“ตั้ว ศรัณยู” ดีใจ ช่อง 7 เบิกทางให้ทำละคร “สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย” อีกครั้ง เผยตอนนี้อยู่ระหว่างคัดตัวนักแสดง และรอเซ็นสัญญาเพื่อทำการเปิดกล้อง เจ้าตัวแจงถึงหายไปนานก็ไม่กดดัน เพราะเหมือนเป็นวิชาชีพที่เคยทำมานาน หวังคนดูชอบ
หลังจากที่ผู้กำกับดีกรีพระเอกหนุ่มในอดีต “ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง” ห่างหายจากงานด้านผู้กำกับรวมถึงงานละครไปนาน แต่ได้กำกับละครไว้หลายเรื่อง อาทิ สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย, น้ำพุ, หลังคาแดง เป็นต้น ก็เรียกได้ว่าเรตติ้งพุ่งกระฉูด และล่าสุด ทางช่อง 7 เตรียมก็เปิดทางให้หนุ่ม “ตั้ว” กลับมาทำละครอีกครั้ง ประเดิมละครรีเมกเรื่องแรก “สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย” ที่เจ้าตัวเคยทำประสบความสำเร็จมาแล้วในอดีต ซึ่งทางผู้สื่อข่าวบันเทิงเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ ได้ต่อสายตรงสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว เจ้าตัวก็เผยว่ารู้สึกดีใจที่ให้กลับมาทำอีกครั้ง
“ทางช่อง 7 ให้โอกาสก็รู้สึกดีครับ ก็ยินดีที่เขากรุณาให้กลับไปทำ และวิชาชีพเราก็อยู่ตรงนี้มันก็คือ พูดตรงๆ ก็คือตกงาน แล้วเขาให้กลับไปทำ เพราะว่าเราเองก็ไม่ได้มีสถานีของตัวเอง เอเอสทีวีก็เป็นสถานีข่าวถ้าทำละครมันคนละเรื่อง มันก็เป็นตรงนี้ เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่มีช่องตัวเองมันก็เท่านั้น หันไปทำละครเวทีนั้นแหละครับ ตรงนี้มันเป็นวิชาชีพเรา ก็พอมีช่องทางนี้ก็แน่นอนครับว่าก็ดีใจ แล้วดีใจยิ่งไปกว่านั้นเมื่อไปคุยแล้วเขาไม่มีเงื่อนไขบีบอะไรเรามาก เพราะว่าเขาเข้าใจการทำงานของเรา มันก็เป็นแบบนั้น มันก็ทำให้เรามีความสุขในการทำงาน ซึ่งมันก็เป็นความรู้สึกที่ดีครับ”
“ที่ต้องเป็นเรื่องนี้จริงๆ เพราะว่าเป็นเรื่องที่ทางช่องอนุมัติมา สำหรับผมมีหลายอย่างอีกมากมายที่อยากทำ แต่ว่าละครโทรทัศน์ทำโดยการรับจ้างทำ เจ้าของสถานีเขาเป็นผู้จ้าง เขาก็ต้องเป็นผู้เลือกว่าเขาพอใจเรื่องไหน เพราะฉะนั้นในเรื่องที่ผมมีอยู่เขาก็พอใจในเรื่องนี้ก็เลยให้ทำ ซึ่งแกนสำคัญของเรื่องยังเหมือนเดิมครับ เราเอาบทเก่ามานั่งดูแล้วพบว่าแกนสำคัญของเรื่องประเด็นมันยังเป็นประเด็นที่พูดได้เรื่อยๆ มันไม่มียุคสมัย มันเป็นความรักแท้ ความซื่อสัตย์ของคนที่ต่ำต้อยกว่าอีกคนหนึ่ง แกนนี้มันยังอยู่”
“และรายละเอียดที่ทำไว้มันยังอยู่ และรายละเอียดพล็อตเรื่องมันยังร่วมสมัยอยู่อีกเยอะมาก แต่จะมีดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเปลี่ยนไปตามสภาพสังคมและก็ความยาวคงจะเปลี่ยนไป และเดี๋ยวนี้ละครมันยาวมากก็คงต้องมีการปรับบทเพื่อให้ตรงในเรื่องของละคร มันก็จะมีการปรับบทในแง่ของรายละเอียดทางสังคมที่มันมีความห่างกันเมื่อ 10 ปีที่แล้ว โทรศัพท์มือถือยังไม่ได้ใช้กันทุกคน รายละเอียดพวกนี้ก็จะเปลี่ยนไปตามสภาพสังคมต่อเนื้อหาสาระก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมครับ”
บอกตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการคุยเรื่องตัวนักแสดง
“ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนของการดูตัวละคร ตัวแสดงว่าใครจะเหมาะสม ตอนนี้ทีมงานกำลังดูๆ อยู่ครับ เพราะว่าผมค่อนข้างจะดูไม่ทั่วถึงดูไม่ทัน เพราะว่านักแสดงใหม่ๆ มีใครบ้าง แล้วก็ปรึกษาหารืออยู่กับทางช่องว่าจะเป็นใครครับ (แล้วในใจอยากได้ใครมาแสดง?) มีเยอะครับ ตอบแบบนั้นไม่ได้หรอก เพราะว่าถ้าถามตอนนี้ตอบตอนนี้ก็นึกถึงอีกคนหนึ่ง เดี๋ยวพอผ่านไปหนึ่งชั่วโมงนึกถึงอีกคนหนึ่ง มันไม่นิ่งหรอกครับของพวกนี้”
“ส่วนจะถ่ายทำเมื่อไหร่ก็ต้องรอเขาเซ็นสัญญาครับ แล้วก็ยังไม่รู้เลยครับว่าจะออนแอร์เมื่อไหร่ เพราะว่ายังไม่ได้ทำการเซ็นสัญญาเปิดกล้องเลยครับ แต่เท่าที่คุยด้วยปากทางช่องก็บอกว่าอยากให้เปิดกล้องเลย อยากให้เปิดกล้องให้เร็วที่สุด ถ้าสรุปตัวละครได้ถ้าได้คิวก็คงจะเปิดเลย แต่ในใจเราก็ถ้าจะเปิดเลยก็ต้องเซ็นสัญญาเลยเพราะว่าเราไม่มีตังค์ ก็เป็นธรรมดาครับ มันเป็นการลงทุนทาง ช่องเขาไม่ได้ทำละครเรื่องนี้เรื่องเดียว ก็มีผู้จัดหลายแขนง ก็ต้องตามจังหวะเวลาไปครับ”
“คือ ถ้าบริษัทใหญ่ๆ ที่ทำละครแล้วเขามีเงินหมุนเวียนเขาก็คงทำได้เปิดกล้องได้แล้วแหละ เขาก็ลงทุนไปก่อน แต่ว่าผมนะไม่มีตังค์ ก็ต้องรอเซ็นสัญญาเพราะการจ้างวานแบบนี้ช่อง 7 เขาก็จะมีการเซ็นสัญญา เขาก็จะมีเงินมาให้ก้อนหนึ่งแล้วเอาเงินตรงนั้นไปหมุนเวียน เริ่มทำก็พอจะจ้างทีมงานอะไรได้ ทีนี้ผมไม่มีตังค์ ถ้าจะมาเริ่มทำงานตอนนี้ผมก็ไม่มีตังค์ไปจ้าง เราก็ทำอะไรอย่างระวังรอบคอบ รอจังหวะที่เขาอนุมัติเซ็นสัญญา สัมภาษณ์ตรงนี้ แต่ถ้าเขาเปลี่ยนใจไม่เซ็นสัญญาผมก็ไม่ได้ทำ”
“ซึ่งการเซ็นสัญญาตรงนี้เป็นการเซ็นสัญญาในการทำเรื่องต่อเรื่องครับ ไม่ได้เซ็นสัญญาในการเข้าสังกัดอะไรครับ ก็เป็นการเซ็นสัญญาทำนองว่าเขาจ้างให้เราทำงานให้เขาในเรื่องนี้ และในเรื่องของงบทางช่องก็เป็นคนกำหนดครับ แต่ว่าก็ต้องกำหนดตัวเลขตามที่เราเห็นว่าเราพอเอามาหมุนเวียนสร้างงานให้เขาได้”
ถึงหายไปนานก็ไม่ต้องเตรียมตัวอะไร เพราะการทำละครเหมือนเป็นวิชาชีพที่ทำมานาน
“หายไปนานก็มันก็เตรียมตัวเหมือนทุกครั้งที่เคยทำ เหมือนเป็นวิชาชีพที่เราเคยทำและทำมานานนะครับ มันก็ไม่ได้ว่าพอหยุดแล้วมันจะลืมตรงนั้น มันก็จะเข้าไปสู่กระบวนการที่เป็นวิชาชีพเท่านั้นเองครับ นั่งคุยกับทีมงานประชุมให้เห็นภาพตรงกันหารายละเอียดก็เป็นปกติครับ”
