และแล้ววันที่ประชาชนทนสื่อฟรีทีวี 3,5,7,9,11ไม่ไหวแล้ว วันๆ มีแต่รายการไร้สาระมากกว่ารายการที่มีประโยชน์ต่อผู้คน สังคม และประเทศชาติ
ชาวบ้านต้องทนดูโฆษณาขายสินค้าที่เป็นรายได้มหาศาลของรายการต่างๆ ต้องอดทนปล่อยให้เวลาไพรม์ไทม์หลังข่าวเป็นละครประเภทตบจูบเป็นยาพิษมอมเมาเป็นชั่วโมงสองชั่วโมง แทนที่จะเป็นรายการที่ให้ประโยชน์ประเทืองปัญญาเด็กและเยาวชน ต้องทนดูรายการเล่าข่าวที่ร่ำรวยอื้อซ่าเพราะค่าโฆษณา ต้องทนยอมให้ฟรีทีวีทั้งหลายเพิกเฉยไม่รายงานข่าวที่เป็นเรื่องสำคัญคอขาดบาดตายสำหรับสังคมและประเทศชาติ
คราวนี้มวลมหาประชาชนที่กำลังประท้วงขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ระบอบทักษิณภายใต้การนำของ “กำนันสุเทพ” แบ่งกำลังหลายสายเดินไปเป่านกหวีดขอให้ฟรีทีวีทั้งหลายเสนอข่าวการเคลื่อนไหวของประชาชน และเชื่อมสัญญาณการประกาศแถลงการณ์ของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข (กปปส.) เพราะเหลืออดเหลือทนแล้วจริงๆ
เวลาผ่านไปก็นานหลายปีแล้วที่ เอเอสทีวีที่นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ลุกขึ้นมาสู้กับระบอบทักษิณ จนเป็นจุดเริ่มต้นของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเอเอสทีวีก็กลายเป็นกำลังหลักในการทำศึกกับระบอบทักษิณ โดยฟรีทีวีแทบจะไม่เสนอข่าวการเคลื่อนไหวของประชาชน หลังจากไล่ทักษิณและรัฐบาลลิ่วล้อทักษิณออกไปแล้ว ยังทำหน้าที่เปิดโปงการทุจริตคอรัปชั่นของนักการเมืองและข้าราชการ ให้ข้อมูลข่าวสารอย่างตรงไปตรงมา ให้ความรู้ความเข้าใจต่อประชาชนอย่างเต็มกำลัง มาจนถึงทุกวันนี้
วันนี้ เมื่อการชุมนุมภายใต้การนำทัพของกำนันสุเทพเริ่มขึ้น เพื่อถอนรากถอนโคนระบอบทักษิณ อาวุธหลักของกำนันก็คือทีวีผ่านดาวเทียมอย่างบลูสกาย ตอนนี้ก็ทำหน้าที่ไม่ต่างอะไรกับเอเอสทีวีในเวลานั้น และยังมีอีกหลายช่องที่เป็นแนวร่วมอย่าง เอฟเอ็มทีวี ทีนิวส์ รวมทั้งเอเอสทีวีในเวลานี้ก็เป็นกำลังสำคัญในการทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณการชุมนุมของมวลมหาประชาชนทุกเวทีเพื่อหนุนช่วยการต่อสู้ของประชาชนอย่างแข็งขัน
แตกต่างจากฟรีทีวี ที่ประชาชนทั้งประเทศตัองทนดูกันอยู่ทุกวัน แทบไม่เสนอข่าวสารเหตุการณ์บ้านเมือง โดยเฉพาะการชุมนุมของประชาชนทุกกลุ่ม แล้วก็เป็นอย่างนี้มานานแล้ว และนับวันยิ่งหนักข้อมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชาวไร่ชาวนาที่เดือดร้อนจากปัญหาปากท้องหรือการเรียกร้องต่อต้านนโยบายของรัฐบาลที่มีผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง
แทนที่จะทำหน้าที่ในการสื่อสารข้อมูลข่าวสาร สื่อฟรีทีวีกลับปิดหูปิดตาประชาชน จากความเป็นจริงของบ้านเมือง ตกอยู่ใต้อิทธิพลอำนาจทางการเมืองของรัฐบาลและข้าราชการสมุนสอพลอทั้งหลาย ขายข่าวตามใจสถานีภายใต้อาณัติรัฐบาลเลวๆและข้าราชการชั่ว โดยไม่คิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
