ช่วงนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนควรจะมีความสุข ได้พักผ่อน อยู่กับบ้าน ได้อยู่กับครอบครัว อยู่กับคนรัก เพราะมันเป็นเทศกาลแห่งความสุข
เทศกาลปีใหม่ปีนี้ถือว่าโชคดีที่อากาศมันหนาวตามฤดูกาล เพราะหลายๆปีก่อนหน้านี้เราจะไม่เจอกับอากาศหนาวสักเท่าไร หรือบางปีฝนตกด้วยซ้ำไป
ปีนี้น่าจะเป็นปีแรกที่แกนนำพันธมิตรไม่ได้ออกไปนำมวลชนในการชุมนุม พนักกงานเอเอสทีวีผู้จัดการไม่ต้องไปทำงานในที่ชุมนุม แต่หลายคนก็เข้าร่วมกับพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรหนุนช่วยในหลายรูปแบบ ทั้งช่วยกันทำเสบียงอาหารแพ็คใส่ถุง บริจาคเงินทองสิ่งของจำเป็น เข้าร่วมกิจกรรมกับการชุมนุมในเวทีต่างๆ
แล้วทุกอย่างก็ยืดเยื้อมาจนสิ้นปี ข้ามไปสู่ปีใหม่ 2557 สถานการณ์การเมืองไทยยังร้อนแรง เป็นปัญหาหลักของประเทศ มวลมหาประชาชนมุ่งไปสู่เป้าหมายการปฏิรูปประเทศ เดินไปในทิศทางเดียวกันว่า ต้องหยุดการเมืองระบอบทักษิณ หยุดระบอบเผด็จการรัฐสภา คัดค้านต่อต้านการคอรัปชั่น การเมืองไทยควรจะมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงสักที
นับจากต้นปีมาจนถึงปลายปี นายกฯ ยังคงชื่อยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เราต้องยอมรับเลยละครับว่าเธอหน้าด้านหน้าทน เกาะเก้าอี้ตัวนี้ไว้อย่างเหนี่ยวแน่น ถึงแม้ตอนนี้เธอจะตัดสินใจยุบสภาไปแล้ว แต่ตำแหน่งรักษาการนายกฯ ก็ยังเป็นของเธอ เผลอๆการเลือกตั้งไม่สามารถจะจัดขึ้นได้ จะกลายเป็นดาบสองคมให้นายกปูยังคงนั่งรักษาการต่อไป แบบไม่มีกำหนดก็เป็นไปได้ แม้อำนาจอาจจะน้อยยลง แต่ไม่ได้แปลว่าจะหมดอำนาจ
ปีนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นเกินคาด โดยเฉพาะปรากฏการณ์ของลุงกำนันสุเทพ ที่ไม่น่าเชื่อ ไปๆมาๆกลายเป็นผู้นำมวลชนไปซะแล้ว แถมพูดหลายๆอย่าง อย่างกับเป็นแฟนพันธุ์แท้เอเอสทีวี พูดทุกซ็อตเหมือนตอนพันธมิตรออกมาไล่ทักษิณยกแรก
ถ้าคิดอย่างนี้แล้วทำอย่างที่พูด ตั้งแต่สมัยมีอำนาจเป็นรองนายกฯ ปฏิรูปประเทศไทยเสียตั้งแต่ตอนนั้น ป่านนี้พ่อแม่พี่น้องประชาชนหลายล้านคนก็ไม่ต้องออกมาเดินขบวนประท้วง ไม่ต้องออกมานอนหนาวตากลมตากน้ำค้างบนถนนกันอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
แม้โดยส่วนตัวผมจะไม่ค่อยมั่นใจนักในตัวของกำนันสุเทพสักเท่าไร เพราะเขาเป็นนักการเมืองมายาวนาน นานขนาดที่ผมจำได้ว่าตั้งแต่ผมเกิดมาบนโลกใบนี้และจำความได้ก็เห็นลุงกำนันยืนอภิปรายในสภาแล้ว ผมไม่คิดว่าลุงกำนันจะแตกต่างกับนักการเมืองคนอื่นๆ การเป็นนักการเมืองในระบบที่ฉ้อฉลในสังคมไทยมานานๆ วิธีคิดเดิมๆแบบนักการเมืองคงสลัดออกไปไม่ง่ายนัก
แต่ก็เอาเถอะวินาทีนี้ การเมืองไทยสุกงอมจนใครจะมานำไม่สำคัญเท่ากับถึงเวลาต้องลุกขึ้นสู้ ประชาชนอดทนอดกลั้นกับความเลวร้ายของนักการเมืองในสภาและรัฐบาลที่คดโกงปล้นชาติปล้นแผ่นดิน สร้างหนี้สินจนประเทศชาติกำลังจะลงเหว ประชาชนพร้อมจะลุกขึ้นมาใช้สิทธิความเป็นเสรีชน แสดงเจตนารมณ์ในการปฏิรูป การแก้ปัญหาบ้านเมือง ขอให้มีคนออกมานำถึงจะไม่มั่นใจ แต่ก็เหมือนทุกคนเอาใจช่วยลุงกำนันและคณะให้สู้ต่อไปอย่าได้ถอย มวลชนคอยเอาใจช่วยอยู่ และหวังว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยชัยชนะของประชาชน
