เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (19 มกราคม 2556) มีงานคอนเสิร์ตที่สนามม้านางเลิ้ง เป็นที่นัดพบปะสนุกสนาน ร้องเพลง แสดงโชว์ชุดต่างๆ และรับพรปีใหม่จากแกนนำพันธมิตรและผู้หลักผู้ใหญ่อีกหลายท่าน
ใช่แล้วครับผมกำลังจะพูดถึงงานคอนเสิร์ตเปิดของขวัญที่พวกเราทีมงานเอเอสทีวีจัดขึ้นเพื่อเป็นการฉลองปีใหม่ร่วมกับพ่อแม่พี่น้อง งานนี้เรียกได้ว่าทุ่มทุนสร้างมากๆ เลยละครับ เล่นเอาหลายๆ คนกว่าจะได้หลับได้นอนกันก็เกือบจะเช้าเลยทีเดียว
งานนี้เป็นการ รวมตัวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่แตกต่างจากที่เคยนัดพบกันมา เพราะคราวนี้ เราไม่ได้มาชุมนุม ไม่ได้มาเรียกร้องอะไร ไม่ได้มาต่อต้านใคร แต่มาเพื่อพบปะให้หายคิดถึง มาเพื่อสนับสนุนเอเอสทีวี มาเพื่อชมรายการของศิลปินพันธมิตรและรายการแสดงของพิธีการ และทีมงานรายการต่างๆ มาเพื่อขอบคุณแสดงน้ำใจต่อศิลปินที่ร่วมงานกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่องในทุกสถานการณ์ที่ยากลำบาก แม้จะมีค่าตอบแทนเล็กน้อย ในแต่ละครั้งค่าน้ำมันและค่าเดินทางก็แทบไม่พอ
งานนี้เป็นการร่วมมือกันของบรรดานักร้องนักดนตรี ที่มาขึ้นเวทีกันอย่างคับคั่ง คงไม่ต้องบอกละมั้งครับว่ามีใครบ้าง แต่คนที่ต้องพูดถึง แบบ ชนิดที่ว่าไม่พูดไม่ได้ นั้นคือ อาตั้ว ศรัณยู ของเรา ซึ่งทำงานแบบเสียสละทุ่มสุดตัว หามรุ่งห่ามค่ำเลยทีเดียว อาตั้วต้องอยู่ที่สนามม้าตั้งแต่เริ่มซ้อมชุด แรก ยันซ้อมชุดสุดท้ายเลยทีเดียว เป็นการซ้อมร้องซ้อมการแสดง ของนักแสดงนักร้องที่ไม่ใช่นักร้องนักแสดงอาชีพ ทุกคนสมัครเล่น เต็มใจเต้นเต็มใจร้อง แถมบางรายการมาไม่ครบไม่พร้อมกันเพราะติดธุระการงาน คิดดูซิครับว่าอาตั้วต้องจัดการซ้อมทุกชุด ยาวนานและเหนื่อยยากขนาดไหน
น่านับถือจริงๆครับ ในทัศนะผม อาตั้วคือศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ที่ต้องขอคารวะ ในความสามารถ ความหนักแน่นยืนหยัดมั่นคงรับผิดชอบเสียสละ งานทั้งหมดสำเร็จได้ด้วยใจของทุกคนจริงๆครับ ใจสู้ ใจกล้า ใจเสียสละ
สำหรับคนทำงานเอเอสทีวี ผมว่าพี่ๆ ทุกคนน่ารัก เอาจริงเอาจังมาก ถึงจะต้องทำในสิ่งที่ถนัดบ้าง ไม่ถนัดบ้าง แต่ทุกคนก็สู้ไม่ยอมถอย ทั้งก่อนเตรียมงานและวันงาน
ผมไปถึงสนามม้านางเลิ้งตั้งแต่ 9.00 น. เรียกได้ว่าไปแต่เช้าเลยละ เพราะอาสารับป้าหญิงแต่เช้า ป้าหญิง ของเราต้องขึ้นร้องเพลงคิวต้นๆ แถมวันนี้ป้าหญิงต้องเป็นนางเอก ประกบคู่กับคุณลุงทนายสุวัตร หลังเวทีลุงป้าสองคนนี้แซวกันว่าเพิ่งจะได้เป็นพระเอกนางเอกกันตอนอายุเข้าเลขหกแล้ว แถม เพลงที่ทั้งสองท่านจะร้องนั้น ไม่เคยซ้อมคู่กัน เพราะต่างคนต่างมาซ้อมที่เวทีกันคนละเวลา
