xs
xsm
sm
md
lg

วีรสตรีแดงจากทุ่งหญ้าเลี้ยงแกะมองโกล

เผยแพร่:   โดย: พระบาท นามเมือง

เรื่องคำปาฐกถาของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่อูลันบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย บานปลายไปเรื่อยๆ เป็นประเด็นร้อนเรื่องใหญ่ของอาทิตย์ที่แล้ว

วาจายาพิษนั้นอาจจะสร้างเสียงกรี๊ดกร๊าดปลาบปลื้มให้บรรดาเสื้อแดงไร้เดียงสาผู้ซื่อสัตย์ต่อครอบครัวชิน บางคนก็อาจจะน้ำตาไหลด้วยความปลื้มปีติ ที่ท่านนายกฯ ที่เคารพรักของพวกเขาพูดจาเหมือนจะเด็ดขาดเสียเต็มประดา เรียกว่ากลายเป็นวีรสตรีสีแดงไปภายในชั่วข้ามวันข้ามคืนเชียวครับ

แต่สำหรับคนมีสติ คำปาฐกถานี้ไม่มีอะไรมากกว่าการไปกล่าวหากล่าวโทษประเทศชาติต่อหน้าประชาคมโลก เพื่อแลกกับการซื้อใจแบบผ่อนส่งให้บรรดาเสื้อแดงที่เริ่มฉุกใจพบว่าถูกหลอกมาตายบ้าง ติดคุกบ้างฟรีๆ

แม้แต่แนวร่วมแดงที่พอจะมีสติปัญญา อย่าง สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ก็ยังฟังออกว่า นี่เป็นเรื่องต้มพี่ต้มน้องเสื้อแดงแบบดีๆนี่เอง

โดยสมศักดิ์เองก็ยังเห็นว่า ถ้ายิ่งลักษณ์ และรัฐบาลซีเรียสกับสิ่งที่พูดจริงๆ ที่พูดถึง “เหยื่อทางการเมืองจากการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยที่ติดคุกอยู่” ในขณะนี้จริง แต่ทำไมถึงลอยตัวเรื่องการนิรโทษกรรมคนเสื้อแดงที่ติดคุกอยู่

หรืออย่าง ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ เองก็ยังท้วงว่า แล้วทำไมไม่พูดถึงเรื่องยกเลิกมาตรา 112

เอาเป็นว่า ถ้าเสื้อแดงที่ยังไม่โง่งมจนเกินไปก็รู้ว่าเป็นแค่เรื่องจุดพลุสร้างกระแส แต่ก็ช่างปะไรไป เพราะตัวนายกฯ และทีมงานร่างสปีชประจานชาติ ก็ไม่ได้หวังจะ “ขาย” กลุ่มนี้อยู่แล้ว

ก็แค่เสื้อแดงส่วนใหญ่ออกมาร้องไห้ปลาบปลื้มใจน้ำหูน้ำตาแตก แล้วก็ลืมเพื่อนทิ้งให้หิ้วตรวนเกาะลูกกรงต่อในคุก กลับไปนอนฝันหวานว่าท่านนายกฯ ปูยังไม่ทิ้งพวกเรากันต่อไป เรียกว่า ซื้อเวลาได้อีกหลายเดือน เพื่อให้ไปจัดการกับเรื่องพาพี่กลับบ้าน และเงิน “กู” 2.2 ล้านล้านต่อไปครับ

สิ่งที่ในสปีช “วีรสตรี” ไม่ได้พูดถึง คือ ทำไมถึงเกิดรัฐประหาร 19 กันยา ทำราวกับว่า อยู่ๆ กองทัพอยู่ดีไม่ว่าดี กินยาผิด ลุกขึ้นมาล้มรัฐบาลพี่ชายหล่อนอย่างนั้น

ไม่ได้พูดถึงการคอร์รัปชันกินรวบประเทศไทยเบ็ดเสร็จแบบองค์กรอะไรก็เบรกไม่อยู่ ครอบงำแทรกแซงองค์กรอิสระ ไม่ยี่หระพระราชอำนาจขององค์พระประมุข เสียจนประชาชนคนไทยต้องแสดงออกทางอ้อมด้วยการสนับสนุนหนังสือ “พระราชอำนาจ” ของประมวล รุจนเสรี เสียขายดีต้องพิมพ์ซ้ำไม่รู้กี่รอบ ครับ นั่นคือสิ่งที่นายกฯ วีรสตรีของชาวเสื้อแดงไม่ได้พูด

