ขณะนั่งทำงานเขียนอยู่นี้ ฝนตกหนักมาก ลมพัดเสียงดังสนั่นอยู่นอกห้อง
ช่วงนี้สภาพอากาศบ้านเรามีฝนตกหนักมากแทบทุกวัน ชีวิตประจำวันต้องเดินคู่ไปกับสายฝน
บ่ายๆเย็นๆมืดครึ้มดำทมึนมาเลยละครับ มาตรงเวลาโรงเรียนเลิก เด็กนักเรียนกำลังเดินทางกลับ คนทำงานเลิกงานกลับบ้าน ฝนตกรถติด เต็มสูตรของเมืองแออัดอย่างกทม.
ตอนเป็นเด็กนักเรียน ผมยังเคยคิดว่า ทำไมโรงเรียนเมืองไทย เปิดภาคเรียนเดือนพฤษภาคมกับมิถุนายนพร้อมกับฤดูฝน ทำไมเราไม่ปิดภาคเรียนตอนหน้าฝนแทนหน้าร้อน เพราะกลับจากโรงเรียนฝนตกหนัก รถติดเกือบตลอดสามสี่เดือนของเทอมต้น
ฝนตกรถติดเป็นภาวการณ์ที่คนทั้งเมืองจอดรถติดแหงก เผาผลาญน้ำมันกันจำนวนมหาศาล พล่าเวลาอยู่บนถนนสองหรือสามเท่าของวันปกติ นั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายในเรื่องน้ำมันและการเดินทางของแต่ละครอบครัว รวมกันทั้งประเทศเป็นเงินจำนวนมหาศาลในแต่ละปี
อันที่จริง บ้านเราเป็นเขตเมืองร้อนฝนชุก นับเป็นปกติ ถ้าฝนไม่ตกซิครับ ภาวะฝนแล้ง เดือดร้อนหนักยิ่งกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวไร่ชาวนา คนทำมาหากินภาคเกษตรกรรม
เพียงแต่ทุกวันนี้ฝนฟ้าอากาศแปรปรวนรุนแรงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ฝนฟ้าคะนองลมพายุมาทีไร พัดบ้านเรือนพังเสียหาย ป้ายโฆษณาข้างถนนในกทม.ก็เป็นอันตรายของคนเมืองหลวง เดินหรือขับรถอยู่ดีๆไม่รู้วันไหนจะแจ็คพ็อต ถูกป้ายหล่นลงมาทับตายหรือบาดเจ็บ เป็นภัยจากความชุ่ยของคนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พูดถึงความชุ่ยของมนุษย์แล้ว ภาวะโลกร้อน อากาศแปรปรวน ภัยธรรมชาติที่วิปริตหนักขึ้นทุกวัน เป็นผลจากฝีมือการทำลายของมนุษย์ทั้งสิ้น
มหันตภัยน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว ทำให้คนไทยวิตกกังวลกับฤดูฝนในปีนี้เป็นพิเศษ ปริมาณน้ำจำนวนมากที่ตกอยู่ทางภาคเหนือและภาคกลาง เป็นสิ่งหนึ่งที่คนกรุงเทพฯกลัว ว่าคงหนีไม่พ้นเรื่องน้ำท่วมอีกในปีนี้ ประสบการณ์ปีที่แล้วมันหนักหนาสาหัส จนหวาดผวาติดตาฝังใจกันไปอีกนาน
แม้ปีนี้ดูจากข่าวหลายๆกระแส และจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ชี้ไปในทางเดียวกันว่าปีนี้น้ำตามธรรมชาติ ไม่น่าจะท่วมมากเหมือนปีที่แล้ว
ภัยจากธรรมชาติ ว่าไปแล้ว ไม่หนักหนาเท่าภัยที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ บทเรียนจากปีที่ผ่านมา เป็นความล้มเหลวเต็มๆของรัฐบาล ในการแก้ปัญหา และการบริหารจัดการน้ำ เป็นภัยจากน้ำมือรัฐบาลซ้ำเติมภัยธรรมชาติ จนชาวบ้านต้องรับวิกฤตอย่างหนัก
ถ้าให้ธรรมชาติจัดการตัวมันเอง ปล่อยให้น้ำท่วม ให้น้ำไหลไปตามธรรมชาติ ไม่สะกัดกั้นเอาไว้ขวางทางน้ำ น้ำก็คงไม่ท่วมภาคกลางและกรุงเทพฯอย่างหนัก และยาวนานถึงสองเดือนกว่า
แต่ดูจากการทำงานของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ ชาวบ้านไม่เห็นวี่แววว่ารัฐบาลจะรับมือน้ำท่วมได้อย่างไร
จนถึงวันนี้ เดือนกันยายนและตุลาคมกำลังจะมาถึงแล้ว ถ้านับถอยหลังเป็นวัน ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน ราวห้าสิบกว่าวันเท่านั้น ก็จะถึงเวลาน้ำทางเหนือ ท่วมหลากลงมาภาคกลาง และกทม.
