ปัญหาการสั่งย้าย พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.พิณภาษณ์ สริวัฒน์ เจ้ากรมเสมียนตราไปช่วยราชการสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า การย้ายหรือลงโทษ การให้ความดีความชอบเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา ใครมีอำนาจตรงนั้นตนไม่ขอวิจารณ์แต่ พล.อ.เสถียรยังคงเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมอยู่เพียงแต่ไปช่วยราชการ แต่เรื่องนี้คงจะมีการพูดคุยเพื่อหาทางออก ทุกคนก็อยากให้ทุกอย่างออกมาเรียบร้อย เพราะเป็นพี่น้องกันไม่อยากให้นำมาเป็นประเด็นสำคัญ ต้องทำให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา ทหารนั้นคำว่าผู้บังคับบัญชาสำคัญที่สุด และผู้บังคับบัญชาพร้อมให้อภัยผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่เสมอ ดังนั้นขอให้ภายนอกอย่าไปกดดัน หากกดดันมากๆ จะหาทางออกไม่เจอแล้วจะเสียหาย
ส่วนกรณีที่ พล.อ.เสถียร เตือนว่าผบ.เหล่าทัพอาจถูกย้ายเหมือนกัน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า น่าจะพูดด้วยความห่วงใย ตนไม่ได้ทำอะไรผิด ใครจะมาย้าย ถ้าจะมาย้ายต้องมีความผิด
สำหรับเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการโยกย้ายปลัดกระทรวงกลาโหมนั้น ตนรู้สึกกังวลโดยเฉพาะหน่วยงานเกี่ยวกับความมั่นคงต้องมีความละเอียดอ่อน ไม่ควรลากเข้ามาให้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ดูเหมือนขณะนี้ รมว.กลาโหมพยายามแสดงความมีอำนาจเพื่อจะให้ทุกฝ่ายต้องมาสนองตอบความต้องการเท่านั้นเอง ถ้าสังคมเพิกเฉยไม่ตำหนิจะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคตแน่นอน เมื่อถามว่าการโยกย้ายปลัดกระทรวงนายกฯ จะไม่ได้รับการหารือเลยหรือ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เข้าใจว่าจะอ้างว่ายังไม่ได้โยกย้ายอะไร แต่สั่งให้มาช่วยราชการ ซึ่งยุทธศาสตร์หลักของเขาอะไรเป็นปัญหาก็อย่าให้นายกฯ เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ขอถามง่ายๆ ว่าคนเป็นนายกฯ จะไม่อ่านหนังสือพิมพ์หรือ จะไม่เห็นข่าวนี้เลยหรือ จะเป็นคนเดียวในสังคมที่เกี่ยวข้องกับวงการเมืองแล้วไม่รู้ว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นเลยหรือ
สำหรับเรื่องการใช้อำนาจแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการประจำของรัฐมนตรีกลาโหมนั้น กลับมีประเด็นได้รับการพาดพิงขึ้นมาอีก เมื่อนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมสั่งย้ายสามพล.อ.ในกระทรวงกลาโหมว่า เรื่องนี้มีการล้วงลูกใช้อำนาจทางการเมืองแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการประจำ และรมว.กลาโหมต้องชี้แจงสังคมและคนในกองทัพที่ต่างสงสัยว่า ทำไมต้องผลักดัน พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ขึ้นเป็นปลัดกลาโหม ทราบมาว่า ความพยายามผลักดันพล.อ.ทนงศักดิ์ เพราะมีความสัมพันธ์ฉันท์เครือญาติกับเด็กคนหนึ่งของ “เจ๊ ด.” ผู้กว้างขวางภาคเหนือ ขาใหญ่ดูแลนักการเมืองหลายระดับใช่หรือไม่ ถ้ายังทำงานแบบรับคำสั่งจากผู้มีบารมีนอกพรรค ขาใหญ่นอกครม.ต่อไป การแต่งตั้งโยกย้ายในกระทรวงกลาโหมอาจเกิดปัญหาตามมาอีก ถ้าทำกรณีนี้ได้ คงรุกคืบแต่งตั้งคนสนิทสนมกับเจ๊ ด.ให้ไปอยู่ในกระทรวงต่างๆ มากขึ้น
