ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โคราชมอบสรีระ “หลวงพ่อคูณ” ให้คณะแพทย์ศาสตร์ มข. ไปศึกษาตามเจตนารมณ์ในพินัยกรรมฉบับสุดท้าย แม้ลูกศิษย์พยายามยื้อแต่ไม่เป็นผล ผู้ว่าฯโคราชเผยหลวงพ่อคูณทำคุณูปการให้แก่ประเทศชาติมานาน อยากให้ท่านไปอย่างสงบ เผยเปิดให้พระสงฆ์ ศิษยานุศิษย์ ปชช.เข้ากราบสังขารและรดน้ำหลวงศพพ่อคูณ ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ก่อนเคลื่อนไป ม.ขอนแก่น
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (16 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการเคลื่อนย้ายสรีระ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมาจากหอผู้ป่วยหนักอายุรกรรม อาคารการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ขึ้นไปตั้งไว้ที่บริเวณห้องประชุมชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อเปิดให้พระสงฆ์ ศิษยานุศิษย์ และประชาชนได้กราบและร่วมประกอบพิธีรดน้ำศพ โดยมีประชาชนจำนวนมากมาเฝ้ารอติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ห้องประชุมบุญประสงค์ หอผู้ป่วยหนักอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมประชุมกับคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำโดย รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณะบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) คณะลูกศิษย์และคณะสงฆ์ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการในการจัดการกับสรีระหลวงพ่อคูณ โดยมอบให้แก่มหาวิทยาลัยขอนแก่นไปทำการศึกษาค้นคว้าตามเจตนารมณ์ ของหลวงพ่อคูณ แม้ทางคณะลูกศิษย์จะพยายามยื้อเพื่อขอให้นำสรีระหลวงพ่อคูณไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด ก่อนก็ตาม
นายธงชัย เปิดเผยว่า อยากกราบเรียนประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศว่าตลอดเวลาที่หลวงพ่อคูณ ได้มีชีวิตอยู่ท่านได้สร้างคุณูปการให้กับประชาชนและศาสนาพุทธมากมายมหาศาล รวมทั้งได้เป็นผู้ที่นำพระธรรมคำสอนของพุทธองค์มาเผยแผ่ให้ไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง และหลวงพ่อไม่ได้สอนให้งมงามหรือเชื่อในสิ่งที่ไม่ควรเชื่อ หากใครอยู่ใกล้ก็จะสัมผัสได้ แต่หลวงพ่อจะสะท้อนออกมาในแง่ธรรมะทั้งสิ้น
ดังนั้น เมื่อหลวงพ่อได้ละสังขาร เราก็ควรจะแสดงกตัญญูกตเวทิตาให้เหมาะสม สุดท้ายแล้วบทสรุปในการหารือกันก็คือ ให้ยึดการดำเนินการตามพินัยกรรมที่ทำขึ้นที่วัดบ้านไร่เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2543 ซึ่งมีสาระสำคัญคือ 1.สรีระของหลวงพ่อเมื่อถึงแก่มรณภาพแล้วมอบให้กับคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อนำไปเป็นอาจารย์ใหญ่หรือศึกษาทางแพทย์ 2. กำหนดการฌาปนกิจ มอบให้คณะแพทย์ศาสตร์ มข. และศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทด และนายอำเภอด่านขุนทดเป็นเจ้าภาพในการฌาปนกิจ
รายละเอียดต่างๆ นั้น คือให้บำเพ็ญกุศลศพที่คณะแพทย์ศาสตร์ มข. และให้นำศพไปถึง มข.ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งเขียนไว้ชัดเจน เมื่อถึงแล้วให้ทำการบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 7 วัน ภายใน 7 วันนั้นค่าใช้จ่ายให้นำเงินที่ได้บริจาคไว้จำนวน 300,000 บาท ให้มาเป็นค่าใช้จ่ายในการบำเพ็ญกุศล หากมีผู้มาทำบุญก็ให้นำเงินดังกล่าวไปคืนให้คณะแพทย์ศาสตร์ที่ให้ไว้ หากยังมีเงินเหลืออีกให้นำเงินไปรักษาสงฆ์อาพาธที่อยู่ รพ.สงฆ์ในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งในพินัยกรรมได้เขียนละเอียดชัดเจน และหากนำสรีระหลวงพ่อคูณไปใช้ศึกษาแล้ว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 1 ปี ให้นำไปฌาปนกิจที่วัดหนองแวง พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ขอนแก่น จากนั้นให้นำอัฐิ เถ้าถ่าน ไปลอยอังคารที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย
“ฉะนั้น เพื่อแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทิตาให้ทำตามเจตนารมณ์ของท่านที่ให้ไว้เพราะท่านต้องการให้ทุกอณูของหลวงพ่อเป็นประโยชน์กับสรรพสัตว์ทั้งหลายในการเรียนรู้วิชาแพทย์ และไม่อยากเบียดเบียนใครอีก แม้แต่งานที่เกี่ยวกับพระราชพิธีทั้งหมดก็ให้งด ก็จะเป็นการฌาปนกิจศพเหมือนอาจารย์ใหญ่ทั่ว ๆ ไป ของทุกคนที่ใช้ในการศึกษาเรียนรู้” นายธงชัย กล่าว
ด้าน รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณะบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า หลังจากที่ได้เปิดให้ประชาชนที่ศรัทธาได้เข้ากราบนมัสการรดน้ำศพหลวงพ่อคูณที่ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาแล้ว จะได้ขอกราบนำสรีระร่างของหลวงพ่อคูณไปที่ มข. เพื่อฉีดน้ำยาเพื่อรักษาสรีระของท่านให้พร้อมที่จะเป็นครูใหญ่ต่อไป และหลังจากนั้นจะพักสรีระของท่านไว้ที่ศาลา 25 ปี และพรุ่งนี้ ( 17 พ.ค.)จะเคลื่อนไปที่หอประชุมกาญจนาภิเษก และจะบำเพ็ญกุศลสรีระท่านเป็นเวลา 7 วัน โดย พรุ่งนี้ จะเป็นคืนที่ 1
ทั้งนี้ประชาชนสามารถเข้าไปกราบนมัสการท่านได้ โดยเจ้าภาพจะเป็นเจ้าภาพร่วมระหว่างคณะทำงานที่ทาง มข.ตั้งขึ้น และคณะทำงาน ของ จ.นครราชสีมา ตั้งขึ้น และมีการเชิญส่วนราชการเข้าร่วมเป็นเจ้าภาพ เรามีความตั้งใจที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์เจตนารมณ์ของหลวงพ่อและทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ส่วนกระบวนการที่จะนำสรีระร่างท่านไปใช้เพื่อการศึกษาคือ จะมีการนำร่างท่านไปดอง 1 ปี เราได้สั่งทำอ่างแก้วเป็นกรณีพิเศษ หากญาติโยมจะเข้าไปกราบก็สามารถเข้ามาได้ จากนั้นจะนำร่างขึ้นมาให้นักศึกษาแพทย์ได้เรียนเป็นระยะเวลา 2 ปี การศึกษา เมื่อครบการศึกษาแล้วก็จะเป็นไปตามเจตนารมณ์ใช้เวลาประมาณ 3 ปี ในปีที่ 3 จะมีการพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษสำหรับครูใหญ่ทุกคนที่ทาง มข. ได้ขอไว้ก่อนหน้านี้ โดยจะมีหลวงพ่อคูณและครูใหญ่ทำพระราชพิธีพร้อมกันด้วย และ ในช่วง 3 ปี อยู่ที่คณะแพทย์ศาสตร์