ล่าสุดจากแถลงการณ์ของสมาคมข่าวสามองค์กร คือสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ระบุ ว่าในการชุมนุมของประชาชนคราวนี้ มีการสั่งการจากรัฐบาล รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ออกคำสั่งให้สื่อในสังกัดนำเสนอข่าวสารเชิงบวกต่อรัฐบาลโดยอ้างถึงบันทึกเลขที่ นร0213.071721 เรื่องขอให้กำกับดูแลการนำเสนอข่าวลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556
การทำงานของสื่อฟรีทีวี 3, 5, 7, 9, 11 และไทยพีบีเอส นอกจากจะหูปิดตาปิดประชาชน สื่อเหล่านี้ยังเซ็นเซอร์ปิดหูปิดตาปิดปากตัวเอง ส่วนใหญ่ไม่กล้าเสนอข่าวที่เป็นจริง เพราะกลัวจะเสียผลประโยชน์ กลัวถูกกลั่นแกล้งออกจากงาน กลัวถูกถอดผังรายการ ฯลฯ คนทำงานในสื่อฟรีทีวี ตั้งแต่ระดับผู้บริหารลงมาถึงเจ้าหน้าที่และนักข่าว ต่างก็รักษาตัวเอาตัวรอด
เมื่อสื่อไม่ทำหน้าที่อย่างอิสระ ไม่ใช้สิทธิเสรีภาพของตนเอง ในฐานะสื่อสารมวลชน ไม่ยึดมั่นในจริยธรรมวิชาชีพ ไม่รับผิดชอบต่อประชาชนและสังคมส่วนรวม ไม่เสนอข่าวตามความเป็นจริง กลับขาวเป็นดำ เสนอข่าวเพียงบางส่วน ตัดตอน บิดเบือนคนในสังคมไทยจึงถูกปิดกั้นการรับรู้ข่าวสาร
หลายครั้งที่เหตุการณ์บ้านเมืองโดยเฉพาะการต่อสู้เคลื่อนไหวของภาคประชาชน คนทั้งประเทศไม่ได้รับรู้ข่าวสารใดๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมืองของตนเอง หรือรับรู้ข่าวสารบิดเบือนบิดเบี้ยวจากความเป็นจริงอยู่เกือบทุกเมื่อเชื่อวัน
การออกมาชุมนุมประท้วงกฎหมายนิโทษกรรม โค่นล้มระบอบทักษิณ และปฏิรูปการเมืองที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมเดินขบวนจำนวนเป็นล้าน นับเป็นการชุมนุมประท้วงที่ผู้คนออกมาร่วมมากที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นเรื่องใหญ่ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงและอนาคตของการเมืองไทย ฟรีทีวียังทำเฉย หลายช่องไม่รายงาน บางช่องรายงานเล็กน้อย
การรายงานข่าวของฝ่ายรัฐบาลและสมุนยังบอกว่ามีคนมาร่วมชุมนุมแค่หลักหมื่น ฟรีทีวีก็ตกเลขนับเลขได้หลักหมื่นบ้าง หลักพันบ้าง ถ้าไม่ได้มาร่วมเห็นเหตุการณ์ด้วยตนเอง ประชาชนส่วนใหญ่ถูกกรอกหูด้วยข้อมูลเท็จเท็จและเชื่อตามที่รัฐบาลและสื่อฟรีทีวีรายงาน
การทำงานของสื่อฟรีทีวี แต่ละช่องให้เวลากับละครหลังข่าวและเกมโชว์ จำนวนมากเป็นละครน้ำเน่า ไร้สาระ ไม่สร้างสรรค์ ไม่ยกระดับพัฒนาความรู้ของประชาชน แต่ละรายการใช้เวลาจำนวนมากโฆษณาขายสินค้าทั้งโดยตรงและแอบแฝง บางรายการมีรายได้จากค่าโฆษณามหาศาลจนร่ำรวยมั่งคั่งรวดเร็วทันตาเห็น