สำหรับป้าหญิงนะ ต้องแอบกระซิบบบอกว่า ร้องเพลงเพราะมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลงจากภาพยนตร์คลาสสิค เดอะซาวด์ออฟมิวสิค ในงานวันนี้ป้าหญิงกับคุณลุงสุวัตร แปลงโฉมเป็นขวัญกับเรียม ลอยเรือในทุ่งร้อง เพลงแสนแสบ แถมมีมุกงอนง้อกันเล็กๆน้อยๆด้วยละครับ ช่างเป็นขวัญกับเรียมที่น่ารักมากๆ ใครที่ไม่ได้มา ต้องขอบอกว่าเสียดายแทนเลยละครับงานนี้
การแสดงมากมายถูกนำมาจัดโชว์เรียงตามคิวที่เตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า อย่างสนุกสนาน อีกโชว์นึงที่สนุกไม่แพ้กันนั้นคือโชว์ของอาหมีและคณะที่นำโดย อาจารย์รัตนาพร และพี่ๆผู้ประกาศอีกหลายท่าน แต่งชุดไทยกันสวยหล่อทุกคน ลำตัดที่ร้องก็มีการหลุดมุกและผิดคิวบ้าง ออกแนวซ้อมน้อย แต่ก็น่าเอ็นดูเรียกเสียงฮาได้ไม่ขาดสาย
ทีมตีแสกหน้าก็ใช่ย่อยขึ้นเวทีกันไปร้องเพลงไปด้วย เต้นไปด้วย ด้วยชุดแต่งกายแบบย้อนยุคของ อ.จำรูญและคุณป้าภรรยา อ.แต่งชุดนักเรียนมัธยม นัยว่าเพื่อรำลึกความหลังเมื่อครั้ง อ.ไปจีบตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม รุ่นลูกหลานเห็นแล้วต้องอมยิ้ม รักกันยืนยาวน่ารักจริงๆครับ
ทีมตีแสกหน้าคนที่ต้องชมคือพี่เก๋ กมลพร ที่คุมคุณลุงแก่ๆ สี่คนพิธีกรของรายการ ทำให้การแสดงผ่านไปได้สำเร็จและเอาตัวรอดกันไปได้ ชนิดที่ว่าต้องเตรียมยาดมไว้ให้หลังลงจากเวทีเลยละครับ
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้คงต้องพูดถึงอีกท่านนึงที่เรียกเสียงกรี๊ดได้สนั่นสนามม้า นั้นคือเฮียบุ๊งหัวหน้าพ่อครัวของเราที่ ที่เปิดตัวด้วยการเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในกล่องของขวัญใบโตสีชมพู และออกมาโชว์เต้นกังนัมสไตล์ ที่บรรดาพวกป้าๆโรงครัวบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เพลงนี้นะ จริงๆแล้วชื่อเพลงกำลังจะตาย เพราะคนเต้นใส่ซะเต็มที่ จนน่ากลัวจะเป็นลมเลยทีเดียว
เพลงนี้อาตั้วลงทุนแปลงเนื้อเป็นแกนนำสไตล์ ออกมาก็ขำดี ยังไม่วายขายของอย่างเครื่องทำน้ำด่างอีก คิดได้ไงครับเนี่ยมุกนี้ แถมเฮียบุ๊งยังประหม่าแล้วมีการบอกผมว่าอย่าถ่ายตอนเฮียบุ๊งล้มนะ ผมเลยแซวกลับไปว่า เฮียบุ๊งก็อย่าล้มให้ผมถ่ายแล้วกันนะครับ ก็เป็นการแซวกันเล่นเล็กๆ น้อยครับ
หลังจากโชว์ของเฮียบุ๊งจบลง ผมก็ต้องขอตัวกลับบ้าน เพราะว่าเหนื่อยมาก และต้องเตรียมกลับมาเขียนเรื่องนี้ น่าเสียดายมากเลยครับที่ไม่ได้อยู่จนจบงาน แต่ถ้าไม่กลับก็คงไม่ไหว อีกอย่างต้องทำหน้าที่ส่งป้าหญิงขากลับบ้าน พามาก็ต้องพากลับจริงไหมครับ
สุดท้ายนี้ผมก็ขอเป็นอีกหนึ่งคนที่ขอสัญญากับทุกคนจากใจสู่ใจว่าจะมั่นคงไม่เปลี่ยนครับ