xs
xsm
sm
md
lg

สัมปทานรอบ 21 กับเทคโนโลยี fracking (ที่โลกกำลังต่อต้าน)

เผยแพร่:   โดย: บัณรส บัวคลี่

แม้รัฐบาลจะไม่ประกาศมาตรงๆ ว่าการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 จะยอมให้บริษัทผู้รับสัมปทานใช้เทคโนโลยีขุดเจาะแบบใหม่ Hydraulic Fracturing หรือภาษาปากว่า fracking ที่กำลังบูมอยู่ในสหรัฐอเมริกา/แคนาดาแต่พฤติกรรมแวดล้อมทั้งหลายบ่งชี้ไปทางนั้น

เทคโนโลยีขุดเจาะดังกล่าวเพิ่มจะบูมเอาในทศวรรษที่ผ่านมานี่เองจัดเป็นของใหม่ของวงการพลังงานโลก อานุภาพของ fracking สามารถผลิตน้ำมันและแก๊สออกมาได้มากกว่าระบบเดิมขนาดทำให้อเมริกามีผลผลิตเพิ่มขึ้นหลายเท่า ตอนนี้อเมริกาซึ่งก็คือเจ้าพ่อวงการพลังงานโลกพยายามจะนิยามความแตกต่างระหว่างผลผลิตที่ได้จากระบบใหม่ให้ชัดขึ้นตั้งชื่อเรียกว่า shale gas กับ tight oil แยกของเก่าของใหม่ออกจากกัน

วงการวิเคราะห์ชี้ว่าราคาน้ำมันโลกที่ลดพรวดลงต่ำกว่าบาเรลละ 80 เหรียญมีผลมาจากเทคโนโลยี fracking นี่แหละเพราะทำให้อเมริกาที่เดิมเป็นประเทศผู้นำเข้าใหญ่เป็นผู้บริโภคสำคัญเกิดผลผลิต shale gas กับ tight oil ได้มากจนล้นขนาดต้องส่งออก ส่วนประเทศที่เคยใช้มากๆ อย่างจีนก็ลดความต้องการลงในเมื่ออุปทานลดลงระดับราคาก็ย่อมลดเป็นธรรมดา

เอกสารวิเคราะห์ in-depth analysis ของสภายุโรป (EUROPEAN PARLIAMENT-june 2014) ชื่อว่าUnconventional gas and oil in North America ยกให้การเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยี fracking ของอเมริกาเป็นถึงรับการปฏิวัติพลังงานโลกเพราะมันเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิรัฐศาสตร์การพลังงานอีกโฉมหน้าหนึ่ง เทคโนโลยีขุดเจาะแบบเดิม (conventional oil) ต้องสำรวจหากระเปาะหรือแอ่งใต้ดินแล้วส่งท่อไปดูดขึ้นแต่เทคโนโลยี fracking แยงลึกลงไปอีกไปถึงชั้นหินแล้วท่อก็สามารถเปลี่ยนทิศหักมุมแนวนอนแยงเข้าไปแล้วก็ฉีดพ่นแรงอัดน้ำตามแนวนอนนั้นคล้ายกับก้างปลา

อานุภาพในการผลิตของมันจึงมากกว่าแบบเดิมหลายเท่า !

รัฐบาลของประเทศไทยเราไม่ได้ประกาศเรื่องจะให้มีการขุดเจาะโดยเทคโนโลยีใหม่ตรงๆ แต่สะท้อนออกมาจากการที่ปัดฝุ่นแปลงสัมปทานเดิมของรอบ 19 ที่เคยสำรวจแล้วไม่พบ “ปิโตรเลียม” มาเปิดสัมปทานใหม่ ของเดิมไม่พบกระเปาะหรือแอ่งไม่เป็นไรเพราะเทคโนโลยีใหม่มุ่งหาชั้นหินน้ำมัน Shale เป็นสำคัญ

อย่างเช่นแปลง L 3/55 (197.32) ที่อ.แม่สอด จ.ตาก ที่นั่นคนท้องถิ่นและกรมทรัพยากรธรณีรู้มานานแล้วว่าเป็นแหล่งหินน้ำมัน (shale oil) ขนาดใหญ่ แต่สมัยก่อนมันไม่รู้จะเอามาใช้ประโยชน์อย่างไรนอกจากเอามาเผาแบบเดียวกับถ่านหิน กรมพลังงานขีดเส้นพื้นที่แม่สอดให้สัมปทานสำรวจขุดเจาะรอบที่ 19 (L17/48) มีการวัดคลื่นสองมิติและเจาะสำรวจหาปิโตรเลียมแล้วไม่พบก็เลยคืนแปลงกลับมาเป็นของรัฐ เมื่อฝ่ายน้ำมันไม่เอาต่อมา กฟผ.กับกรมทรัพยากรธรณีเลยตามไปสำรวจต่อเมื่อ 2550-2551 เอาเฉพาะหลุมบ้านห้วยกะโหลก หมู่ 4 ต.แม่ปะ อ.แม่สอดพบมีปริมาณสำรอง 390 ล้านตัน จากทั้งแอ่ง 620 ล้านตันเรียกนักข่าวไปแถลงกันเอิกเกริก (คลิกอ่าน ข่าวสำรวจหินน้ำมันแม่สอด) ตอนนี้กระทรวงพลังงานเปลี่ยนใจแล้วเพราะรู้ว่ามีเทคโนโลยีใหม่เอาหินน้ำมันมาสกัดได้โดยตรง ก็เลยใส่เอาไว้ในประกาศรอบ 21

