ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “วัดบ้านไร่” เงียบเหงา ลูกศิษย์นำหุ่นขี้ผึ้งพร้อมอัฐบริขาร และอุปกรณ์การแพทย์ที่หลวงพ่อคูณใช้ในวาระสุดท้ายก่อนมรณภาพมาจัดแสดงไว้ประชาชนกราบไหว้ พร้อมเดินเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ และแห่เช่าวัตถุมงคลจำนวนมาก ด้านไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ลูกศิษย์ใกล้ชิด โวยแต่งตั้งพระที่ “หลวงพ่อคูณ” เคยไล่ออกจากวัดมาเป็น “รักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่” ลั่นไม่จบง่ายๆ แน่
วันนี้ (17 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หลังจากที่พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) มรณภาพ และถูกนำสรีรสังขารไปส่งมอบให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) จ.ขอนแก่น เพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่ให้นักศึกษาแพทย์ได้ศึกษาตาม เจตนารมณ์พินัยกรรมของหลวงพ่อคูณที่ระบุไว้อย่างชัดเจนนั้น บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีประชาชนบางส่วนที่เดินทางมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ และวิหารเทพวิทยาคมกลางสระน้ำวัดบ้านไร่ แต่ถือว่ามีจำนวนน้อยมากเมือเทียบกับครั้งที่หลวงพ่อคูณยังไม่ละสังขารและอยู่ที่วัดบ้านไร่ ขณะที่ร้านอาหารร้านค้าขายของที่ระลึกรอบบริเวณวัดต่างก็เงียบเหงาซบเซาไปด้วยเช่นกัน
นายธวัฒน์ชัย แสนประสิทธิ์ กำนันตำบลกุดพิมาน กรรมการวัดบ้านไร่ และลูกศิษย์หลวงพ่อคูณ ที่ดูแลวัดบ้านไร่ได้ช่วยกันจัดสถานที่ โดยนำหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อคูณ เตียงนอนไฟฟ้า เครื่องอุปกรณ์การแพทย์ที่หลวงพ่อคูณเคยใช้ รวมทั้งชุดผ้าไตรจีวร อัฐบริขารของหลวงพ่อคูณ และขวดพลาสติกบรรจุน้ำปัสสาวะ และน้ำล้างเท้าครั้งสุดท้ายก่อนที่หลวงพ่อคูณจะมรณภาพ มาจัดตั้งแสดงไว้ภายในห้องกระจกปลอดเชื้อ ภายในศาลาการเปรียญวัดบ้านไร่ ซึ่งเป็นจุดที่หลวงพ่อคูณเคยออกมานั่งพบญาติโยมเป็นประจำ เพื่อให้ลูกศิษย์ได้ชม และกราบไหว้สักการะแทนตัวจริง ซึ่งมีประชาชนเข้ามากราบไหว้อย่างต่อเนื่อง เสมือนว่าหลวงพ่อคูณยังมีชีวิตอยู่ และก่อนกลับยังเช่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อคูณกลับไปด้วย ทำให้แผงพระในวัดบ้านไร่คึกคักมากขึ้น ซึ่งวัตถุมงคลในวัดบ้านไร่ยังไม่มีการปรับราคาแต่อย่างใด
นายยงค์ศิรินัน อุทยานนท์ ประชาชนชาว จ.เลย ที่เลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อคูณ ได้ติดต่อจองวัตถุมงคลรุ่นสร้างวิหารเทพวิทยาคม และเช่ารุ่นอื่นๆ ไปด้วยเป็นเงินหว่า 1 แสนบาท เช่นเดียวกับนายรณกรณ์ อุตเสนา สจ๊วตสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เช่าวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ ไปกว่า 300 องค์ และนางเพ็ญลักษณ์ เผ่าไพศาล จาก จ.ขอนแก่น ตั้งใจมาเช่าวัตถุมงคลโดยเฉพาะ ซึ่งเช่าไปกว่า 300 องค์เช่นเดียวกัน โดยแต่ละคนเปิดเผยว่า วัตถุมงคลที่เช่าไปครั้งนี้จะนำไปเก็บไว้เป็นที่ระลึก และบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว
ขณะที่ นางสุณี หงส์ขุนทด หรือป้านี อายุ 59 ปี ลูกศิษย์อยู่หน้าวัดบ้านไร่ เปิดเผยด้วยความเสียใจว่า เสียดายที่ไม่ได้นำสังขารหลวงพ่อคูณมาบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านไร่ เพราะตนเองรับใช้หลวงพ่อคูณมานานกว่า 20 ปี ทุกเช้าจะนำภัตตาหารไปถวายท่านไม่เคยขาด มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นก็เพราะทำตามคำสอนหลวงพ่อคูณ โดยเฉพาะตนเคยคุยกับหลวงพ่อคูณบ่อยๆ ว่าจะแย่งร่างหลวงพ่อมาวัดบ้านไร่จนได้ แม้จะได้แค่เถ้ากระดูกเท่าก้อนไม้ขีดก็จะเอามา
**โวยตั้งพระที่ถูก “พ่อคูณ” ไล่มาเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่
สำหรับการปกครองบริหารจัดการวัดบ้านไร่ หลังหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ มรณภาพนั้น มีรายงานว่า คณะสงฆ์อำเภอด่านขุดทด จ.นครราชสีมา นำโดย พระครูปราโมทย์ธรรมรส รองเจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด ได้เรียกประชุมคณะสงฆ์อำเภอด่านขุนทด โดยที่ประชุมมีมติเสนอแต่งตั้งให้ พระภาวนาประชานารถ (หลวงพ่อนุช) หรือชื่อเดิม พระครูปลัดนุช รัตนวิชโย เจ้าอาวาสวัดหนองบัวทุ่ง ต.ตาจั่น อ.คง จ.นครราชสีมา อดีตเลขานุการหลวงพ่อคูณ ขึ้นรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด เพื่อบริหารจัดการวัดตามระเบียบของคณะสงฆ์ต่อไป
