xs
xsm
sm
md
lg

สิบแปดมงกุฎในคราบผ้าเหลือง

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย


ในบรรดาการหลอกลวงต้มตุ๋น ตบทรัพย์ชาวบ้าน ด้วยเล่ห์เหลี่ยมกลโกงวิธีต่างๆ ดูเหมือนวงการผ้าเหลืองจะมีพวกสิบแปดมงกุฎหลายรูปแบบ เอาทั้งไสยศาสตร์เวทมนตร์ ดูหมอดูดวง คาถาอาคม เรี่ยไรเงินทองหลอกล่อชาวบ้านได้เงินมหาศาล

ช่วงนี้ข่าวคาวเกี่ยวกับวงการพระสงฆ์มีออกมาทุกวัน ไม่มีวันหยุดราชการ จนกลายเป็นประเด็นร้อนที่ว่อนอยู่ในโซเชียลมีเดีย และพูดถึงกันทั่วบ้านทั่วเมือง

หลังจากกรณีการเดินธุดงค์ป่วนกรุงจนหลายคนออกเสียงคำนี้ผิดเป็นคำว่าทุเรศไปหมดแล้ว วัดพระธรรมกาย หัวเรือใหญ่ของงานนี้ก็เลยต้องรับเผือกร้อนไปเต็มๆ ชนิดเลี่ยงไม่ได้ แถมเรื่องนี้ยังมีการสาวการโยงใยไปถึงเรื่องอื่นๆ ทั้งเรื่องที่เป็นกิจของสงฆ์และไม่ได้เป็นกิจของสงฆ์ ออกนอกทางธรรมไปสู่ทางโลก ด้วยกิเลสเต็มๆ

ผมรู้สึกลำบากใจกับการไหว้พระสงฆ์องค์เจ้า บางทีก็หลับหูหลับตา คิดซะว่าไหว้ผ้าเหลือง พฤติกรรมของพระที่พบเห็น ทำให้ไหว้ไม่ลงจริงๆ ครับ

ในบรรดาข่าวฉาวโฉ่เวลานี้ ไม่มีใครเกินวัดพระธรรมกาย กรณีเงินบริจาค "สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น" ที่มี ศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ ศิษย์เอกของ ธัมมชโย เป็นคนจ่ายเช็ค 878 ฉบับ วงเงิน 1.13 หมื่นล้านบาทจากคดีฉ้อโกงเงิน โอนไปให้ 6 กลุ่ม ส่วนใหญ่เป็น กลุ่มวัดธรรมกาย บริษัท และบุคคลที่เกี่ยวกับวัด เช่น บริษัท เอส ดับบลิว โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด รับเงินก้อนโตที่โกงชาวบ้านมา เป็นคดีอาญาเข้าข่ายรับของโจรละครับ

ที่ชาวบ้านรับไม่ได้ ประเด็นพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช เมื่อปี 2542 ชี้ว่า พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นภิกษุ แต่มหาเถรสมาคม มีมติยืนยันว่า ไม่สามารถนำเรื่องอาบัติปาราชิกของพระธัมมชโย กลับมาพิจารณาใหม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ดำเนินการถึงที่สิ้นสุดแล้วตั้งแต่ในอดีต กรณียักยอกทรัพย์ที่ดินของวัดกว่า 900 ล้านบาทแล้วเอาที่ดินคืนแล้ว โกงเขามา ทำความผิดสำเร็จแล้ว แล้วเอาไปคืน ถือว่าพ้นผิดได้ด้วยหรือ

องค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ไทย ปกป้องพระธัมมชโยชัดแจ้งขนาดนี้ ชาวบ้านก็เห็นๆ และกังขาว่าเข้าข้างพวกเดียวกัน หรือไม่ก็ได้ประโยชน์วัตถุกำนัล หรือซื้อขายตำแหน่งด้วยกองเงินมหาศาลของวัดพระธรรมกาย หรือมีการซื้อตำแหน่งโดยวัดธรรมกาย

ความไม่ชอบมาพากลของอัยการสูงสุดในยุคทักษิณ ที่ถอนฟ้องธัมมชโยในข้อหายักยอกทรัพย์กลางศาล ในชั้นศาลฎีกา ในปี 49 ก่อนที่จะมีคำตัดสินเพียงไม่กี่วัน ก็เป็นเรื่องการโอบอุ้มจากอำนาจการเมือง อย่างชัดแจ้ง

ดูคำสัมภาษณ์พระที่ใกล้ชิดวงในอย่าง พระอดิศักดิ์ วิริยสกโก หนึ่งในสามพระผู้ก่อตั้งวัดธรรมกาย อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสและเหรัญญิกวัดธรรมกายแล้ว น่าอนาถกับพฤติกรรมสิบแปดมงกุฎในคราบผ้าเหลืองจริงๆ ครับ