ก็อย่างที่บอกว่าเทคโนโลยี fracking มันใหม่มากเพิ่งจะบูมในอเมริกาช่วง 10 ปีมานี้ขนาดสหภาพยุโรปเองก็เพิ่งจะตื่นให้ความสนใจเมื่อปีสองปีนี้เอง อันว่าอะไรที่ประโยชน์มากก็มักจะมีโทษตามมามากเช่นกันตามคำที่ว่า “คุณอนันต์มาพร้อมกับโทษมหันต์” ในอเมริกากระแสต่อต้าน fracking มากอย่างไม่น่าเชื่อเพราะว่ามันทำให้ก๊าซมีเทนในใต้ดินลึกรั่วไหลออกมาปนเปื้อนดินและน้ำ การศึกษาที่เพนซิลวาเนีย (คลิกอ่าน- The effects of shale gas exploration and hydraulic fracturing on the quality of water resources in the United States) พบว่ามีผลต่อน้ำผิวดินรอบๆ ไซต์งานรัศมี 1 ก.ม.

นอกจากเรื่องมลภาวะต่างๆ แล้วเอกสารของสภายุโรปยังพูดถึงผลกระทบที่มีต่อ “แผ่นดินไหว” ด้วยนี่น่ากลัวมากครับ ไม่ต้องมีความรู้เชี่ยวชาญอะไรหรอกคิดจากสามัญสำนึกนี่แหละ ใต้ดินของเรามีชั้นดินและหินรองรับเป็นชั้นๆ มันคือโครงสร้างทางธรณีวิทยาที่พยุงเปลือกโลกอยู่ ลองไปขุดทำลายชั้นใดชั้นหนึ่งให้เปลี่ยนรูปไปมันย่อมมีผลต่อแผ่นดินไหวด้วย แต่ถ้า ปตท./ก.พลังงานหรือใครจะเถียงว่ามโนไปหรือเปล่า

เทคโนโลยี fracking กินคำโตและเร็วกว่าแบบเดิม ระบบเดิมจะค่อยๆ ดูดทรัพยากรขึ้นมาปีละราว 5% แต่ fracking เหมือนกับห่าลงกวาดรวดในอัตราเร็วกว่ากันเยอะตัวอย่างที่นอร์ทดาโกต้าเฉลี่ยปีละ 44% หมายความว่าใครที่ได้สัมปทานนี้ไปจะดูดพรวดๆ รวดเดียวไม่กี่ปีก็เกลี้ยง ข้อมูลนี้ผมไม่ได้นั่งเทียนนะอ้างจากเอกสารของสภายุโรปมา

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในอเมริกาและยุโรปเขาออกคู่มือ คำแนะนำ มาตรการป้องกัน เพิ่มเพดานตัวชี้วัดในการป้องกันปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ฝรั่งเศสถึงกับชะลอการเปิดสัมปทานเพื่อศึกษาให้ชัด มีการต่อต้านการขุดเจาะด้วยเทคโนโลยีนี้ในอังกฤษ (คลิกอ่าน) และในอียู (คลิกอ่าน)

ขณะนี้โลกพลังงานอยู่ระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีที่มีอานุภาพผลิตมากกว่าเดิมแต่ก็มีผลกระทบมากกว่าเดิม หลายประเทศอยู่ในห้วงของการศึกษาพิจารณาหาวิธีที่เหมาะสม ถามว่าประเทศไทยมีมาตรการกฎเกณฑ์กติกาและระบบป้องกันที่ทันสมัยแล้วหรือยัง ? หรือว่ายังใช้กฎเกณฑ์แบบเดิมที่เคยทำมาของสัมปทานรอบ 19-20 ?

ประเทศของเราเคยให้สัมปทานแก่บริษัทที่จดทะเบียนในเกาะฟอกเงินทั้งๆ ที่รู้ว่านี่เป็นแทคติกของบริษัทน้ำมันที่ตัดตอนหากว่าเกิดทำผิดพลาดถูกฟ้องร้องหรือเกิดมลพิษขึ้นมาจะได้ไม่ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายไปถึงบริษัทแม่ แล้วรอบ 21 นี้ประเทศไทยจะยังให้สัมปทานแก่บริษัทเกาะฟอกเงินอีกหรือเปล่า? รวมไปถึงการพิจารณาถึงแปลงสัมปทานที่อยู่ใกล้รอยเลื่อนแผ่นดินไหวอย่างรอบคอบหรือยัง ?

ขอความชัดเจนให้กับประชาชนหน่อยครับกระทรวงพลังงานและบรรดาท่านๆ เทคโนแครตผู้กุมอำนาจ.
กำลังโหลดความคิดเห็น