U–Net เรื่องบ้องตื้นของระบบการศึกษาไทย

การเมืองกำลังเข้มข้นขึ้นทุกวัน แต่คงไม่จบง่ายๆ ต่อสู้ อดทน กันต่อไปครับพ่อแม่พี่น้อง เพราะประเทศนี้มีนักการเมืองสายพันธุ์ประหลาด ขี้โกง หน้าด้านหน้าทน ติดยึดอำนาจบารมีการเมือง ทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ตัวเองและพรรคพวก หาสปิริต ความรับผิดชอบใดๆไม่มีเลย เรือเฟอร์รี่เกาหลีใต้จม นักเรียนและคนตายหลายร้อยคน ผู้นำเกาหลีใต้แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก

ประเทศไทยนายกรัฐมนตรี ถูกศาลชี้มูลความผิดการกู้เงินสองล้านล้าน อื้อฉาวคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเป็นหนี้ชาวนาทั้งประเทศ ประชาชนชุมนุมถูกทำร้ายบาดเจ็บล้มตายหลายร้อยคน นายกยิ่งลักษณ์ยังลอยหน้าเกาะเก้าอี้ ไม่ละอายต่อการทำชั่ว ไม่รับผิดชอบ ไม่มีสปิริตใดๆ

คุณภาพของนายกรัฐมนตรีผู้นำประเทศ คุณภาพของนักการเมือง สะท้อนคุณภาพของประชากร ว่ากันว่า ส.ส.ผู้แทนราษฎรเป็นแบบไหน ประชาชนเป็นแบบนั้น คุณภาพของคน เป็นต้นตอปัญหาของประเทศชาติ คนในสังคมมีคุณภาพหรือด้อยคุณภาพ สาเหตุสำคัญมาจากคุณภาพของระบบการศึกษาไทย

ล่าสุด สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ศึกษาเสนอการสอบ U-Net หรือ การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติระดับอุดมศึกษา (University National Education Test) อาจเรียกกันง่ายๆ ว่า การสอบวัดความรู้ของนักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีสุดท้ายของทุกสาขาในมหาวิทยาลัย ก่อนจบการศึกษานั่นเอง โดยในปีการศึกษา 2557 จะมีการนำร่องสอบ U-Net เฉพาะผู้ที่สมัครใจเข้าสอบ ใน 4 วิชา ดังนี้
1.การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
2.การใช้สารสนเทศและเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิต
3.การรู้เท่าทันสื่อ การคิดวิเคราะห์แก้ปัญหา (Media Literacy)
4.การคิดอย่างมีวิจารณญาณ (Critical Thinking)

และในปีการศึกษา 2558 ท สทศ. จะเพิ่มการสอบ U-Net อีก 2 ด้าน ได้แก่
1.ด้านทักษะวิชาชีพเฉพาะสาขาวิชา
2.ด้านคุณธรรม จริยธรรม

ทั้งหมดนี่ถ้าเป็นตามแผนของ สทศ. เด็กไทยคงถูกกระหน่ำซ้ำเติมจากระบบการศึกษาที่ไร้คุณภาพที่ย่ำแย่อยู่แล้วหนักเข้าไปอีก มีเสียงคัดค้านเรื่องการสอบ U-Net จากนักศึกษา มีคำถามที่ตามมามากมายโดยเฉพาะจากเด็กๆว่าเรียนจะจบแล้วยังต้องมาสอบเรื่องพวกนี้อีกเหรอ จำเป็นต้องสอบไหม แต่ละสาขาวิชามีความแตกต่างกัน และต่างก็ต้องมีหลักการมาตรฐาน สอบแล้วจะเอาไปยื่นใบสมัครงานด้วยหรือไม่ ฯลฯ

การประเมินแบบนี้จะเอาอะไรมาชี้วัด ยิ่งการประเมินด้านคุณธรรมจริยธรรมยิ่งแล้วใหญ่ จะเอาอะไรมาเป็นหลักเกณฑ์ ที่สำคัญสังคมไทยเวลานี้ ผู้ใหญ่นั่นแหละตัวการสำคัญเป็นแบบอย่างเลวๆ นักการเมืองข้าราชการเลวๆที่มีอำนาจสั่งโน่นนี่กำหนดให้เด็กต้องแบกรับภาระนั่นแหละตัวดี มองหาคนมีคุณธรรมจริยธรรมไม่เจอ มีแต่พวกทุจริตคอรัปชั่นโกงกิน ต้องปฏิรูปการเมือง เอาคนเลวพวกนี้ออกไป นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของการสร้างจริยธรรมคุณธรรมในคนรุ่นต่อไป

การสอบทักษะทางวิชาชีพ บางสายมันต้องสอบอยู่แล้ว ไม่รู้จะจัดสอบให้มันทับซ้อนกันทำไม ขณะเดียวกันทุกคนเรียนมาอาจจะไม่ได้ไปทำงานตามสายที่เรียนมาเสมอไป เพื่อนที่เรียนด้านนิเทศศาสตร์ เอกวารสารศาสตร์ของผม ส่วนมากจบไปก็ไม่ได้มาเป็นนักข่าว หันไปทำอาชีพอย่างอื่นกันเยอะแยะ

