xs
xsm
sm
md
lg

เรียนรู้ความแตกต่างทางศาสนา ผ่านภาพยนตร์อมีน

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย

วันหยุดวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปดูภาพยนตร์เรื่องอมีน Ameen หนังเทิดเกียรติศาสนทูตมุฮัมมัด ที่ห้องประชุมใหญ่ทีโอที องค์การโทรศัพท์

ไม่ผิดครับ ดูหนังที่องค์การโทรศัพท์สำนักงานใหญ่ ถนนแจ้งวัฒนะ ฟังดูแปลก แตกต่างจากหนังทั่วไป ที่คววรจะฉายในโรงภาพยนตร์ หรือฉายในเมือง

หนังเรื่องอมีน เป็นหนังเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ผมไปดูพร้อมกับพี่น้องชาวเอเอสทีวีผู้จัดการอีกหลายคน แฟนรายการก่อนจะถึงจันทร์ของเอเอสทีวี ได้พูดคุยสัมภาษณ์ผู้กำกับและคุยกันเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้กันไปบ้างแล้ว สำหรับใครที่ไม่ได้ดูบทสัมภาษณ์ผู้กำกับทางทีวี ผมจะแปะลิงค์เทปรายการไว้ให้นะครับ

สำหรับผม อยากจะเขียนถึงหนังเรื่องนี้ในผู้จัดการออนไลน์อีกช่องทางหนึ่ง เพราะผมคิดว่าหนังเรื่องนี้น่าสนใจ อยากเปิดพื้นที่ อยากช่วยประชาสัมพันธ์บอกเล่าให้ท่านผู้อ่านได้ติดตามหาโอกาสไปชมกัน

ผมว่าชีวิตคนในสังคมไทยทั่วๆไป ที่ไม่ใช่คนในสี่จังหวัดภาคใต้ หรือไม่ได้อยู่ใกล้ชิดชุมชนมุสลิมอื่นๆในกรุงเทพฯหรือตามจังหวัดต่างๆ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้สัมพันธ์กับคนมุสลิม ไม่ค่อยได้สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนมุสลิม ไม่ค่อยมีความรู้ความเข้าใจศาสนาอิสลาม

ความไม่เข้าใจในความแตกต่าง ทั้งภาษาวัฒนธรรมวิถีชีวิตศาสนาความคิดความเชื่อประเพณีพิธีกรรม เป็นที่มาของความไม่เข้าใจในการปฏิบัติต่อกันและการอยู่ร่วมกัน ทั้งในระดับรัฐ นโยบายของรัฐ กฎหมาย การทำงานของเจ้าหน้าทีรรัฐ และความสัมพันธ์ในระดับปัจเจกบุคคล

สำหรับพี่น้องมุสลิมในสี่จังหวัดภาคใต้ ซึ่งอยู่ในสถานการณ์ความรุนแรงต่อเนื่องมายาวนาน ยังมีความซับซ้อนของปัญหาทั้งจากประวัติศาสตร์ การเมือง สังคม วัฒนธรรม ความเป็นมาเป็นร้อยๆปี และขบวนการแบ่งแยกดินแดน ขบวนการก่อการร้าย ที่เกี่ยวพันกับปัญหาภายในประเทศและองค์กรภายนอกประเทศ ทั้งหมดยังเป็นปัญหาคาราคาซังแก้ไม่ตก มีความรุนแรงคุกรุ่นมาโดยตลอด ชาวบ้านในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ยังบาดเจ็บล้มตายด้วยการถูกซุ่มยิงโจมตีด้วยอาวุธสงคราม ระเบิดคาร์บอมบ์เกิดขึ้นในที่ชุมชน ฯลฯ มีเหตุร้ายเกิดขึ้นเกือบทุกวัน

การเคารพสิทธิเสรีภาพเสมอภาคในความเป็นมนุษย์ ความเท่าเทียมกัน เป็นเรื่องสำคัญระดับรัฐนโยบายรัฐ การสร้างความเข้าใจ สร้างความยุติธรรม สื่อสารความรู้ ความเป็นจริง ให้คนในสังคมเข้าใจความแตกต่าง สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ ทั้งระดับบุคคล ระดับประเทศ และระดับโลก เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก เป็นโจทย์ที่หลายประเทศกำลังเผชิญ กำลังถูกคุกคาม

