กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานเท่าไร แมงมุมสีเทาตัวหนึ่ง อาศัยอยู่บนอาคารหลังใหญ่ แถวเพชรบุรีตัดใหม่ อาคารหนังนี้มีป้ายสัญลักษณ์สีน้ำเงินและแดง มีตัวหนังสือทื่อๆ แค่เพียงสองตัวเท่านั้น โลโก้นี้ใหญ่และเห็นชัดมาก
วันหนึ่ง เจ้าแมงมุมเทาได้รับโทรศัพท์ เสียงกริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊ง
ฮัลโหล..โหล..โหล...เสียงเพื่อนแมงมุมดำจากดูไบ ดังมาตามสาย
แมงมุมเพื่อนของมันตัวสีดำสนิท โทรหามันเพราะว่ามันเป็นเพื่อนซี้ที่มีบุญคุณ ได้ช่วยให้มันได้ออกไปจากประเทศไทย เพื่อไปดูกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศจีน
มันหนีลูกเมีย แอบกระโดดเกาะหลังชายคนหนึ่งที่มีหน้าด้านๆ เพราะหลงคิดว่าชายคนนี้จะกลับเมืองไทยในไม่กี่วัน แต่ที่ไหนได้ เขาไม่ยอมกลับเมืองไทยสักที ทำตัวเป็นสัมภเวสีร่อนเร่ไปทั่ว
หลังจากเจ้าแมงมุมดำระเหเร่ร่อนออกจากเมืองไทยและขาดการติดต่อไปนาน แต่ด้วยเทคโนโลยี 3G ที่ทันสมัย ทำให้แมงมุมสีดำหาทางโทรหาแมงมุมเทาได้สำเร็จ ทั้งสองเริ่มพูดคุยกันในเรื่องทั่วๆไป
หลังจากนั้น แมงมุมเทาลอยหน้าลอยตาเล่าเรื่องเมืองไทย “รู้เปล่า ตอนนี้เขาเปลี่ยนนายกฯกันแล้วนะ นายกฯคนใหม่ขาวสวย หมวยหน้าตาดี ชื่อเป็นอาหารทะเล ราคาแพง คนจนไม่มีตังค์ซื้อกินหรอก”
เจ้าแมงมุมตัวสีดำเกทับทันที “ รู้แล้วน่า แถมรู้เยอะกว่าเจ้าแมงมุมเทาเสียอีก ประเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าที่ดูไบ เค้าเห็นและได้ยินอะไรมาบ้าง”
แมงมุมสีดำเริ่มต้นเล่าเรื่อง ด้วยการบอกว่าชายหน้าด้านที่เขาเกาะหลังมานั้นพกโทรศัพท์เยอะมาก วางเรียงกันเป็นสิบเครื่อง แถมแต่ละเครื่องก็ดังกริ๊งกร๊างแทบจะตลอดเวลา
แมงมุมเทาแทรกขึ้นว่า “เค้าคงเป็นนักธุรกิจระดับโลก ธุรกิจเยอะแยะแน่เลย เค้าคงทำงานตลอด 24 ชั่วโมงต่อวันแน่เลย ขยันจัง คงรวยแน่ๆ”
แมงมุมดำรีบตอบรับ”ก็รวยนะสิ ใครมาหาเขาก็แจกเงิน บางคนได้เป็นกระเป๋า ในนั้นมีแต่เงิน บางคนใส่ในกล่องตู้เย็น บางคนมาตัวเปล่าด้วยซ้ำ แต่กลับไปพร้อมถุงขนม ข้างในมีเงินไม่ต่ำกว่าสองล้านเลยทีเดียว”
แมงมุมเทาที่อยู่เมืองไทยทำตาโต “กล่องขนมนั้นเป็นกล่องขนมอะไร กล่องใหญ่ไหม ?”
แมงมุมดำ “เป็นกล่องกระดาษธรรมดาๆนี่แหละ แต่ไม่ใช่ถุงเล็กๆอย่างขนมกร๊อบแกร๊บหรอกนะ นั่นมันเด็กๆ”
ขณะที่แมงมุมสองตัวกำลังสนทนากันอยู่นั้น แมงมุมสีดำบอกว่า “ชายหน้าด้านมีคนมาหา นั่งคุยกันนานสองนาน คนหนึ่งเป็นกระทาชายคนหูกางลักษณะแปลกๆ อีกคนเป็นชายตัวเตี้ยๆถือไม้เท้ากะย่องกะแย่ง ทั้งสามนั่งล้อมวงจิบไวน์กินข้าวต้มและหูฉลามกัน แหมเห็นแล้วอดเหวี่ยงไม่ได้ อาหารบนโต๊ะแสนจะไม่เข้ากันเล้ย”
แมงมุมดำทำหน้าคว่ำ ลดโทนเบาทำเสียงกระซิบกระซาบ “ เค้ากำลังจะปรับเปลี่ยนคณะผู้บริหารอะไรสักอย่าง สงสัยจะเป็นบริษัทของพวกเขา สามคนเถียงกันเรื่องจะให้ใครมานั่งตำแหน่งไหน ตรงนั้นดีตรงนี้ดี ก่อนจะหัวเราะกันทั้งวง แล้วก็ชนแก้วกัน”
แมงมุมเทาขมวดคิ้วถามแมงมุมดำ” นายคิดว่าเค้าทำธุรกิจอะไรกันเหรอ ไอ้คนกลุ่มนี้น่ะ ?”