ทันทีนั้น นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวตอบโต้ว่า ที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ระบุ “เจ๊ ด.”ว่าอยู่เบื้องหลังการผลักดันเสนอชื่อพล.อ.ทนงศักดิ์เป็นปลัดกลาโหม ว่าเป็นเพราะต้องการที่จะลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ขอท้าให้เปิดเผยชื่อจริงออกมาว่าเจ๊ ด.เป็นใคร ถ้าไม่กล้าพูดจะถูกว่าเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลไม่มี เจ๊ ด.หรือใครอยู่เบื้องหลังการผลักดันพล.อ.ทนงศักดิ์ ไม่มีใครไปแทรกแซงและไม่มีใครสั่งการ พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมได้ อีกทั้งขณะนี้การแต่งตั้งยังไม่เกิดขึ้น แต่น่าสมเพชพรรคประชาธิปัตย์กลับผสมโรงให้เป็นเรื่องการเมือง ตีกินทางการเมืองแบบไร้หลักฐาน ทั้งที่กองทัพเองไม่มีใครติดใจ
ส่วน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหมว่า เรื่องจะจบหรือไม่ต้องถามพล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เป็นเรื่องภายในต้องเคลียร์กันเอง คงไม่มีอะไรแต่ที่เป็นห่วงและได้คุยกับพล.อ.สุกำพลคือ เรื่องกฎหมาย ถ้าไม่มีข้อกฎหมายยืนยันและทำโดยไม่ถูกต้อง จะมีปัญหาต่อไปและยืดเยื้อ ที่พล.อ.สุกำพลบอกว่า จะให้พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้รักษาการแทนปลัดฯ เข้าประชุมสภากลาโหมต้องดูระเบียบกระทรวงกลาโหมปี๒๕๑๑ ข้อ ๒๕ ให้ดี ที่กำหนดการบริหารจัดการกำลังพลในกระทรวงกลาโหม และกำหนดหน้าที่ของแต่ละคนที่เป็นกรรมการและผู้รักษาการแทนจะทำหน้าที่แทนได้หรือไม่ ท่านคงหารือกับฝ่ายกฎหมายของกระทรวงแล้วถึงได้ยืนยันอย่างนี้ แต่ก็อยากให้ตรวจสอบให้ดี ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาตามมา และได้เสนอให้เรียกประชุมสภากลาโหมรับฟังความเห็นจากผบ.เหล่าทัพ และชี้แจงความตั้งใจว่าจะอะไรต่อไปเพื่อให้ราบรื่น ยืนยันกองทัพไม่มีการแตกแยกและตนจะพยายามดูไม่ให้เกิดความแตกแยกระหว่างกองทัพกับรัฐบาลด้วย
ส่วนกรณีที่ พล.อ.เสถียร เตือนว่าผบ.เหล่าทัพอาจถูกย้ายเหมือนกัน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า น่าจะพูดด้วยความห่วงใย ตนไม่ได้ทำอะไรผิด ใครจะมาย้าย ถ้าจะมาย้ายต้องมีความผิด
สำหรับเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการโยกย้ายปลัดกระทรวงกลาโหมนั้น ตนรู้สึกกังวลโดยเฉพาะหน่วยงานเกี่ยวกับความมั่นคงต้องมีความละเอียดอ่อน ไม่ควรลากเข้ามาให้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ดูเหมือนขณะนี้ รมว.กลาโหมพยายามแสดงความมีอำนาจเพื่อจะให้ทุกฝ่ายต้องมาสนองตอบความต้องการเท่านั้นเอง ถ้าสังคมเพิกเฉยไม่ตำหนิจะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคตแน่นอน เมื่อถามว่าการโยกย้ายปลัดกระทรวงนายกฯ จะไม่ได้รับการหารือเลยหรือ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เข้าใจว่าจะอ้างว่ายังไม่ได้โยกย้ายอะไร แต่สั่งให้มาช่วยราชการ ซึ่งยุทธศาสตร์หลักของเขาอะไรเป็นปัญหาก็อย่าให้นายกฯ เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ขอถามง่ายๆ ว่าคนเป็นนายกฯ จะไม่อ่านหนังสือพิมพ์หรือ จะไม่เห็นข่าวนี้เลยหรือ จะเป็นคนเดียวในสังคมที่เกี่ยวข้องกับวงการเมืองแล้วไม่รู้ว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นเลยหรือ