น่าเสียดายที่หนังเรื่องนี้ฉายในหกจังหวัดเท่านั้น คือ กทม. ภูเก็ต สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ในส่วนของกรุงเทพฯ ฉายที่หอประชุมทีโอที มหาวิทยาลัยหอการค้า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ลาดกระบัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่เข้ามาสนับสนุนส่งเสริมเท่าที่ควร ระบบธุรกิจโรงภาพยนตร์เห็นแต่ประโยชน์เป็นตัวเงิน ไม่มีโอกาสในการฉายตามโรงภาพยนตร์ เป็นหนังที่ทำแล้วคนส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสได้ดู การสื่อสารไปถึงคนส่วนใหญ่ไม่เกิดผลเท่าที่ควร น่าเสียดายจริงๆครับ

ชื่อเรื่อง อมีน แปลว่า ซื่อสัตย์ ท่านนบีเป็นผู้ได้สมญานามว่า อัลอะมีน แปลว่า ผู้ซื่อสัตย์ ด้วยเหตุผลเพราะท่านเป็นคนที่ซื่อสัตย์ไว้วางใจได้ เนื้อหาของหนังเรื่องนี้สร้างจากวัจนะ ของ พระนบีมุฮัมมัด จากคัมภีร์อัลกุรอ่าน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับคนต่างศาสนิกที่มีต่อศาสนาอิสลาม เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และพลิกฟื้นคุณธรรม

ภาพยนตร์ อมีนเป็นภาพยนตร์นอกกระแส ที่ผู้ทำถือว่าเป็นทางเลือกใหม่ ที่ไม่เคยปรากฎในภาพยนตร์ไทย มีกรอบขอบเขตการนำเสนอตามหลักศาสนา ตลอดทั้งเรื่อง ไม่มีเสียงดนตรีประกอบที่มาจากเครื่องดนตรี ไม่มีฉากสูบบุหรี่ หรือเสพยาเสพติดทุกชนิดไม่มีฉากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่มีภาพหรือสิ่งอบายมุขใดๆ ไม่มีการเสนอภาพเรือนร่างสตรีหรือฉากโป๊ะเปลือยเพื่อให้เกียรติสตรี ไม่มีมุขตลกทลึ่งคำลามก

หนัง อมีน เป็นความตั้งใจของมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติและเครือข่ายภาคประชาชน ที่หวังจะสื่อบันเทิงสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับคำสอนที่แท้จริงของศาสนาอิสลาม เขียนบทโดย กิตติ พวงมณี บอกเล่าเรื่องราวของอมีน ตัวเอกของเรื่อง หลังจากเขาฟื้นขึ้นในหมู่บ้านทางเหนือใกล้ชายแดนพม่า ด้วยความช่วยเหลือของโต๊ะอิหม่ามประจำหมู่บ้าน และได้เรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวมุสลิม ได้พบกับข้าราชการน้ำดี ได้ความรู้จากวัจนะในอัลกุรอ่านจากหนุ่มมุสลิมตาบอดลูกชายของโต๊ะอิหม่าม

โดยทั้งหมดนี้ ได้นักแสดงคุณภาพมาร่วมงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของเร แม๊คโดแนลด์ ในบทนำ ร่วมด้วย สุเชาว์ พงษ์วิไล, ฐิติ พุ่มอ่อน, อธิป นานา, ทองขาว ภัทรโชคชัย และ อัล – อามีน แซลีมา

รัฐ หรือ ฮามีซี อัคคี ผู้กำกับหนังอมีน บอกว่า อยากทำหนังที่คนดูจบแล้วกลายเป็นคนใหม่ ภาพยนตร์ต้องทำหน้าที่มากกว่าความบันเทิง คือ มันจะต้องเปลี่ยนแปลงสังคม เปลี่ยนแปลงหัวใจคน ต้องให้ข้อคิดทัศนคติมุมมองใหม่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้

เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์นอกกระแสโคตรๆ จนต้องมาฉายกันในหอประชุมใหญ่ขององค์การโทรศัพท์ ตามมหาวิทยาลัย และโรงเรียน พื้นที่หรือเวทีในการเผยแพร่โคตรแตกต่างจากหนังทั่วๆไป