สภาพการณ์ที่เป็นอยู่ของฟรีทีวี เป็นผลจากการใช้อำนาจรัฐคุกคามสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน และผลของระบบทุนนิยมสามานย์ ที่สามารถถอดรายการที่ไม่สนองผลประโยชน์ทางการเมืองและธุรกิจของตนเอง
ตัวอย่างเมื่อเร็วๆ นี้เพียงเพราะเกือบทุกรายการได้ค่าโฆษณาจากปตท. ทำให้เกือบทุกรายการเกือบทุกช่องไม่กล้าเสนอความจริงและปิดปากไม่วิพากษ์วิจารณ์ปตท.กรณีน้ำมันรั่วลงทะเลบริเวณเกาะเสม็ด ในอ่าวไทย
หรือกรณีรายการคนค้นฅน กับข่าวการประท้วงคัดค้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ เพียงเสนอเรื่องการเดินเท้าเปล่าของอาจารย์ศศิน เฉลิมลาภ เรื่องนี้ยังถูกสั่งห้ามออกอากาศในตอนแรก จนนายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ แห่งทีวีบูรพา ตอบคำถามด้วยอาการเอามือปิดปาก มาคราวนี้ การเข้าร่วมชุมนุมต่อสู้ประชาชน ถึงกับโพสต์ในเฟซบุ๊ก ว่า” ออกไปทำหน้าที่เพื่อชาติด้วยงวดนี้ถูกถอดรายการหมดก็ช่างแม่มมัน”
สภาพการทำงานของฟรีทีวี ที่ถูกควบคุม แทรกแซงกำกับโดยอำนาจการเมืองและอำนาจเงิน อาการหนักขึ้นทุกวัน ชาวบ้านสุดจะทนแล้วจริงๆ จึงต้องลุกขึ้นมาเป่านกหวีด ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ระบอบทักษิณ ขุดโค่นกวาดล้างระบอบทักษิณ ปฏิรูปบ้านเมือง ให้สื่อมวลชนมีอิสรเสรีภาพในการทำหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน มาร่วมแรงร่วมใจกันคนละไม้คนละมือนะครับ จนกว่าชัยชนะจะเป็นของประชาชน
ชาวบ้านต้องทนดูโฆษณาขายสินค้าที่เป็นรายได้มหาศาลของรายการต่างๆ ต้องอดทนปล่อยให้เวลาไพรม์ไทม์หลังข่าวเป็นละครประเภทตบจูบเป็นยาพิษมอมเมาเป็นชั่วโมงสองชั่วโมง แทนที่จะเป็นรายการที่ให้ประโยชน์ประเทืองปัญญาเด็กและเยาวชน ต้องทนดูรายการเล่าข่าวที่ร่ำรวยอื้อซ่าเพราะค่าโฆษณา ต้องทนยอมให้ฟรีทีวีทั้งหลายเพิกเฉยไม่รายงานข่าวที่เป็นเรื่องสำคัญคอขาดบาดตายสำหรับสังคมและประเทศชาติ
คราวนี้มวลมหาประชาชนที่กำลังประท้วงขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ระบอบทักษิณภายใต้การนำของ “กำนันสุเทพ” แบ่งกำลังหลายสายเดินไปเป่านกหวีดขอให้ฟรีทีวีทั้งหลายเสนอข่าวการเคลื่อนไหวของประชาชน และเชื่อมสัญญาณการประกาศแถลงการณ์ของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข (กปปส.) เพราะเหลืออดเหลือทนแล้วจริงๆ
เวลาผ่านไปก็นานหลายปีแล้วที่ เอเอสทีวีที่นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ลุกขึ้นมาสู้กับระบอบทักษิณ จนเป็นจุดเริ่มต้นของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเอเอสทีวีก็กลายเป็นกำลังหลักในการทำศึกกับระบอบทักษิณ โดยฟรีทีวีแทบจะไม่เสนอข่าวการเคลื่อนไหวของประชาชน หลังจากไล่ทักษิณและรัฐบาลลิ่วล้อทักษิณออกไปแล้ว ยังทำหน้าที่เปิดโปงการทุจริตคอรัปชั่นของนักการเมืองและข้าราชการ ให้ข้อมูลข่าวสารอย่างตรงไปตรงมา ให้ความรู้ความเข้าใจต่อประชาชนอย่างเต็มกำลัง มาจนถึงทุกวันนี้