“และผมไม่ได้เดินออกมาจากวงการแล้วเปิดประตูเพื่อจะเข้าสู่วงการใหม่ ผมก็เป็นผมอยู่แบบนี้ เพียงแต่สภาวะในแต่ละช่วงมันก็ส่งผลให้ในช่วงเวลาหนึ่งไม่มีคนเขาจ้างให้ทำงาน ในช่วงเวลาหนึ่งสังคมเขาไม่อยากจ้างงาน แต่ในช่วงเวลาหนึ่งเขาต้องการงานของเรา เขาอยากได้งานในสไตส์ที่เราทำ มันเป็นแบบนี้เลยไม่คิดว่าวงการบันเทิงเป็นห้องๆ หนึ่งที่ผมต้องกั้นหายใจลึกๆ แล้วเปิดประตูเข้าไปแล้วพอผมรับไม่ได้แล้วเปิดประตูหนีออกมา มันไม่ใช่แบบนั้นผมเป็นยังไงก็เป็นแบบนั้นครับ ผมก็ประกอบวิชาชีพด้วยตัวของผมแบบนี้ครับ”
“แล้วคือครั้งนี้มันไม่ได้เป็นการทำงานทุนตัวเอง เขาจ้างให้ทำต้องทำงานกับคนอื่น มันก็ต้องมีจังหวะเวลาถึงพร้อมให้พอเหมาะพอเจาะกัน ถ้าเราควักเงินเราเองทำเองทั้งหมด มันถึงเป็นงานศิลปะงานอีกแบบหนึ่ง แต่ว่างานประเภทนี้ถ้าเราพร้อมเหลือเกิน แต่ไม่มีใครมาพร้อมด้วย เขาไม่อนุมัติไม่ลงทุนให้งานมันก็จะไม่เกิดครับ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาครับ เพราะฉะนั้นมันขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาครับ”
เผยไม่กดดันถึงภาคเก่ากระแสแรงมาก
“กดดันไหม ไม่หรอกครับ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเพราะว่ากระแสภาคแรกดีทางช่องก็เลยยอมให้ทำ กระแสที่ดีตอนนั้นมันน่าจะทำให้คนสนใจที่จะดูอีกทีครับ น่าจะเป็นอย่างนั้นมากกว่า แล้วเราทำเองมันก็ไม่ได้ทำให้รารู้สึกกดดันน่าจะทำให้เราได้เปรียบในแง่ของการประชาสัมพันธ์ มีคนรู้จักจักง่ายขึ้น น่าจะเป็นแบบนั้นมากกว่าครับ ไม่กลัวการเปรียบเทียบครับ เพราะว่ามันคนละช่วงเวลากันเราก็จะทำออกมาให้มันร่วมสมัยมากขึ้นครับ”
“คาดหวังก็คาดหวังเหมือนทุกครั้งที่ทำละครครับ อะไรที่เราอยากจะพูดอยากจะบอกเล่าเราก็อยากให้คนรับสารสารนั้นได้ครบถ้วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง ถึงเวลาที่ละครออนแอร์ตอนนั้นมันเป็นยังไง คนพร้อมที่จะดูมีอารมณ์ร่วมที่จะ เพลิดเพลินกับละครเนื้อเรื่องทำนองนี้ไหม มันมีเงื่อนไข ที่เป็นปัจจัยหลายๆ อย่างครับ เพราะฉะนั้นความคาดหวังก็คือแค่ให้คนดูมีความสุขและเข้าใจในสิ่งที่เราพูดก็พอแล้วครับ”
ฝากละครเพื่อความบันเทิงไม่เกี่ยวข้องการเมือง
“ฝากก็คนทำงานก็อยากให้คนชมกัน ชอบไม่ชอบจะติจะชมยังไงอันนั้นก็อีกเรื่องครับ ก็ขอให้ละครเรื่องนี้หวังว่าเป็นละครที่มีอิสระในตัวของมันเอง คือผู้ชมก็เลือกชมได้ตามรสนิยมชอบหรือไม่ชอบก็เลือกชมเอา ถ้าอยากจะฝากก็อยากจะบอกว่าละครเรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองอะไร ก็ขอว่าอย่าไปคิดตรงนั้นเลย”
“ถ้าดูแล้วไม่ชอบก็คือไม่ชอบครับ เพราะก็มีการคุยกับช่องแล้วว่ามันไม่ได้เป็นละครการเมือง มันก็เป็นละครความบันเทิง ก็หวังเพียงเท่านั้น แต่คนที่เป็นคอเดียวกันก็ฝากขอขอบคุณ พอเขารู้ข่าวว่าผมจะกลับมาทำละครพี่น้องทุกคนที่รู้จักกันก็ให้กำลังใจก็ดีใจด้วย ก็ขอบคุณทุกคนครับ เหมือนทุกคนเขารู้ว่าถ้าผมไม่ได้งาน ผมก็คงอดตายแล้วแหละ (หัวเราะ)”