เริ่มแล้วครับ กระแสและบรรยากาศเทศกาลกินเจ เดินไปทางไหน หันซ้ายหันขวาก็จะต้องเห็นธงเหลืองมีตัวอักษรเจสีแดง เขียนเป็นภาษาจีนมั่งไทยมั่งบนธง บางทีมองผ่านๆดูคล้ายธงของกรุ๊ปทัวร์แถวๆวัดพระแก้ว แต่ไม่ใช่ครับ ธงนี้คือธงเจ บ่งบอกให้เรารู้ว่าเทศกาลกินเจปีนี้ได้มาถึงแล้ว
เทศกาลกินเจในเดือนเก้าตามปฏิทินจีน นับตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ไปถึงขึ้น 9 ค่ำ ในปีนี้การกินเจมีถึงสองรอบด้วยกันคือ ครั้งที่ 1 ตรงกับวันที่ 24 กันยายน-2 ตุลาคม 2557ครั้งที่ 2 ตรงกับวันที่ 24 ตุลาคม-1 พฤศจิกายน 2557 เอาเป็นว่ากินกันยาวเกือบเดือน
บางคนบอกว่าปีนี้เป็นเทศกาลกินเจมหากุศล ในรอบร้อยปีจะมีสักครั้ง ซึ่งที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องมหัศจรรย์อะไรหรอกครับ ปฏิทินจันทรคติของทุกชาติ รวมทั้งของไทยและจีน อย่างของไทยจะเคยได้ยินมีวันพระสองครั้งเพราะเป็นปีที่มีเดือนแปดสองครั้งเป็นต้น เนื่องจากการนับจำนวนวันในแต่ละปี จะมีจำนวนวันที่ขาดหายไป จึงมีการทบวัน ปีนี้ปฏิทินจีนมาถึงรอบทบวันในเดือนเก้า ทำให้มีเดือนเก้าสองครั้ง ก็เลยมีเทศกาลกินเจสองครั้ง บางคนอาจจะถือโอกาสกินยาวไปเลยทั้งเดือนเป็นอภิมหากุศลกันเลยครับ
ตัวอักษาจีนสีแดง เป็นสีสิริมงคลของจีน บนธงสีเหลืองสัญญลักษณ์ผู้ทรงศีล บอกความหมายว่า เทศกาลกินเจไม่ใช่เพียงแค่การกินอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ รวมไปถึงผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุ้ยช่าย ใบยาสูบ และสุราของเมาต่างๆ แต่ยังรวมถึงการรักษาศีล หรืออุโบสถศีล การรับประทานอาหารก่อนเที่ยง ตามหลักศีล8 ของศาสนาพุทธนิกายมหายานอย่างในจีนหรือเวียดนาม
เราจึงมักได้ยินการเรียกควบกันว่า การถือศีลกินเจ ในพจนานุกรมของไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน(พ.ศ.2542) อธิบายว่า กินเจ หมายถึง การถือศีลอย่างญวนและจีน โดยกินอาหารจำพวกผักล้วนไม่มีเนื้อสัตว์
ในปัจจุบันผู้ที่รับประทานอาหารทั้ง 3 มื้อ แต่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ยังคงเรียกว่า "กินเจ" ความหมายคนกินเจ ไม่ใช่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ไม่กินของคาว แต่คนที่กินเจ ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมทั้งกาย วาจา ใจ เป็นการปฏิบัติธรรมรักษาศีล มีเมตตาไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ไม่เบียดเบียนเพื่อนมนุษย์ นอกจากกินเจแล้วจึงต้องถือศีลปฏิบัติธรรมด้วย เพื่อความสุขทั้งกายใจจากกุศลผลบุญ
ผมว่าคนในสังคมปัจจุบัน รับกระแสอยู่ภายใต้กระแสทั้งดีและร้ายได้ง่ายและเร็ว มีเทศกาลอะไรของชาวโลก คนไทยรับไวมาก ไม่ว่า วันคริสตมาส วันวาเลนไทน์ หรือกระแสศรัทธาพระโพธิสัตว์หรือเทพเจ้า อย่าง เจ้าแม่กวนอิม พระพิฆเนศ เป็นต้น