สำหรับเรื่องการใช้อำนาจแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการประจำของรัฐมนตรีกลาโหมนั้น กลับมีประเด็นได้รับการพาดพิงขึ้นมาอีก เมื่อนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมสั่งย้ายสามพล.อ.ในกระทรวงกลาโหมว่า เรื่องนี้มีการล้วงลูกใช้อำนาจทางการเมืองแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการประจำ และรมว.กลาโหมต้องชี้แจงสังคมและคนในกองทัพที่ต่างสงสัยว่า ทำไมต้องผลักดัน พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ขึ้นเป็นปลัดกลาโหม ทราบมาว่า ความพยายามผลักดันพล.อ.ทนงศักดิ์ เพราะมีความสัมพันธ์ฉันท์เครือญาติกับเด็กคนหนึ่งของ “เจ๊ ด.” ผู้กว้างขวางภาคเหนือ ขาใหญ่ดูแลนักการเมืองหลายระดับใช่หรือไม่ ถ้ายังทำงานแบบรับคำสั่งจากผู้มีบารมีนอกพรรค ขาใหญ่นอกครม.ต่อไป การแต่งตั้งโยกย้ายในกระทรวงกลาโหมอาจเกิดปัญหาตามมาอีก ถ้าทำกรณีนี้ได้ คงรุกคืบแต่งตั้งคนสนิทสนมกับเจ๊ ด.ให้ไปอยู่ในกระทรวงต่างๆ มากขึ้น
ทันทีนั้น นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวตอบโต้ว่า ที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ระบุ “เจ๊ ด.”ว่าอยู่เบื้องหลังการผลักดันเสนอชื่อพล.อ.ทนงศักดิ์เป็นปลัดกลาโหม ว่าเป็นเพราะต้องการที่จะลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ขอท้าให้เปิดเผยชื่อจริงออกมาว่าเจ๊ ด.เป็นใคร ถ้าไม่กล้าพูดจะถูกว่าเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลไม่มี เจ๊ ด.หรือใครอยู่เบื้องหลังการผลักดันพล.อ.ทนงศักดิ์ ไม่มีใครไปแทรกแซงและไม่มีใครสั่งการ พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมได้ อีกทั้งขณะนี้การแต่งตั้งยังไม่เกิดขึ้น แต่น่าสมเพชพรรคประชาธิปัตย์กลับผสมโรงให้เป็นเรื่องการเมือง ตีกินทางการเมืองแบบไร้หลักฐาน ทั้งที่กองทัพเองไม่มีใครติดใจ
ส่วน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหมว่า เรื่องจะจบหรือไม่ต้องถามพล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เป็นเรื่องภายในต้องเคลียร์กันเอง คงไม่มีอะไรแต่ที่เป็นห่วงและได้คุยกับพล.อ.สุกำพลคือ เรื่องกฎหมาย ถ้าไม่มีข้อกฎหมายยืนยันและทำโดยไม่ถูกต้อง จะมีปัญหาต่อไปและยืดเยื้อ ที่พล.อ.สุกำพลบอกว่า จะให้พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้รักษาการแทนปลัดฯ เข้าประชุมสภากลาโหมต้องดูระเบียบกระทรวงกลาโหมปี๒๕๑๑ ข้อ ๒๕ ให้ดี ที่กำหนดการบริหารจัดการกำลังพลในกระทรวงกลาโหม และกำหนดหน้าที่ของแต่ละคนที่เป็นกรรมการและผู้รักษาการแทนจะทำหน้าที่แทนได้หรือไม่ ท่านคงหารือกับฝ่ายกฎหมายของกระทรวงแล้วถึงได้ยืนยันอย่างนี้ แต่ก็อยากให้ตรวจสอบให้ดี ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาตามมา และได้เสนอให้เรียกประชุมสภากลาโหมรับฟังความเห็นจากผบ.เหล่าทัพ และชี้แจงความตั้งใจว่าจะอะไรต่อไปเพื่อให้ราบรื่น ยืนยันกองทัพไม่มีการแตกแยกและตนจะพยายามดูไม่ให้เกิดความแตกแยกระหว่างกองทัพกับรัฐบาลด้วย