รัฐบาลแทบไม่ได้ทำอะไรให้ชาวบ้านเห็นว่าเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม ชาวบ้านหลายพื้นที่ต้องรวมกลุ่มกันช่วยตัวเอง วางแผนจัดเตรียมรับมือน้ำท่วม เพราะไม่เชื่อและไม่วางใจว่ารัฐบาลจะจัดการได้
ซ้ำร้ายชาวบ้านหวั่นวิตกว่า ด้วยน้ำมือรัฐบาลจะทำให้พวกเขาต้องพบกับน้ำท่วมหนักขึ้นกว่าธรรมชาติที่ควรจะเป็น เพราะการระบายน้ำลงไปเทให้ชาวบ้าน เพื่อรักษาปกป้องบางพื้นที่ที่รัฐบาลและพรรคพวกมีผลประโยชน์ เช่นโรงงานอุตสาหกรรม ที่ดินที่กว้านซื้อไว้ขึ้นโครงการอสังหาริมทรัพย์ แม้กระทั่งสนามบินสุวรรณภูมิที่หนองงูเห่าซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำของหนองน้ำธรรมชาติ
ความวิตกกังวลของชาวบ้านมาจากฐานความเป็นจริง ที่ผ่านการพิสูจน์ชี้ชัดมาแล้วจากการกระทำของรัฐบาลทั้งตอนน้ำท่วมปีที่แล้ว และหนึ่งปีที่ผ่านมา
ฝนที่ตกลงมาทุกวัน กำลังรวมเป็นมวลน้ำ แล้วไหลจากที่สูงลงมาสู่ที่ต่ำกว่า ในขณะที่คนในรัฐบาลได้แต่ออกมาพ่นน้ำลายรดหน้าจอโทรทัศน์ไปวันๆ
ฝนตกทีไร อดคิดถึงคำพังเพยคนโบราณไม่ได้ ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรมาพบกัน มันช่างเหมาะกับรัฐบาลชุดนี้เสียจริงๆ
ฝนตกทุกเย็น ขับรถกลับบ้านระมัดระวังกันด้วยนะครับ เป็นชาวบ้านอย่างเราก็ได้แต่ต้องดูแลตัวเองเตรียมรับมือกับน้ำท่วมปีนี้ คิดหวังพึ่งพวกคนจัญไรไม่ได้หรอกครับ
ช่วงนี้สภาพอากาศบ้านเรามีฝนตกหนักมากแทบทุกวัน ชีวิตประจำวันต้องเดินคู่ไปกับสายฝน
บ่ายๆเย็นๆมืดครึ้มดำทมึนมาเลยละครับ มาตรงเวลาโรงเรียนเลิก เด็กนักเรียนกำลังเดินทางกลับ คนทำงานเลิกงานกลับบ้าน ฝนตกรถติด เต็มสูตรของเมืองแออัดอย่างกทม.
ตอนเป็นเด็กนักเรียน ผมยังเคยคิดว่า ทำไมโรงเรียนเมืองไทย เปิดภาคเรียนเดือนพฤษภาคมกับมิถุนายนพร้อมกับฤดูฝน ทำไมเราไม่ปิดภาคเรียนตอนหน้าฝนแทนหน้าร้อน เพราะกลับจากโรงเรียนฝนตกหนัก รถติดเกือบตลอดสามสี่เดือนของเทอมต้น
ฝนตกรถติดเป็นภาวการณ์ที่คนทั้งเมืองจอดรถติดแหงก เผาผลาญน้ำมันกันจำนวนมหาศาล พล่าเวลาอยู่บนถนนสองหรือสามเท่าของวันปกติ นั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายในเรื่องน้ำมันและการเดินทางของแต่ละครอบครัว รวมกันทั้งประเทศเป็นเงินจำนวนมหาศาลในแต่ละปี
อันที่จริง บ้านเราเป็นเขตเมืองร้อนฝนชุก นับเป็นปกติ ถ้าฝนไม่ตกซิครับ ภาวะฝนแล้ง เดือดร้อนหนักยิ่งกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวไร่ชาวนา คนทำมาหากินภาคเกษตรกรรม
เพียงแต่ทุกวันนี้ฝนฟ้าอากาศแปรปรวนรุนแรงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ฝนฟ้าคะนองลมพายุมาทีไร พัดบ้านเรือนพังเสียหาย ป้ายโฆษณาข้างถนนในกทม.ก็เป็นอันตรายของคนเมืองหลวง เดินหรือขับรถอยู่ดีๆไม่รู้วันไหนจะแจ็คพ็อต ถูกป้ายหล่นลงมาทับตายหรือบาดเจ็บ เป็นภัยจากความชุ่ยของคนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พูดถึงความชุ่ยของมนุษย์แล้ว ภาวะโลกร้อน อากาศแปรปรวน ภัยธรรมชาติที่วิปริตหนักขึ้นทุกวัน เป็นผลจากฝีมือการทำลายของมนุษย์ทั้งสิ้น