พระอดิศักดิ์ เล่าถึงพฤติกรรมวัดพระธรรมกายเรี่ยไรบอกบุญในรูปแบบบริษัทเป็นธุรกิจ ให้คนทำบุญแลกกับนิพพานแลกกับสวรรค์ ทำบุญมากได้สวรรค์มาก สร้างสัญลักษณ์ตนเองเป็นผู้วิเศษ ต้องการความยิ่งใหญ่ทั้งทางศาสนาและทางโลก ทั้งอำนาจและเงินตรา คิดว่าตนเป็นพระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิด เป็นหัวหน้าพระพุทธเจ้าบนพระนิพพาน

ด้วยความที่เป็นพระรูปหล่อ มีสีกาที่มีสามีแล้ว อย่างสีกาอี๊ด สีกาตุ๊ มาชิงรักหักสวาทกันในวัด ทอดกฐินทอดผ้าป่าปีหนึ่งหลายครั้ง ได้เงินทีละหลายสิบล้าน เฉพาะเช็ค ไม่นับรวมแบงก์ เอาธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่มาเช็คเคลียร์ตัวเลขตั้งแต่เช้ามืด ยันเที่ยงยังไม่จบ ไปจบเอาวันรุ่งขึ้น ให้สีกาอี๊ดเป็นหน้าฉากให้นายไชยบูรณ์ในการกระจายเงินไปตามแบงก์ต่างๆ จนสับสน

มีการเอาเงินที่ชาวบ้านทำบุญ ไปลงทุนค้าน้ำมันในภาคอีสาน ยกย่องสีกาอี๊ดเป็นผู้จัดการ หมดเงินไปเป็นพันๆ ล้าน กว้านซื้อที่ดินทั้งรอบวัด ขยายไปซื้อที่ดิน โครงการจัดสรรที่ดินเกือบทุกจังหวัดทั่วประเทศ บุกรุกป่า ทำเหมืองทอง เหมืองอัญมณีหลายจังหวัด

เคยเป็นข่าวดัง เอาเงินไปเล่นหุ้นน้ำมันแม่ชม้อย เอาเงินไปปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ โดยให้ "เสี่ยสอง" หรือ สอง วัชรศรีโรจน์ เอาเงินวัดไปเล่นหุ้นเจ๊งไปสองหมื่นล้าน ต้องมาเรี่ยไรต่อด้วยโครงการสร้างสวรรค์วิมาน บอกบุญอย่างบ้าระห่ำ ไม่มีอะไรทำให้ได้ตังค์รวดเร็วเท่ากับการหลอกลวง

เพราะทำเรื่องชั่วไว้มาก หลอกลวงเงินชาวบ้านมหาศาล มีวิธีสร้างเกราะคุ้มกันด้วยการใช้เงินซื้อพระตำแหน่งใหญ่ๆ ถวายรถเบนซ์ 500 ใช้เงินซื้อยศตำแหน่งให้พระพรรคพวก ฯลฯ

คำสอนของวัดพระธรรมกายอวดอุตริ หลอกลวงต้มตุ๋นทำลายศาสนาอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่ได้สอนให้คนทำดี ให้มักน้อย สันโดษ กลับสอนให้โลภบุญ

ที่จริงผลงานวิทยานิพนธ์ของนักวิชาการ รวมทั้งท่าน ว. วชิรเมธี ได้วิเคราะห์สาระสำคัญที่ศึกษากรณีวัดพระธรรมกาย ได้สรุปไว้ชัดเจนหลายปีมาแล้วว่า วัดพระธรรมกายทำให้พระธรรมวินัยวิปริต และประพฤติวิปริตจากพระธรรมวินัย อีกทั้งยังพยายามทำลายความน่าเชื่อถือของพระไตรปิฎก นำคำสอนของลัทธิตัวเองมาปลอมปนในพระไตรปิฎก พร้อมกับยกเรื่องการทำบุญมาเป็นสินค้า

การทำพระธรรมวินัยให้วิปริต การประพฤติให้วิปริตจากพระธรรมวินัย ล้วนไม่เป็นผลดีต่อพระพุทธศาสนา ต่อสถาบันสงฆ์ และต่อสังคมไทย พฤติกรรมอย่างธัมมชโยไม่ใช่พระ ไม่สามารถเรียกว่าพระได้อีกต่อไป พระทั่วประเทศ ยังมีอีกมากที่สะสมทรัพย์เงินทองของมีค่า มีรถเก๋งสปอร์ต รถโบราณ รถเบนซ์ ล้วนสะสมกิเลส ไม่ใช่ตัดกิเลสตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

ถ้าไม่ปฏิรูปศาสนา ปฏิรูปองค์กรคณะสงฆ์ ไม่ขจัดพวกสิบแปดมงกุฎในคราบผ้าเหลืองอย่างจริงจัง คนไทยคงถูกหลอกลวงให้วิปริตกันต่อไป.
กำลังโหลดความคิดเห็น