่นใดที่คณะแพทยศาสตร์เห็นสมควร และเหมาะสม โดยทำพิธีเผาให้เสร็จสิ้นที่ จ.ขอนแก่น
4.เมื่อดำเนินตามข้อ 3 เสร็จสิ้นแล้ว อัฐิ เถ้าถ่าน และเศษอังคารทั้งหมด ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปลอยที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย ตามที่เห็นสมควร และเหมาะสม
5.ค่าใช้จ่าย และเงินอื่นใดที่เกิดขึ้นจาการดำเนินการตามนัย ข้อ 2, 3 และ 4 ให้ดำเนินการ ดังนี้
5.1 ค่าใช้จ่ายในการจัดงาน และบำเพ็ญกุศลศพทั้งหมด ให้นำเงินที่อาตมาบริจาคให้แก่ภาควิชาวิทยาศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อปี 2536 เป็นเงินเริ่มต้นในการดำเนินการจัดงานศพ ถ้าไม่เพียงพอให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทดรองจ่ายไปกอ่น
5.2 ในการจัดการ และบำเพ็ญกุศลศพ ตามนัยข้อ 5.1 หากมีเงินเหลือ หรือมีผู้บริจาคสมทบ ให้คืนเงินที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทดรองจ่ายไปก่อนให้เสร็จสิ้น
5.3 หากมีเงินเหลืออยู่อีกหลังจากดำเนินการตามนัยข้อ 5.1 และข้อ 5.2 แล้ว ให้มอบแก่กองทุนพระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฎ์ (หลวงปู่เทสก์) เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมช่วยเหลือพระสงฆ์ที่อาพาธประจำหอผู้ป่วยหอสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือให้ดำเนินการอย่างอื่นตามที่อาตมาหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เห็นสมควร โดยอาตมาจะแสดงความประสงค์ให้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติมแนบไว้ให้ทราบต่อไป หากไม่ดำเนินการให้ถือตามความในตอนต้นเท่านั้น
6.ให้นายอำเภอด่านขุนทด ศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทด และคณะบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกันเป็นผู้จัดการศพ มีอำนาจดำเนินการให้เป็นไปตามพินัยกรรมนี้
7.ให้ยกเลิกพินัยกรรม ฉบับวันที่ 15 ก.ย.2536 หรือฉบับอื่นใดที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ และให้ยึดถือพินัยกรรมฉบับนี้แทน
8.พินัยกรรมฉบับนี้ ต้นฉบับเก็บรักษาไว้ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และได้มีการทำสำเนาไว้อีก 3 ชุด เก็บรักษาไว้ที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทด และนายอำเภอด่านขุนทด แห่งละ 1 ฉบับ
สิ่งที่น่าสนใจว่าพินัยกรรมของหลวงพ่อคูณแฝงหลักธรรมไว้หลายเรื่อง การทำทานด้วยการมอบร่างให้มหาวิทยาลัย คณะแพทย์ศาสตร์ เพื่อใช้เป็นอาจารย์ใหญ่ของนักศึกษาแพทย์ เป็นการให้ทานเป็นแบบอย่างแก่พระสงฆ์และคนทั่วไป ในเวลาเดียวกันก็ตัดหนทางไม่ไห้ลูกศิษย์หรือคนใกล้ชิดเอาร่างท่านไปหาประโยชน์ ซึ่งท่านถูกลูกศิษย์หรือคนใกล้ตัวที่แวดล้อมท่านหากินด้วยการให้ท่านปลุกเสกสารพัดเมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ แม้เมื่อท่านชราภาพ อาพาธยังถูกเข็นให้นั่งมาในวีลแชร์เพื่อปลุกเสก
พินัยกรรมระบุให้คนที่จะมาจัดการศพเป็นคนในสถาบันการศึกษา ทั้งคณบดี ศึกษาธิการอำเภอ และนายอำเภอโดยตำแหน่ง ไม่ใช้ตัวบุคคล ท่านคงเล็งเห็นว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการศึกษา คือผู้ที่ท่านวางใจได้ว่าจะทำตามที่ท่านต้องการ
การจัดการศพในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้จัดพิธีศพร่วมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่นๆของนักศึกษาแพทย์ ให้ทำพิธีศพเรียบง่ายให้เสร็จสิ้นที่จังหวัดขอนแก่น อัฐิอังคารเศษเถ้าถ่านทั้งหมดให้ไปลอยแม่น้ำโขงที่จ.หนองคาย หลวงพ่อคูณสั่งไว้ชัดเจนจนผมรู้สึกว่าหลวงพ่อมองการณ์ไกล ชัดเจนว่าหลังจากหลวงพ่อมรณภาพจะเกิดความขัดแย้งแย่งชิงผลประโยชน์ ที่สำคัญหลวงพ่อรู้เข้าใจกิเลสคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ให้ทำพิธีศพที่วัดบ้านไร่ ซึ่งมีกลุ่มลูกศิษย์ คนใกล้ชิด ขัดแย้งผลประโยชน์กันเป็นที่รู้มานานแล้วก่อนหลวงพ่อจะละสังขาร
ความเก่งกล้าทางอาคมในการปลุกเสกที่ทำมาตั้งแต่ปี 2493 เรียกว่า หกสิบกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้มีวัตถุมงคล ตะกรุด พระเครื่อง หลวงพ่อคูณออกมามากมาย มีการซื้อขายกันวงเงินมหาศาล วัดบ้านไร่ มีรายได้จำนวนมากในแต่ละเดือน หลวงพ่อคูณนำเงินบริจาคมาสร้างสาธารณประโยชน์ ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน และมีคนจำนวนหนึ่งหาผลประโยชน์ส่วนตัวหากินกับวัดจากความเชื่อของคนทั่วไปมายาวนาน
พินัยกรรมของหลวงพ่อคูณพูดถึงเรื่องเงินในการจัดพิธีศพ และการจัดการเงินจากการทำบุญของประชาชนที่มาเคารพสรีระสังขาร โดยไม่เกี่ยวข้องกับวัดบ้านไร่ ก็เพื่อตัดปัญหาและป้องกันการหาประโยชน์จากงานศพของหลวงพ่อ
ในขณะที่มีการปลุกเสกวัตถุมงคล หลวงพ่อคูณสั่งสอนหลักธรรมให้คนปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรม เช่น เมื่อมีพระเครื่องหลวงพ่อคูณติดตัวให้ภาวนาพุทโธ ทำจิตให้สมาธิแน่วแน่ทละเว้นคำด่าทอ ด่าพ่อแม่ตน และพ่อแม่คนอื่น อย่าผิดสามีภรรยาผู้อื่น ให้สวดมนต์ก่อนเข้านอนทุกคืน ถ้าใจอยู่กับพุทโธ ให้เป็นกลางๆไม่สอดส่ายไปทางไหน นั่นหมายความว่า ใจเป็นสมาธิ จะช่วยปกป้องคุ้มครองเราได้ดียิ่งกว่าวัคถุมงคลใดๆในโลก แต่ดูเหมือนคนจำนวนมากยังไปกราบไหว้หลวงพ่อคูณเพราะเชื่อถือในคาถาอาคมนำหน้าอยู่ดี
หลังจากมีการเปิดพินัยกรรมก็มีข่าวบรรดาลูกศิษย์ของท่านเห็นแตกต่างกัน ซึ่งส่วนตัวผมไม่ค่อยเห็นด้วยนักกับการที่ลูกศิษย์ของท่านมานั่งถกกัน ผมว่าสิ่งที่ควรทำที่สุดคือทำตามประสงค์และเจตนารมณ์ของท่านทุกข้อตามพินัยกรรม ซึ่งแค่นั้นก็น่าจะพอแล้ว
นอกจากนี้ผมอยากขอร้องและวิงวอนว่าอย่าใช้ชื่อของท่านหรือข้อมูลเกี่ยวกับท่านมาหาผลประโยชน์กันเลยครับ เวลานี้ เครื่องรางของขลัง พระเครื่องหลวงพ่อคูณ ซื้อขายกันในราคาพุ่งสูงขึ้นเป็นหลักแสน ผมเห็นหน้าเพจหนึ่งในเฟสบุ๊คเอาข้อมูลประวัติตัวเลขต่างๆของท่านมาใบ้หวย แทนที่จะมองเห็นธรรมะจากหลวงพ่อ กลับเห็นเลขหวยกันซะอีก หวยงวดที่กำลังจะมาถึงนี้คงคึกคักกันเป็นพิเศษ เป็นซะอย่างนี้ละครับพี่น้องคนไทยกับหวยนี่เป็นของคู่กันจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ด้วยความไม่ธรรมดา หลวงพ่อคูณเป็นพระรูปหนึ่ง ที่คนไทยจะจดจำเล่าขานกล่าวถึงกันไปอีกนาน