วันนี้ เมื่อการชุมนุมภายใต้การนำทัพของกำนันสุเทพเริ่มขึ้น เพื่อถอนรากถอนโคนระบอบทักษิณ อาวุธหลักของกำนันก็คือทีวีผ่านดาวเทียมอย่างบลูสกาย ตอนนี้ก็ทำหน้าที่ไม่ต่างอะไรกับเอเอสทีวีในเวลานั้น และยังมีอีกหลายช่องที่เป็นแนวร่วมอย่าง เอฟเอ็มทีวี ทีนิวส์ รวมทั้งเอเอสทีวีในเวลานี้ก็เป็นกำลังสำคัญในการทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณการชุมนุมของมวลมหาประชาชนทุกเวทีเพื่อหนุนช่วยการต่อสู้ของประชาชนอย่างแข็งขัน
แตกต่างจากฟรีทีวี ที่ประชาชนทั้งประเทศตัองทนดูกันอยู่ทุกวัน แทบไม่เสนอข่าวสารเหตุการณ์บ้านเมือง โดยเฉพาะการชุมนุมของประชาชนทุกกลุ่ม แล้วก็เป็นอย่างนี้มานานแล้ว และนับวันยิ่งหนักข้อมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชาวไร่ชาวนาที่เดือดร้อนจากปัญหาปากท้องหรือการเรียกร้องต่อต้านนโยบายของรัฐบาลที่มีผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง
แทนที่จะทำหน้าที่ในการสื่อสารข้อมูลข่าวสาร สื่อฟรีทีวีกลับปิดหูปิดตาประชาชน จากความเป็นจริงของบ้านเมือง ตกอยู่ใต้อิทธิพลอำนาจทางการเมืองของรัฐบาลและข้าราชการสมุนสอพลอทั้งหลาย ขายข่าวตามใจสถานีภายใต้อาณัติรัฐบาลเลวๆและข้าราชการชั่ว โดยไม่คิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
ล่าสุดจากแถลงการณ์ของสมาคมข่าวสามองค์กร คือสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ระบุ ว่าในการชุมนุมของประชาชนคราวนี้ มีการสั่งการจากรัฐบาล รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ออกคำสั่งให้สื่อในสังกัดนำเสนอข่าวสารเชิงบวกต่อรัฐบาลโดยอ้างถึงบันทึกเลขที่ นร0213.071721 เรื่องขอให้กำกับดูแลการนำเสนอข่าวลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556
การทำงานของสื่อฟรีทีวี 3, 5, 7, 9, 11 และไทยพีบีเอส นอกจากจะหูปิดตาปิดประชาชน สื่อเหล่านี้ยังเซ็นเซอร์ปิดหูปิดตาปิดปากตัวเอง ส่วนใหญ่ไม่กล้าเสนอข่าวที่เป็นจริง เพราะกลัวจะเสียผลประโยชน์ กลัวถูกกลั่นแกล้งออกจากงาน กลัวถูกถอดผังรายการ ฯลฯ คนทำงานในสื่อฟรีทีวี ตั้งแต่ระดับผู้บริหารลงมาถึงเจ้าหน้าที่และนักข่าว ต่างก็รักษาตัวเอาตัวรอด
เมื่อสื่อไม่ทำหน้าที่อย่างอิสระ ไม่ใช้สิทธิเสรีภาพของตนเอง ในฐานะสื่อสารมวลชน ไม่ยึดมั่นในจริยธรรมวิชาชีพ ไม่รับผิดชอบต่อประชาชนและสังคมส่วนรวม ไม่เสนอข่าวตามความเป็นจริง กลับขาวเป็นดำ เสนอข่าวเพียงบางส่วน ตัดตอน บิดเบือนคนในสังคมไทยจึงถูกปิดกั้นการรับรู้ข่าวสาร