เวลาสิ้นปีที่ปรกติแล้วคนส่วนใหญ่จะออกไปหาความสุขที่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศเพื่อฉลองปีใหม่กัน แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่เสียสละออกมานอนข้างถนน ทั้งที่บางทีถ้าคนเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ แต่เขาก็ทำ ซึ่งเป็นอะไรที่น่ายกย่องมากๆ ผมขอเคารพท่านเหล่านั้นสักสามจอกน้ำชาจริงๆครับ
แถมยิ่งช่วงนี้มีข่าวการถูกลอบโจมตีจากพวกไม่หวังดี ที่ทำให้มีคนบาดเจ็บและล้มตาย โดยเฉพาะพี่น้องเราที่ชุมนุมกับเวที คปท. ที่ดูเหมือนจะเป็นเป้าหมายหลักในการถูกก่อกวนอย่างเห็นได้ชัด ผมก็ได้แต่ภาวนาหวังว่าจะไม่มีใครต้องเจ็บหรือตายอีกเลย
ช่วงเวลาแห่งความสุข แต่ความสุขของประเทศไทยกลับถูกใครบางคนขโมยไปซะแล้ว แถมเห็นแก่ตัวขโมยไปเก็บไว้อยู่คนเดียว ไปเที่ยวสำราญใจกับคนในครอบครัว แล้วยังมีหน้ามาบอกอีกว่าอย่าเครียด ผมบอกเลยครับว่าผมไม่ได้เครียด ผมแค่เกลียดคนแบบนี้เท่านั้น คงไม่ต้องอธิบายนะครับว่าเขาคนนั้นคือใคร
อย่างไรก็ดีปีใหม่ทั้งทีเราก็อยากได้นักการเมืองใหม่ๆ นายกใหม่ๆ เราต้องการอะไรใหม่ๆ ปฏิรูปการเมืองใหม่ หวังว่าของใหม่ๆจะดีกว่าของเก่าๆที่หมดสภาพ ไม่เหลือความดีหรือน่าสนใจซะแล้ว สิ่งใหม่ๆต้องเกิดจากพลังของประชาชนด้วยนะครับ เพราะถ้าเกิดจากพลังของประชาชนแล้วละก็ ประชาชนจะรักและหวงแหนมัน เอาง่ายๆก็เหมือนกับตอน 14 ตุลาแหละครับ พลังประชาธิไตยของมวลประชนที่ออกมาโค่นล้มอำนาจเผด็จการ แสดงพลังเพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงยกระดับการเมืองไทย
ประเทศไทยจะเดินไปทางไหน คนไทยควรเป็นผู้ตัดสิน ไม่ใช่คนไม่กี่คนหรือผูกขาดโดยตระกูลแค่ไม่กี่ตระกูลเท่านั้น อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ ซึ่งมันควรจะต้องหยุดได้แล้ว
มองในมุมหนึ่ง ต้องขอขอบคุณความเลวของรัฐบาลชุดนี้นะครับ ที่ทำให้คนไทยรักและสามัคคีกันมากขึ้น แถมทำให้เกิดการชุมนุมของประชาชนที่มากจนทำลายสถิติ 14 ตุลาไปเสียแล้ว นี่ถือเป็นคุณูประการของรัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ช่วงสิ้นปีพักผ่อนออมแรง รอรับศึกในปีหน้าที่น่าจะใหญ่กว่าศึกที่ผผ่านมา แต่ถ้าประชาชนพร้อมมากขึ้นเรื่อยๆแบบที่เป็นอยู่ รับรองว่าชัยชนะคงเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินจริง
สุดท้ายนี้เนื่องในโอกาสดีขึ้นปีใหม่ก็ขอให้ทุกคนได้พบแต่สิ่งดีๆในชีวิตนะครับ ไม่ว่าอย่างไรก็ให้เข้มแข็งและอดทนนะครับ ความเปลี่ยนแปลงกำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ แม้จะมาช้าก็อาจจะดีกว่าไม่มา หวังว่าหลังจากศึกภายในครั้งนี้ ประเทศเราจะสงบสุขไปได้สักร้อยปี…สาธุ เราจะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยกันแบบที่เป็นอยู่สำหรับเหล่าคนไทยผู้รักชาติ
