xs
xsm
sm
md
lg

“กิตติรัตน์” ชูนโยบายเจ๋ง ชี้ท่องเที่ยว-อุตสาหกรรมไตรมาส 2 โตขึ้น - “ปู” ปลื้มเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กิตติรัตน์ ณ.ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง(แฟ้มภาพ)
รมต.คลังเชื่อไตรมาส 2 เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 4.2 สูงกว่าที่ประมาณไว้ ชี้ภาคครัวเรือน-การท่องเที่ยว-อุตสาหกรรมโตขึ้น อ้างนโยบายปรับสมดุลเศรษฐกิจเป็นผล ส่วนเกษตรกรรมยังติดลบ ชี้สภาพัฒน์คาดโตอีกร้อยละ 5.5-6 มั่นใจไตรมาส 3-4 ขยายตัวต่อ “ศันสนีย์” เผยนายกฯ พอใจภาพรวมเศรษฐกิจ

วันนี้ (21 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ในการประชุม ครม.ได้มีการนำเสนอรายงานภาวะเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ของปี 2555 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2555 โดยเศรษฐกิจมีการขยายตัวร้อยละ 4.2 ซึ่งจากการเทียบเคียงจากความคาดหวังของหน่วยงานด้านเศรษฐกิจทั่วๆ ไปประมาณร้อยละ 4.2 ซึ่งถือว่าอัตราขยายตัวมากกว่าที่หน่วยงานด้านเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้มีการประมาณการไว้ก่อนหน้านี้

นายกิตติรัตน์กล่าวว่า สำหรับปัจจัยสำคัญของการขยายมาจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนซึ่งการขยายตัวเติบโตดีขึ้นในอัตราร้อยละ 5.3 นอกจากนี้ในส่วนของการลงทุนภาคเอกชนได้มีขยายตัวถึงร้อยละ 11.8 โดยที่ในกลุ่มของธุรกิจบริการจากภาคการท่องเที่ยวก็มีการขยายตัวที่ดีมาก ซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 มีการขยายตัวอย่างก้าวกระโดด และอัตราการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในเมืองไทยมีอัตราสูงถึงร้อยละ 7.6 ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมซึ่งในไตรมาสก่อนยังอยู่ในภาวะที่หดตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2554 แต่ในไตรมาสที่ 2 ก็มีการเติบโตที่ดีขึ้นทำให้ยอดเฉลี่ยในครึ่งปีแรกกลับมาเป็นบวกในอัตราเกือบ 1 เปอร์เซ็นต์ หรือร้อยละ 0.9

นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ดังนั้นในส่วนที่เป็นประเด็นที่มีความกังวลว่ามีการเติบโตที่ช้า เช่น ภาคเกษตรกรรมที่เติบโตในอัตราเพียงร้อยละ 2.5 หรือภาคการส่งออกเราอยู่ในภาวะติดลบเนื่องจากการฟื้นตัวของภาคการผลิตยังไม่กลับมาเต็มที่ และยังมีการหดตัวอยู่ อย่างไรก็ตาม ในการเติบโตในกลุ่มของทางด้านอุตสาหกรรมทุกด้าน ซึ่งแน่นอนองค์ประกอบที่สำคัญก็สอดคล้องจากผลลัพธ์ของนโยบายรัฐบาลที่ได้ปรับสมดุลเศรษฐกิจภายในประเทศที่จะไม่ต้องพึ่งพาการส่งออกที่สูงและเรายังสามารถเติบโตได้ ดังนั้น สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก็คงยังคาดการณ์ในเรื่องของอัตราการขยายตัวของประเทศอยู่ที่ระหว่างร้อยละ 5.5-6 ส่วนในแง่การทำงานทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลก็ยังมุ่งมั่นดำเนินการทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจเติบโตไปกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้

นายกิตติรัตน์กล่าวยืนยันว่า ความเป็นไปได้ในเรื่องของการที่จะดูแลการบริหารงบประมาณของรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพและส่งเสริมการส่งเสริมการส่งออกเพื่อให้มีการฟื้นตัวในอัตราที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ตามศักยภาพ และจากการสำรวจผลการตอบสนองการจัดทำรายงานของหน่วยงานพยากรณ์ทางเศรษฐกิจภายหลังจากที่สภาพัฒน์ได้ทำรายงานนี้ออกมาแล้ว ซึ่งเป็นผลในทางบวกโดยทั่วไป เพราะฉะนั้นขอเรียนว่าเศรษฐกิจยังสามารถเติบโตอย่างมั่นคงและมีเสถียรภาพได้

นายกิตติรัตน์กล่าวว่า สำหรับเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 3-4 มั่นใจว่าการขยายตัวทางการส่งออกจะเกิดขึ้นทั้งสองไตรมาส เพราะที่ผ่านมาการที่ไม่ขยายตัวไม่ได้เป็นมาจากอุปสงค์ที่ชะลอ แต่ความสามารถในการผลิตของไทยเองที่มีปัญหา ดังนั้นในแง่ของการที่จะปรับเป้าการส่งออกลงมาบ้างก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าหนักใจอะไร เพราะเศรษฐกิจก็คงจะเติบโตได้ในอัตราที่ดี

ด้าน นางศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ได้มีการสอบถามถึงตัวเลขเศรษฐกิจเนื่องจากเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยในอนาคต โดยนายกรัฐมนตรีได้มองว่าภาพรวมและทิศทางของเศรษฐกิจของประเทศยังดูดีและรัฐบาลจะเร่งทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้ไทยอยู่ในสภาพเศรษฐกิจที่ได้ตั้งเป้าไว้
กำลังโหลดความคิดเห็น