การวัดประเมินสถานศึกษาไม่ได้วัดที่ตัวนักศึกษาอย่างเดียว นักศึกษาเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น และเป็นปลายทางของกระบวนการการจัดการศึกษา ทำไมไม่วัดต้นทางวัดความสามารถคุณธรรมจริยธรรมอาจารย์ และผู้บริหารสถาบันการศึกษา เวลานี้เอาแต่การศึกษาเชิงพาณิชย์ ประเภทเอาแต่เงิน จ่ายครบจบแน่ คุณภาพทางการศึกษาแทบไม่มีเหลือผลิตบัณฑิตไม่มีความรู้ ไม่รู้เรียนจบมาได้ยังไง เข้าข่ายทั้งโง่ทั้งเลว อออกมากร่าง บางคนอวดเบ่งเป็นดอกเตอร์จบปริญญาเอก แต่ไม่มีความรู้ไม่มีจริยธรรมคุณธรรม บางคนได้ใบปริญญามาด้วยการทุจริต ส่งลูกน้องไปเรียนแทน จ้างคนอื่นทำรายงานและวิทยานิพนธ์ ตัวอย่างมีให้เห็นตั้งมากมาย

ตัว สทศ. เองที่คอยแต่จะตรวจประเมินคนอื่น พวกคุณเองก็สมควรถูกตรวจสอบและประเมินบ้างเช่นกัน บางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา เป็นที่รวมของพรรคพวกที่ลากกันเข้ามา ไม่ได้กลั่นกรองกันด้วยความรู้ความสามารถคุณภาพคุณธรรม แต่เข้ามาด้วยการเลียแข้งเลียขานักการเมือง

ต้องไม่ลืมว่าพวกคุณในหน่วยงานอย่างสทศ หรือ สมศ.(สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา)หรือสกอ.(สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา) หลายสำนักเหลือเกินละครับชาวบ้านแทบจะเอ่ยไม่ถูก ทั้งชื่อเต็มชื่อย่อ พวกคุณไม่ใช่ผู้เรียน ไม่ใช่คนสอบ พวกคุณเคยถามผู้มีส่วนได้ส่วนเสียไหมว่าเด็กๆมีความเห็นอย่างไร ผู้ปกครองซึ่งต้องแบกภาระเห็นอย่างไร คุณออกมาตรการใหม่ๆ ให้เด็กๆสอบสารพัด ทั้งที่ไม่ได้เกิดมรรคผล ไม่ได้ทำให้คุณภาพการศึกษาดีขึ้น ที่ชาวบ้านเห็นก็เห็นแต่แย่ลงทุกวัน ล้มเหลวในการสร้างคนดีคนมีความสามารถ

ผู้ใหญ่บางคนก็คิดแต่นโยบายโดยไม่แคร์เลยว่าการปฏิบัตินั้นมันจะทำได้หรือไม่ และจะส่งผลกับใคร อะไรอย่างไรบ้าง ขอแต่ให้มีหน่วยงานใหม่ ตนเองและพรรคพวกได้เข้ามามีตำแหน่งกินเงินเดือนแพงๆเบี้ยประชุมสูงๆถลุงเงินภาษีชาวบ้านกันเป็นว่าเล่น

นี่ยังไม่นับเรื่องการสอนการสอบที่วัดด้วยการท่องจำ ด้วยข้อสอบที่ไม่ได้มาตรฐานและเฉลยคำตอบที่ถูกเด็กๆโต้แย้งไม่เห็นด้วยกันทุกปี เป็นอย่างนี้ตลอดมา พอกันทีหยุดกันได้แล้วครับ เราจะได้คนไทยที่คิดไม่เป็นเพิ่มขึ้นทุกวัน การเรียนการสอนการสอบต้องส่งเสริมให้เด็กรู้จักค้นคว้าหาข้อมูล มากว่าที่จะมานั่งจดๆท่องๆเอาไปสอบ

ที่ทำกันอยู่มีแต่ทำลายศักยภาพของเด็ก ทำลายความคิดสร้างสรรค์ ข้อสอบบีบคั้นให้เด็กท่องจำตอบให้ตรงกับเฉลย ไม่เปิดกว้างให้คิดวิเคราะห์ ถ้าใครคิดต่างหรือคิดนอกกรอบก็มักกลายเป็นตัวประหลาดไป

ล่าสุด สทศ. ยกเลิกการสอบ U-Net ออกไปแบบไม่มีกำหนด ด้วยเหตุผลบ้องตื้นว่า สมศ.และ สกอ. ทั้งสองหน่วยงานไม่ประสงค์จะนำผลสอบไปใช้ จึงไม่มีความจำเป็นต้องจัดสอบ

ปัญหาการศึกษาเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย ที่ต้องการการปฏิรูปอย่างจริงจังเร่งด่วน ประชาชนโดยเฉพาะเด็กต้องมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ต้องเปิดโอกาสที่จะรับฟังความคิดความเห็นจากเด็กๆ ต้องเป็นธรรมโปร่งใสและตรวจสอบได้ คุณภาพของคนไทยและอนาคตของประเทศไทยอยู่ที่การศึกษา เป็นรากเหง้าสำคัญของสังคม