หลายครั้งที่เหตุการณ์บ้านเมืองโดยเฉพาะการต่อสู้เคลื่อนไหวของภาคประชาชน คนทั้งประเทศไม่ได้รับรู้ข่าวสารใดๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมืองของตนเอง หรือรับรู้ข่าวสารบิดเบือนบิดเบี้ยวจากความเป็นจริงอยู่เกือบทุกเมื่อเชื่อวัน
การออกมาชุมนุมประท้วงกฎหมายนิโทษกรรม โค่นล้มระบอบทักษิณ และปฏิรูปการเมืองที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมเดินขบวนจำนวนเป็นล้าน นับเป็นการชุมนุมประท้วงที่ผู้คนออกมาร่วมมากที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นเรื่องใหญ่ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงและอนาคตของการเมืองไทย ฟรีทีวียังทำเฉย หลายช่องไม่รายงาน บางช่องรายงานเล็กน้อย
การรายงานข่าวของฝ่ายรัฐบาลและสมุนยังบอกว่ามีคนมาร่วมชุมนุมแค่หลักหมื่น ฟรีทีวีก็ตกเลขนับเลขได้หลักหมื่นบ้าง หลักพันบ้าง ถ้าไม่ได้มาร่วมเห็นเหตุการณ์ด้วยตนเอง ประชาชนส่วนใหญ่ถูกกรอกหูด้วยข้อมูลเท็จเท็จและเชื่อตามที่รัฐบาลและสื่อฟรีทีวีรายงาน
การทำงานของสื่อฟรีทีวี แต่ละช่องให้เวลากับละครหลังข่าวและเกมโชว์ จำนวนมากเป็นละครน้ำเน่า ไร้สาระ ไม่สร้างสรรค์ ไม่ยกระดับพัฒนาความรู้ของประชาชน แต่ละรายการใช้เวลาจำนวนมากโฆษณาขายสินค้าทั้งโดยตรงและแอบแฝง บางรายการมีรายได้จากค่าโฆษณามหาศาลจนร่ำรวยมั่งคั่งรวดเร็วทันตาเห็น
สภาพการณ์ที่เป็นอยู่ของฟรีทีวี เป็นผลจากการใช้อำนาจรัฐคุกคามสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน และผลของระบบทุนนิยมสามานย์ ที่สามารถถอดรายการที่ไม่สนองผลประโยชน์ทางการเมืองและธุรกิจของตนเอง
ตัวอย่างเมื่อเร็วๆ นี้เพียงเพราะเกือบทุกรายการได้ค่าโฆษณาจากปตท. ทำให้เกือบทุกรายการเกือบทุกช่องไม่กล้าเสนอความจริงและปิดปากไม่วิพากษ์วิจารณ์ปตท.กรณีน้ำมันรั่วลงทะเลบริเวณเกาะเสม็ด ในอ่าวไทย
หรือกรณีรายการคนค้นฅน กับข่าวการประท้วงคัดค้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ เพียงเสนอเรื่องการเดินเท้าเปล่าของอาจารย์ศศิน เฉลิมลาภ เรื่องนี้ยังถูกสั่งห้ามออกอากาศในตอนแรก จนนายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ แห่งทีวีบูรพา ตอบคำถามด้วยอาการเอามือปิดปาก มาคราวนี้ การเข้าร่วมชุมนุมต่อสู้ประชาชน ถึงกับโพสต์ในเฟซบุ๊ก ว่า” ออกไปทำหน้าที่เพื่อชาติด้วยงวดนี้ถูกถอดรายการหมดก็ช่างแม่มมัน”
สภาพการทำงานของฟรีทีวี ที่ถูกควบคุม แทรกแซงกำกับโดยอำนาจการเมืองและอำนาจเงิน อาการหนักขึ้นทุกวัน ชาวบ้านสุดจะทนแล้วจริงๆ จึงต้องลุกขึ้นมาเป่านกหวีด ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ระบอบทักษิณ ขุดโค่นกวาดล้างระบอบทักษิณ ปฏิรูปบ้านเมือง ให้สื่อมวลชนมีอิสรเสรีภาพในการทำหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน มาร่วมแรงร่วมใจกันคนละไม้คนละมือนะครับ จนกว่าชัยชนะจะเป็นของประชาชน