กระแสการกินเจเวลานี้ ถ้าเป็นกระแสถือศีลกินเจไปด้วยกัน จะมีผลทางสังคมมากทีเดียว ถ้าคนในสังคมอยู่ในศีลในธรรม เพียงรักษาศีล5 ข้อให้ได้ ก็คงลดปัญหาการเข่นฆ่าทำร้าย การโกหกคดโกง การประพฤติผิดในกามคบชู้ผิดลูกผิดเมียนอกใจมีกิ๊ก หรือการดื่มสุราของมึนเมา ชีวิตคน ในครอบครัวและสังคมคงสันติสุขกว่าที่เป็นอยู่มาก คดีอาชฌากรรมปล้นโกงคงไม่มากเท่านี้ ตำรวจ ศาล คงไม่ต้องทำงานหนักอย่างที่เป็นอยู่ ประเทศชาติก็คงไม่เสียหายล่มจมเพราะกิเลสตัณหาของคนที่ไม่รู้จักพอ ไม่ละอายต่อบาป
นอกจากนี้ปัญหาทางด้านสุขภาพของคนไทย และภาระทางด้านสาธารณสุขของรัฐก็คงจะดีขึ้น กระแสการกินอาหารเพื่อสุขภาพตื่นตัวมาก การกินเจเพื่อสุขภาพเป็นเรื่องน่าสนใจ เพื่อป้องกันโรคที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค เวลานี้คนไทยเป็นโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตการกินการอยู่มากขึ้นไม่ว่าโรคมะเร็ง โรคหัวใจ เบาหวาน ความดัน ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการกินอาหาร
การกินพืชผักผลไม้มีประโยชน์มหาศาลต่อการป้องกันโรคหลายๆโรค แต่ขณะเดียวกันต้องตระหนักพิษภัยที่ตกค้างปนเปื้อนในพืชผักผลไม้ ดีที่สุดคือการปลูกพืชผักไว้กินเอง ถ้าเป็นไปยาก ควรเลือกซื้อพืชผักออร์แกนนิค ไม่ใช้สารเคมี การล้างผักผลไม้เพื่อลดสารตกค้างด้วยวิธีการต่างๆ การรับประทานผักผลไม้ตามฤดูกาล สิ่งเหล่านี้จะทำได้เมื่อทำอาหารกินเองในบ้าน และยากจะควบคุมได้ถ้าซื้ออาหารสำเร็จรูปที่เขาทำขาย ซึ่งยังถูกซ้ำเติมด้วยสารกันบูด สารฟอกขาว ผงชูรส เค็มเกิน หวานเกิน ฯลฯ
อาหารเจที่ทำขายกันทั่วไป มักทำด้วยแป้ง ยิ่งเอาแป้งมาทำเลียนแบบเป็นเป็ด เป็นเครื่องในสัตว์ ให้ดูเหมือนเนื้อสัตว์ยิ่งอันตราย เพราะกรรมวิธีการทำต้องใส่สารเคมีเข้าไปช่วยให้กรอบให้เหนียวเด้ง เติมกลิ่น เติมสี เข้าไปด้วย ยิ่งไปกันใหญ่เลยละครับ อันตรายเป็นพิษเป็นภัยทั้งนั้น อาหารบางอย่างแม้จะทำจากถั่วธัญพืชต่างๆ ถึงจะดัดแปลงน้อย แต่โอกาสที่จะมีเชื้อราก็มีอยู่สูง หากวัตถุดิบไม่ดีพอ
ไม่ต้องอะไรมากหรอกครับ แค่อาหารที่ผัดน้ำมันจนมันเยิ้ม เค็มจัด หวานจัด ก็แย่แล้วหละครับ บางคนกินเจแล้วอ้วนขึ้น น้ำหนักเพิ่ม คลอเลสเตอรอลสูง เบาหวานขึ้น ความดันสูง อย่างนี้ไม่ดีแน่
เอาเป็นว่า ต้องกินเจอย่างมีสติรู้เท่าทันดีกว่าครับ หาความรู้มีปัญญา เลือกวัตถุดิบ การปรุงอาหารที่ปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อของกระแส กระแสกินเจทุกวันนี้คนจำนวนมากถูกคนบางกลุ่มฉวยโอกาสทางธุรกิจ โดยเฉพาะสินค้าทางด้านอาหารและสิ่งของในการทำบุญ ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี
อย่างไรก็ตาม ยังมีทางเลือกนอกกระแสกินเจที่น่าสนใจอีกมาก บางคนบอกว่า เทศกาลกินเจราคาผักผลไม้หลายชนิดแพงขึ้น ไว้เทศกาลกินเจผ่านไปก่อน แล้วค่อยกินเจหลังเทศกาลก็ได้ บางคนก็ว่า ทานอาหารเพื่อสุขภาพทุกวันทั้งปี น่าจะดีต่อสุขภาพมากกว่ากินเจเพียงไม่กี่วัน
ก็แล้วแต่การพินิจพิจารณาของแต่ละคน สรุปว่าเทศกาลกินเจปีนี้ ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพดีทั้งกายใจ จากการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการปฏบัติตนอยู่ในศีลในธรรมนะครับ