และก็ไม่ได้พูดว่า “คนบริสุทธิ์” ที่ถูกลอบยิงโดยสไนเปอร์นั้นได้เผาตึกไปกี่ตึก แกนนำการชุมนุมต้องติดคุกหรือหลบหนีไปต่างประเทศ เพราะข้อหาคดีก่อการร้ายที่ถ้าไปทำเรื่องเช่นเดียวกันนี้ที่อเมริกาคงโดนเป่าหัวดิ้น เหมือนมือระเบิดบอสตันมาราธอนชนิดไม่ทันหนี

รวมทั้งที่กล่าวว่า กลไกที่เรียกว่า “องค์กรอิสระ” ได้ใช้อำนาจเกินขอบเขตรังแกรัฐบาลของตัว หรือพี่ชาย ก็เป็นเรื่องที่จงใจจะบิดเบือน เพราะองค์กรที่ว่านั้น คือองค์กร “ศาล” หรือ “ตุลาการ” อันได้แก่ ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือยังอาจจะรวมศาลปกครองที่เคยขวางโครงการยกแผ่นดินให้เขมรไปใน MOU ครั้งแรกนั้นด้วย

ซึ่งอันนี้ทีมงานที่ร่างสปีชคงรู้ว่า ถ้าบอกชาวโลกว่า เป็นเรื่องขององค์กร “ศาล” ก็จะไม่มีน้ำหนักทันที เพราะไม่ว่าจะในประเทศใด หากสังคมที่ศิวิไลซ์ เขายอมรับใน “อำนาจศาล” กันทั้งนั้น คำพิพากษาของศาลถือเป็นที่สุดตามหลัก Res Judicata ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่จะต้องตีขลุมว่าเป็นเรื่องของ “องค์กรอิสระ” ที่ในต่างประเทศคงนึกไม่ออกมองไม่เห็นภาพ

เรียกว่าคนทั่วไปใครฟังถ้อยคำพิษที่ไปพ้นอยู่มองโกเลียนี้แล้วคิดตาม ก็จะมีอันของขึ้นทุกราย

ถึงขนาดคุณชัย ราชวัตร การ์ตูนนิสต์การเมืองมือเก๋าระดับตำนานของประเทศไทยยังอดรนทนไม่ไหว ถึงขนาดต้องแสดงความรู้สึกออกมาอย่างรุนแรง เป็นนัยว่า สตรีที่ทำอาชีพที่ใครๆ เขาเหยียดหยาม ก็ยังไม่ได้ถือว่าทำชั่ว หากเทียบกับการ “ขายชาติ”

เล่นเอาตุ๊กแกเต้นเร่าๆ ส่งลิ่วล้อเสื้อแดงไปเทน้ำปลาร้าหน้าที่ทำการหนังสือพิมพ์ต้นสังกัด ทั้งส่งทีมกฎหมายไปฟ้องคุณชัย ในข้อหาหมิ่นประมาทและกระทำผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ครับ ก็ไอ้ พ.ร.บ.เดียวกับที่คนเสื้อแดงจะเป็นจะตายถ้าเขาเอาไปใช้กับพวกหมิ่นเจ้านั่นแหละครับ ส่วนคดีหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นนั้นก็เรียกว่า ถ้ามันมีกฎหมายห้ามหมิ่นนายกฯ พวกแดงก็คงยกขึ้นมาเล่นคุณชัยแล้ว

ไหนละครับ? สิทธิเสรีภาพที่แทบทนอยู่กันต่อไปไม่ได้เลยกับการหมิ่นองค์พระประมุขของรัฐ ไหนละครับที่อ้างว่า บุคคลทางการเมืองต้องตรวจสอบได้ ทนต่อการดูหมิ่นล้อเลียนได้ เห็นสะใจไปตามๆ กันสำหรับกองเชียร์

ครับ ก็ในเมื่อคนพูดก็ยังไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองพูด ไม่ว่าจะเป็นตัวเจ้าของสปีช หรือกองเชียร์ เรื่องมันก็มีเท่านี้ ปลงๆ มองให้เป็นเรื่องขำๆ ของพวกว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง เสียดีกว่า!
กำลังโหลดความคิดเห็น