มหันตภัยน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว ทำให้คนไทยวิตกกังวลกับฤดูฝนในปีนี้เป็นพิเศษ ปริมาณน้ำจำนวนมากที่ตกอยู่ทางภาคเหนือและภาคกลาง เป็นสิ่งหนึ่งที่คนกรุงเทพฯกลัว ว่าคงหนีไม่พ้นเรื่องน้ำท่วมอีกในปีนี้ ประสบการณ์ปีที่แล้วมันหนักหนาสาหัส จนหวาดผวาติดตาฝังใจกันไปอีกนาน
แม้ปีนี้ดูจากข่าวหลายๆกระแส และจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ชี้ไปในทางเดียวกันว่าปีนี้น้ำตามธรรมชาติ ไม่น่าจะท่วมมากเหมือนปีที่แล้ว
ภัยจากธรรมชาติ ว่าไปแล้ว ไม่หนักหนาเท่าภัยที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ บทเรียนจากปีที่ผ่านมา เป็นความล้มเหลวเต็มๆของรัฐบาล ในการแก้ปัญหา และการบริหารจัดการน้ำ เป็นภัยจากน้ำมือรัฐบาลซ้ำเติมภัยธรรมชาติ จนชาวบ้านต้องรับวิกฤตอย่างหนัก
ถ้าให้ธรรมชาติจัดการตัวมันเอง ปล่อยให้น้ำท่วม ให้น้ำไหลไปตามธรรมชาติ ไม่สะกัดกั้นเอาไว้ขวางทางน้ำ น้ำก็คงไม่ท่วมภาคกลางและกรุงเทพฯอย่างหนัก และยาวนานถึงสองเดือนกว่า
แต่ดูจากการทำงานของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ ชาวบ้านไม่เห็นวี่แววว่ารัฐบาลจะรับมือน้ำท่วมได้อย่างไร
จนถึงวันนี้ เดือนกันยายนและตุลาคมกำลังจะมาถึงแล้ว ถ้านับถอยหลังเป็นวัน ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน ราวห้าสิบกว่าวันเท่านั้น ก็จะถึงเวลาน้ำทางเหนือ ท่วมหลากลงมาภาคกลาง และกทม.
รัฐบาลแทบไม่ได้ทำอะไรให้ชาวบ้านเห็นว่าเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม ชาวบ้านหลายพื้นที่ต้องรวมกลุ่มกันช่วยตัวเอง วางแผนจัดเตรียมรับมือน้ำท่วม เพราะไม่เชื่อและไม่วางใจว่ารัฐบาลจะจัดการได้
ซ้ำร้ายชาวบ้านหวั่นวิตกว่า ด้วยน้ำมือรัฐบาลจะทำให้พวกเขาต้องพบกับน้ำท่วมหนักขึ้นกว่าธรรมชาติที่ควรจะเป็น เพราะการระบายน้ำลงไปเทให้ชาวบ้าน เพื่อรักษาปกป้องบางพื้นที่ที่รัฐบาลและพรรคพวกมีผลประโยชน์ เช่นโรงงานอุตสาหกรรม ที่ดินที่กว้านซื้อไว้ขึ้นโครงการอสังหาริมทรัพย์ แม้กระทั่งสนามบินสุวรรณภูมิที่หนองงูเห่าซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำของหนองน้ำธรรมชาติ
ความวิตกกังวลของชาวบ้านมาจากฐานความเป็นจริง ที่ผ่านการพิสูจน์ชี้ชัดมาแล้วจากการกระทำของรัฐบาลทั้งตอนน้ำท่วมปีที่แล้ว และหนึ่งปีที่ผ่านมา
ฝนที่ตกลงมาทุกวัน กำลังรวมเป็นมวลน้ำ แล้วไหลจากที่สูงลงมาสู่ที่ต่ำกว่า ในขณะที่คนในรัฐบาลได้แต่ออกมาพ่นน้ำลายรดหน้าจอโทรทัศน์ไปวันๆ
ฝนตกทีไร อดคิดถึงคำพังเพยคนโบราณไม่ได้ ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรมาพบกัน มันช่างเหมาะกับรัฐบาลชุดนี้เสียจริงๆ
ฝนตกทุกเย็น ขับรถกลับบ้านระมัดระวังกันด้วยนะครับ เป็นชาวบ้านอย่างเราก็ได้แต่ต้องดูแลตัวเองเตรียมรับมือกับน้ำท่วมปีนี้ คิดหวังพึ่งพวกคนจัญไรไม่ได้หรอกครับ