เทศกาลปีใหม่ปีนี้ถือว่าโชคดีที่อากาศมันหนาวตามฤดูกาล เพราะหลายๆปีก่อนหน้านี้เราจะไม่เจอกับอากาศหนาวสักเท่าไร หรือบางปีฝนตกด้วยซ้ำไป
ปีนี้น่าจะเป็นปีแรกที่แกนนำพันธมิตรไม่ได้ออกไปนำมวลชนในการชุมนุม พนักกงานเอเอสทีวีผู้จัดการไม่ต้องไปทำงานในที่ชุมนุม แต่หลายคนก็เข้าร่วมกับพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรหนุนช่วยในหลายรูปแบบ ทั้งช่วยกันทำเสบียงอาหารแพ็คใส่ถุง บริจาคเงินทองสิ่งของจำเป็น เข้าร่วมกิจกรรมกับการชุมนุมในเวทีต่างๆ
แล้วทุกอย่างก็ยืดเยื้อมาจนสิ้นปี ข้ามไปสู่ปีใหม่ 2557 สถานการณ์การเมืองไทยยังร้อนแรง เป็นปัญหาหลักของประเทศ มวลมหาประชาชนมุ่งไปสู่เป้าหมายการปฏิรูปประเทศ เดินไปในทิศทางเดียวกันว่า ต้องหยุดการเมืองระบอบทักษิณ หยุดระบอบเผด็จการรัฐสภา คัดค้านต่อต้านการคอรัปชั่น การเมืองไทยควรจะมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงสักที
นับจากต้นปีมาจนถึงปลายปี นายกฯ ยังคงชื่อยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เราต้องยอมรับเลยละครับว่าเธอหน้าด้านหน้าทน เกาะเก้าอี้ตัวนี้ไว้อย่างเหนี่ยวแน่น ถึงแม้ตอนนี้เธอจะตัดสินใจยุบสภาไปแล้ว แต่ตำแหน่งรักษาการนายกฯ ก็ยังเป็นของเธอ เผลอๆการเลือกตั้งไม่สามารถจะจัดขึ้นได้ จะกลายเป็นดาบสองคมให้นายกปูยังคงนั่งรักษาการต่อไป แบบไม่มีกำหนดก็เป็นไปได้ แม้อำนาจอาจจะน้อยยลง แต่ไม่ได้แปลว่าจะหมดอำนาจ
ปีนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นเกินคาด โดยเฉพาะปรากฏการณ์ของลุงกำนันสุเทพ ที่ไม่น่าเชื่อ ไปๆมาๆกลายเป็นผู้นำมวลชนไปซะแล้ว แถมพูดหลายๆอย่าง อย่างกับเป็นแฟนพันธุ์แท้เอเอสทีวี พูดทุกซ็อตเหมือนตอนพันธมิตรออกมาไล่ทักษิณยกแรก
ถ้าคิดอย่างนี้แล้วทำอย่างที่พูด ตั้งแต่สมัยมีอำนาจเป็นรองนายกฯ ปฏิรูปประเทศไทยเสียตั้งแต่ตอนนั้น ป่านนี้พ่อแม่พี่น้องประชาชนหลายล้านคนก็ไม่ต้องออกมาเดินขบวนประท้วง ไม่ต้องออกมานอนหนาวตากลมตากน้ำค้างบนถนนกันอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
แม้โดยส่วนตัวผมจะไม่ค่อยมั่นใจนักในตัวของกำนันสุเทพสักเท่าไร เพราะเขาเป็นนักการเมืองมายาวนาน นานขนาดที่ผมจำได้ว่าตั้งแต่ผมเกิดมาบนโลกใบนี้และจำความได้ก็เห็นลุงกำนันยืนอภิปรายในสภาแล้ว ผมไม่คิดว่าลุงกำนันจะแตกต่างกับนักการเมืองคนอื่นๆ การเป็นนักการเมืองในระบบที่ฉ้อฉลในสังคมไทยมานานๆ วิธีคิดเดิมๆแบบนักการเมืองคงสลัดออกไปไม่ง่ายนัก
แต่ก็เอาเถอะวินาทีนี้ การเมืองไทยสุกงอมจนใครจะมานำไม่สำคัญเท่ากับถึงเวลาต้องลุกขึ้นสู้ ประชาชนอดทนอดกลั้นกับความเลวร้ายของนักการเมืองในสภาและรัฐบาลที่คดโกงปล้นชาติปล้นแผ่นดิน สร้างหนี้สินจนประเทศชาติกำลังจะลงเหว ประชาชนพร้อมจะลุกขึ้นมาใช้สิทธิความเป็นเสรีชน แสดงเจตนารมณ์ในการปฏิรูป การแก้ปัญหาบ้านเมือง ขอให้มีคนออกมานำถึงจะไม่มั่นใจ แต่ก็เหมือนทุกคนเอาใจช่วยลุงกำนันและคณะให้สู้ต่อไปอย่าได้ถอย มวลชนคอยเอาใจช่วยอยู่ และหวังว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยชัยชนะของประชาชน
เวลาสิ้นปีที่ปรกติแล้วคนส่วนใหญ่จะออกไปหาความสุขที่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศเพื่อฉลองปีใหม่กัน แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่เสียสละออกมานอนข้างถนน ทั้งที่บางทีถ้าคนเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ แต่เขาก็ทำ ซึ่งเป็นอะไรที่น่ายกย่องมากๆ ผมขอเคารพท่านเหล่านั้นสักสามจอกน้ำชาจริงๆครับ
แถมยิ่งช่วงนี้มีข่าวการถูกลอบโจมตีจากพวกไม่หวังดี ที่ทำให้มีคนบาดเจ็บและล้มตาย โดยเฉพาะพี่น้องเราที่ชุมนุมกับเวที คปท. ที่ดูเหมือนจะเป็นเป้าหมายหลักในการถูกก่อกวนอย่างเห็นได้ชัด ผมก็ได้แต่ภาวนาหวังว่าจะไม่มีใครต้องเจ็บหรือตายอีกเลย
ช่วงเวลาแห่งความสุข แต่ความสุขของประเทศไทยกลับถูกใครบางคนขโมยไปซะแล้ว แถมเห็นแก่ตัวขโมยไปเก็บไว้อยู่คนเดียว ไปเที่ยวสำราญใจกับคนในครอบครัว แล้วยังมีหน้ามาบอกอีกว่าอย่าเครียด ผมบอกเลยครับว่าผมไม่ได้เครียด ผมแค่เกลียดคนแบบนี้เท่านั้น คงไม่ต้องอธิบายนะครับว่าเขาคนนั้นคือใคร
อย่างไรก็ดีปีใหม่ทั้งทีเราก็อยากได้นักการเมืองใหม่ๆ นายกใหม่ๆ เราต้องการอะไรใหม่ๆ ปฏิรูปการเมืองใหม่ หวังว่าของใหม่ๆจะดีกว่าของเก่าๆที่หมดสภาพ ไม่เหลือความดีหรือน่าสนใจซะแล้ว สิ่งใหม่ๆต้องเกิดจากพลังของประชาชนด้วยนะครับ เพราะถ้าเกิดจากพลังของประชาชนแล้วละก็ ประชาชนจะรักและหวงแหนมัน เอาง่ายๆก็เหมือนกับตอน 14 ตุลาแหละครับ พลังประชาธิไตยของมวลประชนที่ออกมาโค่นล้มอำนาจเผด็จการ แสดงพลังเพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงยกระดับการเมืองไทย
ประเทศไทยจะเดินไปทางไหน คนไทยควรเป็นผู้ตัดสิน ไม่ใช่คนไม่กี่คนหรือผูกขาดโดยตระกูลแค่ไม่กี่ตระกูลเท่านั้น อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ ซึ่งมันควรจะต้องหยุดได้แล้ว
มองในมุมหนึ่ง ต้องขอขอบคุณความเลวของรัฐบาลชุดนี้นะครับ ที่ทำให้คนไทยรักและสามัคคีกันมากขึ้น แถมทำให้เกิดการชุมนุมของประชาชนที่มากจนทำลายสถิติ 14 ตุลาไปเสียแล้ว นี่ถือเป็นคุณูประการของรัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ช่วงสิ้นปีพักผ่อนออมแรง รอรับศึกในปีหน้าที่น่าจะใหญ่กว่าศึกที่ผผ่านมา แต่ถ้าประชาชนพร้อมมากขึ้นเรื่อยๆแบบที่เป็นอยู่ รับรองว่าชัยชนะคงเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินจริง
สุดท้ายนี้เนื่องในโอกาสดีขึ้นปีใหม่ก็ขอให้ทุกคนได้พบแต่สิ่งดีๆในชีวิตนะครับ ไม่ว่าอย่างไรก็ให้เข้มแข็งและอดทนนะครับ ความเปลี่ยนแปลงกำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ แม้จะมาช้าก็อาจจะดีกว่าไม่มา หวังว่าหลังจากศึกภายในครั้งนี้ ประเทศเราจะสงบสุขไปได้สักร้อยปี…สาธุ เราจะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยกันแบบที่เป็นอยู่สำหรับเหล่าคนไทยผู้รักชาติ