หนังเรื่องนี้ทำทุกอย่างตามหลักศาสนาอิสลาม ในหนังไม่มีตัวละครผู้หญิงแสดงเลย แปลว่าไม่มีนางเอก ไม่มีเพื่อนนางเอก ไม่มีตัวอิจฉา และแน่นอนไม่มีฉากตบจูบ แย่งชิงผู้ชายกันแบบละครหนังไทยทั่วไปที่ดูกัน

นอกจากนี้ถึงแม้คุณจะมาดูหนังเรื่องนี้กับแฟน คุณก็ไม่มีสิทธิ์หนังดูด้วยกันจะสวีทไปดูไปก็ไม่มีครับเพราะเขาจะแยกแถวคนดูอย่างชัดเจน ว่าแถวนี้ผู้ชายนั่ง แถวนี้ผู้หญิงนั่ง ทางเข้าทางออกของผู้หญิงและผู้ชายก็ยกออกจากกันคนละประตูเป็นต้น

การฉายหนังในห้องประชุมที่ไม่ใช่โรงภาพยนตร์ ปัญหาแรกที่ต้องเจอ คือเรื่องระบบภาพและเสียงที่ไม่ดีนัก ทำให้ซาวด์ในบางจังหวะที่น่าจะทำให้เราลุ้นระทึกกับเรื่องราวนั้นดูจะไม่ลุ้นมากเท่าที่ควร

หลายคนอาจจะมีคำถามในใจว่าหนังแนวนี้จะน่าเบื่อไหม เพราะเน้นเรื่องของศาสนา การเดินเรื่องน่าเบื่อไหม อืดไหม ผมต้องขอบอกเลยครับว่าไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด ถึงจะเป็นหนังศาสนา แต่เป็นแนวแอคชั่นดรามา สอดแทรกเรื่องราวอื่นๆเข้าไปด้วย แถมยังมีตัวละครบางตัวที่เล่นมุขตลกออกมาอยู่เรื่อยๆ บางมุขก็ทำให้เราขำได้ ดังนั้นแล้วไม่น่าเบื่อแน่ๆครับ
ที่ผมประทับใจมากนั้นคือเรื่องของภาพและมุมกล้องที่ถ่ายออกมาได้สวยมากครับ โดยเฉพาะภาพวิวทิวทัศน์ที่งดงามจริงๆ

สำหรับคนดูที่ไม่ใช่มุสลิมอย่างผม แม้หน้าตาจะเหมือนมีเชื้อมาบ้างก็ตาม ผมก็ได้เรียนรู้เรื่องของพี่น้องชาวมุสลิมมากเหมือนกัน เรื่องของการทำบุญ วิถีชีวิต การแก้ปัญหาในแบบมุสลิม ที่บางครั้งอาจแตกต่างจากคนศาสนาอื่น

ด้วยงบเพียงเท่านี้ทำหนังออกมาขนาดนี้สำหรับผม ผมว่าเจ๋งมากแล้วครับ แถมเป็นภาพสะท้อนอีกด้านหนึ่งที่เราคงแทบไม่ได้เห็นในกระแสพวกหนังฮอลลีวูด ซึ่งมักเสนอมุสลิมเป็นศัตรูหรือผู้ร้าย

ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดีทั้งนั้นแหละครับ ผมยังเชื่อในคำพูดนี้ ส่วนพวกที่ก่อกวนปั่นป่วนให้โลกนี้วุ่นวายโดยอ้างหลักศาสนานั้น ผมว่าคนเหล่านั้นบิดเบือนศาสนา เพื่อผลประโยชน์ต่างๆกันไป

สุดท้ายก็คงทำได้เพียงแค่วาดฝันและคาดหวังว่าคนมีอำนาจในบ้านเมืองนี้จะมองเห็นคุณค่าของหนังเรื่องนี้ เปิดพื้นที่ให้โอกาส สนุบสนุนให้เผยแพร่กระจายไปสู่คนทั่วไปให้มากขึ้น อย่างน้อยๆเพื่อให้เราเรียนรู้ความต่างทางศาสนา สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ


กำลังโหลดความคิดเห็น