ทั้งนี้ ได้มีคำสั่งเจ้าคณะตำบลกุดพิมาน ที่ 10/2558 ลงวันที่ 16 พ.ค.2558 เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ลงนามโดย พระครูพีรเดชธรรมรง เจ้าคณะตำบลกุดพิมาย ระบุว่า ด้วย พระเทพวิทยาคม (คูณ ปริสุทโธ) อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้มรณภาพลงที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2558 เวลา 11.45 น. เป็นเหตุให้ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ว่างลง แต่แต่งตั้งทันทีมิได้ เพื่อไม่ให้งานคณะสงฆ์ในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ต้องหยุดชะงักลง
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 5 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 19 (พ.ศ.2536) ว่า ด้วยการแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่2) พ.ศ.2535
จึงแต่งตั้งให้ พระภาวนาประชานารถ (นุช รตนวิชโย) วิ. อายุ 66 พรรษา 22 วิทยฐานะ น.ธ.โท วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ และมีอำนาจหน้าที่เสมือนหนึ่งเจ้าอาวาสที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ทุกประการ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 16 เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช 2558
ล่าสุด วันนี้ ( 17 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. คณะสงฆ์อำเภอด่านขุนทด ได้นำคำสั่งแต่งตั้งดังกล่าว พร้อมพระภาวนาประชานารถ (นุช รตนวิชโย) เข้ารับตำแหน่ง รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด อย่างเป็นทางการแล้ว
ทางด้าน นายธวัช เรืองหร่าย ไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ และเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิด หลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า ตนทราบข่าวว่ามีการแต่งตั้ง พระภาวนาประชานารถ (หลวงพ่อนุช) หรือชื่อเดิมพระครูปลัดนุช รัตนวิชโย อดีตเลขานุการหลวงพ่อคูณ ขึ้นรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ทันทีตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. ซึ่งการแต่งตั้งดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตามที่หลวงพ่อคูณเคยสั่งเสียไว้เลย โดยท่านได้กำชับอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า อย่าให้พระรูปนี้เข้ามาที่วัดบ้านไร่อย่างเด็ดขาด เพราะท่านเคยสั่งให้ออกจากวัดไปแล้ว เนื่องจากเป็นพระสงฆ์ที่มุ่งหาผลประโยชน์จากวัตถุมงคลช่วงที่อยู่กับหลวงพ่อคูณ เช่น ทำกำไลมงคลให้เช่า และสร้างความวุ่นวายเกิดขึ้นภายในวัดบ้านไร่
“เรื่องนี้ไม่จบง่ายแน่ ดูสิ่งที่พวกเขาทำกับหลวงปู่ (หลวงพ่อคูณ) ทั้งที่หลวงปู่ยังไม่ทันจะละสังขาร ก็รีบแต่งตั้งกันเข้ามาหาประโยชน์ที่วัดทันที เมื่อเสร็จสิ้นจากงานบำเพ็ญกุศลของหลวงปู่ที่ จ.ขอนแก่น แล้ว คงจะต้องมีการหารือกันถึงเรื่องดังกล่าว เมื่อในวันนี้หลวงปู่ได้จากพวกเราไปแล้ว สิ่งที่ท่านทำไว้ และสั่งไว้ทุกคนควรจะสานต่อ เพราะท่านมองอะไรที่ทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว ท่านรู้ว่าสิ่งใดจะมีปัญหาเกิดขึ้นตามมา” นายธวัช กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะที่แผงเช่าพระเครื่องบริเวณโรงแรมเมืองทอง ถนนจอมพล อ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ซึ่งเป็นย่านตั้งแผงเช่าพระใหญ่ที่สุดใน จ.นครราชสีมา หลังหลวงพ่อคูณละสังขาร ปรากฏว่า มีประชาชนแห่มาเช่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อคูณกันอย่างคึกคักกว่าปกติที่ผ่านมา โดยเฉพาะเหรียญรุ่นเก่าๆ เช่น รุ่นปี 2512 2517 และปี 2519 มีเซียนพระจากทั่วประเทศมาถามหาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นรุ่นยอดนิยม หายาก และ มีราคาเช่าสูงตั้งแต่หลักหมื่น ถึงหลักล้านบาท ซึ่งแผงพระส่วนใหญ่ไม่มีรุ่นดังกล่าวแล้วแหลือเพียงรุ่นใหม่ๆ ที่ราคาหลักพัน และหลักร้อยบาทเท่านั้น