สปสช. หนุนทำโครงการดูแลผู้ป่วยโรค “ฮีโมฟีเลีย” ร่วมหน่วยบริการ ชุมชน และท้องถิ่น ช่วยดูแลผู้ป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ หลังพบบางพื้นที่เข้าไม่ถึงบริการ ผู้ป่วยขาดความรู้ในการดูแลตัวเอง ทุ่มงบ 185 ล้านบาทดูแลรวมโรคเรื้อรังอื่นด้วย
นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า โรคฮีโมฟีเลียผู้ป่วยจะมีอาการเลือดออกง่ายและหยุดยาก เป็นโรคพันธุกรรม ถือเป็นโรคเรื้อรังที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง ผู้ป่วยต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อดำรงชีวิตอย่างคนปกติ ซึ่งปัญหาสำคัญของผู้ป่วยโรคนี้คือ ผู้ป่วยบางรายยังขาดความรู้ความเข้าใจในการดูแลตนเอง ส่งผลให้เจ็บป่วยซ้ำซ้อน มีปัญหาการปรับตัวเข้ากับสังคม ปัญหาการศึกษา และเลือกงานที่เหมาะสมกับตนเอง จนเกิดปัญหาด้านจิตใจและการเข้าสังคมตามมา หัวใจสำคัญของการดูแลผู้ป่วยโรคนี้คือ ส่งเสริมกำลังใจ อย่าให้รู้สึกว่าตนเองเป็นปมด้อย จึงควรช่วยส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีจิตใจร่าเริง วิธีหนึ่งคือให้ผู้ป่วยรวมกลุ่มกัน ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมกำลังใจแล้ว ยังเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดูแลตนเองด้วย
นพ.ประทีปกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การดูแลผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลียในบางพื้นที่ยังมีปัญหา โดยเฉพาะถิ่นทุรกันดาร เพราะเข้าไม่ถึงระบบบริการ เดินทางมารับบริการไม่สะดวก หน่วยบริการในชุมชนไม่ได้จัดระบบรองรับการดูแลรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ และผู้ป่วยขาดความรู้ในการดูแลตนเอง ปี 2557 สปสช. จึงร่วมกับชมรมเครือข่ายผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลียรายภาค และมูลนิธิโรคเลือดออกง่ายฮีโมฟีเลียแห่งประเทศไทย พัฒนาระบบการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลีย โดย สปสช. ได้สนับสนุน “โครงการบริหารจัดการการดูแลผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลีย แบบมีส่วนร่วมของหน่วยบริการ ชุมชน และภาคีเครือข่ายท้องถิ่น” ใช้หลักบริหารจัดการโรคที่มีเป้าหมาย ใช้ระบบเครือข่ายบริการพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยในชุมชน ฝึกอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรวิชาชีพสาธารณสุข และ อสม. รวมทั้งแกนนำเครือข่ายผู้ป่วยในพื้นที่หน่วยบริการที่เป็นที่ตั้งตามภูมิลำเนาของผู้ป่วย เพื่อให้คำปรึกษาแก่ครอบครัวผู้ป่วยรายใหม่และและรายเก่า ซึ่งจะกระจายการอบรมไปพื้นที่ชุมชนต้นแบบทั้ง 4 ภาค ก่อนขยายให้ครอบคลุมยังพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ
นพ.ประทีปกล่าวว่า นอกจากนี้ ในโครงการฯ ยังมีการจัดทำหลักสูตร “แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ค่าใช้จ่ายสูง Haemophilia ในชุมชน โดยใช้รูปแบบการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง” ที่ครอบคลุมการดูแลผู้ป่วยของสถานบริการทุกระดับอย่างต่อเนื่องถึงชุมชน ในการติดตามเฝ้าระวัง การป้องกันภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วย เพื่อให้เกิดการดูแลผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลียอย่างมีคุณภาพ
“ผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลียนับเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่น่าเห็นใจ เพราะเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต เนื่องจากเป็นโรคพันธุกรรมไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้น นอกจากการรักษาพยาบาลตามสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ให้การดูแลรักษาทางกายแล้ว การดูแลด้านภาวะจิตใจยังเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งในปีงบประมาณ 2557 สปสช. ได้รับการอนุมัติจัดสรรงบกองทุน จำนวนเงิน 185,149,080 บาท โดยจัดสรรงบประมาณงวดแรก สำหรับจ่ายชดเชยค่าบริการแฟคเตอร์ เป็นจำนวนเงิน 140,297,104 บาท ดังนั้น เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณภาพเช่นเดียวกับคนปกติทั่วไป สปสช. จึงให้การสนับสนุนที่เน้นการเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย ไม่แต่เฉพาะกลุ่มผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลียเท่านั้น แต่รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังอื่นๆ ด้วย” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว
นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า โรคฮีโมฟีเลียผู้ป่วยจะมีอาการเลือดออกง่ายและหยุดยาก เป็นโรคพันธุกรรม ถือเป็นโรคเรื้อรังที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง ผู้ป่วยต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อดำรงชีวิตอย่างคนปกติ ซึ่งปัญหาสำคัญของผู้ป่วยโรคนี้คือ ผู้ป่วยบางรายยังขาดความรู้ความเข้าใจในการดูแลตนเอง ส่งผลให้เจ็บป่วยซ้ำซ้อน มีปัญหาการปรับตัวเข้ากับสังคม ปัญหาการศึกษา และเลือกงานที่เหมาะสมกับตนเอง จนเกิดปัญหาด้านจิตใจและการเข้าสังคมตามมา หัวใจสำคัญของการดูแลผู้ป่วยโรคนี้คือ ส่งเสริมกำลังใจ อย่าให้รู้สึกว่าตนเองเป็นปมด้อย จึงควรช่วยส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีจิตใจร่าเริง วิธีหนึ่งคือให้ผู้ป่วยรวมกลุ่มกัน ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมกำลังใจแล้ว ยังเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดูแลตนเองด้วย
นพ.ประทีปกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การดูแลผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลียในบางพื้นที่ยังมีปัญหา โดยเฉพาะถิ่นทุรกันดาร เพราะเข้าไม่ถึงระบบบริการ เดินทางมารับบริการไม่สะดวก หน่วยบริการในชุมชนไม่ได้จัดระบบรองรับการดูแลรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ และผู้ป่วยขาดความรู้ในการดูแลตนเอง ปี 2557 สปสช. จึงร่วมกับชมรมเครือข่ายผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลียรายภาค และมูลนิธิโรคเลือดออกง่ายฮีโมฟีเลียแห่งประเทศไทย พัฒนาระบบการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลีย โดย สปสช. ได้สนับสนุน “โครงการบริหารจัดการการดูแลผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลีย แบบมีส่วนร่วมของหน่วยบริการ ชุมชน และภาคีเครือข่ายท้องถิ่น” ใช้หลักบริหารจัดการโรคที่มีเป้าหมาย ใช้ระบบเครือข่ายบริการพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยในชุมชน ฝึกอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรวิชาชีพสาธารณสุข และ อสม. รวมทั้งแกนนำเครือข่ายผู้ป่วยในพื้นที่หน่วยบริการที่เป็นที่ตั้งตามภูมิลำเนาของผู้ป่วย เพื่อให้คำปรึกษาแก่ครอบครัวผู้ป่วยรายใหม่และและรายเก่า ซึ่งจะกระจายการอบรมไปพื้นที่ชุมชนต้นแบบทั้ง 4 ภาค ก่อนขยายให้ครอบคลุมยังพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ
นพ.ประทีปกล่าวว่า นอกจากนี้ ในโครงการฯ ยังมีการจัดทำหลักสูตร “แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ค่าใช้จ่ายสูง Haemophilia ในชุมชน โดยใช้รูปแบบการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง” ที่ครอบคลุมการดูแลผู้ป่วยของสถานบริการทุกระดับอย่างต่อเนื่องถึงชุมชน ในการติดตามเฝ้าระวัง การป้องกันภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วย เพื่อให้เกิดการดูแลผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลียอย่างมีคุณภาพ
“ผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลียนับเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่น่าเห็นใจ เพราะเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต เนื่องจากเป็นโรคพันธุกรรมไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้น นอกจากการรักษาพยาบาลตามสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ให้การดูแลรักษาทางกายแล้ว การดูแลด้านภาวะจิตใจยังเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งในปีงบประมาณ 2557 สปสช. ได้รับการอนุมัติจัดสรรงบกองทุน จำนวนเงิน 185,149,080 บาท โดยจัดสรรงบประมาณงวดแรก สำหรับจ่ายชดเชยค่าบริการแฟคเตอร์ เป็นจำนวนเงิน 140,297,104 บาท ดังนั้น เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณภาพเช่นเดียวกับคนปกติทั่วไป สปสช. จึงให้การสนับสนุนที่เน้นการเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย ไม่แต่เฉพาะกลุ่มผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลียเท่านั้น แต่รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังอื่นๆ ด้วย” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว