ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เปิดพินัยกรรม “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” บริจาคสังขารให้แก่คณะแพทย์ ม.ขอนแก่น ภายใน 24 ชั่วโมง ห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ โกศ และพระราชพิธีอื่นๆ เมื่อดำเนินเสร็จสิ้นแล้ว อัฐิ เถ้าถ่าน และเศษอังคารทั้งหมดให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปลอยที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย
หลังจากเมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (16 พ.ค.) คณะแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และโรงพยาบาลศิริราช ได้ประกาศแถลงการณ์ฉบับที่ 4 ระบุว่า พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคุณ ปริสุทโธ มีอาการโดยรวมทรุดลง และได้มรณภาพลงแล้ว เมื่อเวลา 11.45 น.ท่ามกลางความเศร้าสลดของบรรดาญาติๆ และลูกศิษย์ ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่มาเฝ้ารอดูอาการของหลวงพ่อคุณ อย่างใกล้ชิดที่โรงพยาบาล
สำหรับพินัยกรรมที่หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่ทำไว้จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ได้บริจาคสังขารของหลวงพ่อให้แก่คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนนำมาฌาปนกิจแบบเรียบจ่าย ห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ อัฐิ อังคารลอยแม่น้ำโขง โดยมีพยานรับรอง 4 คน ประกอบด้วย 1.ร.ศ.สุขชาติ เกิดผล รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2.นายประทีป วงษ์กาญจนรัตน์ 3.นายธวัช เรืองหร่าย ไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ และ 4.นายเนาวรัตน์ สังการกำแหง นิติกร 8 (ชำนาญการ) มหาวิทยาลัยขอนแก่น
สำหรับเนื้อหาพินัยกรรมดังกล่าวมีข้อความว่า อาตมาหลวงพ่อคูณ อายุ 77 ปี ถิ่นพำนักวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ลงวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2543 ขอทำพินัยกรรมกำหนดการเผื่อถึงการมรณภาพ เกี่ยวกับเรื่องการจัดงานศพของอาตมา ภายหลังที่อาตมาถึงมรณภาพลง
1.ศพของอาตมา ให้มอบแก่มหาวิทยาลัยขอนแก่นภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากมรณภาพลง เพื่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น มอบให้แก่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปศึกษาค้นคว้าตามวัตถุประสงค์ของภาคต่อไป
2.พิธีกรรมศาสนา การสวดอภิธรรมศพ ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำพิธีสวด พระอภิธรรมศพที่คณะแพทยศาสตร์ 7 วัน ตั้งแต่ถึงวันมรณภาพลง
3.การจัดทำพิธีบำเพ็ญกุศลเมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้ว ให้จัดงานแบบเรียบง่าย ละเว้นการพิธีสมโภชใดๆ และห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ โกฏิ และพระราชพิธีอื่นๆ เป็นกรณีพิเศษเป็นการเฉพาะ โดยให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทำพิธีเช่นเดียวกับการจัดพิธีศพของอาจารย์ใหญ่นักศึกษาแพทย์ประจำปี ร่วมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่น แล้วเผา ณ ฌาปนสถานวัดหนองแวง พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หรือวัดอื่นใดที่คณะแพทยศาสตร์เห็นสมควร และเหมาะสม โดยทำพิธีเผาให้เสร็จสิ้นที่ จ.ขอนแก่น
4.เมื่อดำเนินตามข้อ 3 เสร็จสิ้นแล้ว อัฐิ เถ้าถ่าน และเศษอังคารทั้งหมด ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปลอยที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย ตามที่เห็นสมควร และเหมาะสม
5.ค่าใช้จ่าย และเงินอื่นใดที่เกิดขึ้นจาการดำเนินการตามนัย ข้อ 2, 3 และ 4 ให้ดำเนินการ ดังนี้
5.1 ค่าใช้จ่ายในการจัดงาน และบำเพ็ญกุศลศพทั้งหมด ให้นำเงินที่อาตมาบริจาคให้แก่ภาควิชาวิทยาศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อปี 2536 เป็นเงินเริ่มต้นในการดำเนินการจัดงานศพ ถ้าไม่เพียงพอให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทดรองจ่ายไปกอ่น
5.2 ในการจัดการ และบำเพ็ญกุศลศพ ตามนัยข้อ 5.1 หากมีเงินเหลือ หรือมีผู้บริจาคสมทบ ให้คืนเงินที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทดรองจ่ายไปก่อนให้เสร็จสิ้น
5.3 หากมีเงินเหลืออยู่อีกหลังจากดำเนินการตามนัยข้อ 5.1 และข้อ 5.2 แล้ว ให้มอบแก่กองทุนพระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฎ์ (หลวงปู่เทสก์) เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมช่วยเหลือพระสงฆ์ที่อาพาธประจำหอผู้ป่วยหอสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือให้ดำเนินการอย่างอื่นตามที่อาตมาหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เห็นสมควร โดยอาตมาจะแสดงความประสงค์ให้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติมแนบไว้ให้ทราบต่อไป หากไม่ดำเนินการให้ถือตามความในตอนต้นเท่านั้น
6.ให้นายอำเภอด่านขุนทด ศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทด และคณะบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกันเป็นผู้จัดการศพ มีอำนาจดำเนินการให้เป็นไปตามพินัยกรรมนี้
7.ให้ยกเลิกพินัยกรรม ฉบับวันที่ 15 ก.ย.2536 หรือฉบับอื่นใดที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ และให้ยึดถือพินัยกรรมฉบับนี้แทน
8.พินัยกรรมฉบับนี้ ต้นฉบับเก็บรักษาไว้ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และได้มีการทำสำเนาไว้อีก 3 ชุด เก็บรักษาไว้ที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทด และนายอำเภอด่านขุนทด แห่งละ 1 ฉบับ