แมงมุมดำ” ฉันว่าเค้าคงค้าขายกันแหละ”
แมงมุมดำทำหน้าอมภูมิ “เค้าคงขายของสำคัญๆ คงขายทุกอย่าง ขายทั้งเนื้อทั้งตัว ขายทั้งบ้านทั้งเมือง แล้วนี่นะ ชายหน้าด้านกำลังหาผู้ช่วยคนเลี้ยงควายคนใหม่ สงสัยจะทำนากัน หรืออาจจะมีธุรกิจด้านการเกษตรกันมั้ง คงเป็นธุรกิจใหม่ของพวกเค้าแหละ “
หลังจากกระแอมสองสามทีแล้ว ก็สาธยายต่อ “ ชายหูกางได้ถามชายหน้าด้านว่า แล้วคุณจะเอาใครมานั่งปลูกหญ้าให้ควายล่ะ?
ชายหน้าด้านมองไปที่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะ หนังสือพิมพ์หน้าดังกล่าวมีรูปของชายวัยกลางคนผูกเนคไทสีแดงด้วย ชายหน้าด้านจิ้มนิ้วชี้ลงไป บอกว่า “น่าจะคนนี้แหละ เหมาะสุด”
ชายหน้าด้านลุกขึ้นแล้วหยิบโทรศัพท์เครื่องหนึ่งบนโต๊ะก่อนจะโทรหาใครสักคน
ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ของผู้หญิงคนนึงบนตึกสูง ที่ทำการสำนักงาน ก๊วนการเมืองก๊วนหนึ่งก็ดังขึ้น แมงมุมเทาจึงบอกกับแมงมุมดำว่า ” นี่มีคนโทรกันอยู่ เราคงต้องคุยกันเบาๆ”
หญิงคนนั้นพูดโทรศัพท์ด้วยคำพูดไม่กี่คำเท่านั้น เจ้าแมงมุมเทาจับใจความได้ว่า “ไหวค่ะ ได้ค่ะพี่ ตามใจพี่เลยนะคะ เอาแบบนั้นเหรอคะ จะดีเหรอคะ คะตามนั้นค่ะ” ก่อนจะวางหูไป
แมงมุมดำที่กำลังเงี่ยหูฟังชายหน้าด้านพูดโทรศัพท์ จับความได้ว่า เขาคุยกับน้องสาว และบอกให้น้องสาวทำโน่นทำนี่ แต่ก็ไม่รู้ว่าให้น้องสาวทำอะไร
แมงมุมดำเริ่มหิวแล้วและวางแผนออกหากิน จึงขอวางหูจากแมงมุมเทาเพื่อนรัก แต่ก่อนจะวางหู แมงมุมทั้งสองตัวก็ได้ร่ำลากัน บอกกันว่าว่างๆจะโทรหาอีก แมงมุมดำโอดครวญเสียงเครือ คิดถึงบ้าน อยากกลับบ้านไปหาลูกเมียแล้วสิ
ข้างฝ่ายแมงมุมเทาปลอบใจเพื่อนบอกว่า “อดทนหน่อยนะ อีกหน่อยคงได้กลับมา ลูกเมียทางนี้สุขสบายดี พวกเราคุยทางไกลกันมานานแล้วนะ ไม่รู้ค่าโทรจะแพงไหม วันหลังไว้คุยกันใหม่”
แมงมุมเทานิ่ง สีหน้าครุ่นคิด เหม่อมองใยที่มันขึงไว้รอบตัวใหญ่ขึ้นๆทุกวัน มันชักรู้สึกว่า มนุษย์เดี๋ยวนี้ชักใยเก่งเหลือเกิน แผ่กว้างโยงใยซับซ้อน เก่งกว่าแมงมุมเสียอีก คิดแล้วก็ถอนหายใจยาว ก่อนจะวางสายไป
วันหนึ่ง เจ้าแมงมุมเทาได้รับโทรศัพท์ เสียงกริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊ง
ฮัลโหล..โหล..โหล...เสียงเพื่อนแมงมุมดำจากดูไบ ดังมาตามสาย
แมงมุมเพื่อนของมันตัวสีดำสนิท โทรหามันเพราะว่ามันเป็นเพื่อนซี้ที่มีบุญคุณ ได้ช่วยให้มันได้ออกไปจากประเทศไทย เพื่อไปดูกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศจีน
มันหนีลูกเมีย แอบกระโดดเกาะหลังชายคนหนึ่งที่มีหน้าด้านๆ เพราะหลงคิดว่าชายคนนี้จะกลับเมืองไทยในไม่กี่วัน แต่ที่ไหนได้ เขาไม่ยอมกลับเมืองไทยสักที ทำตัวเป็นสัมภเวสีร่อนเร่ไปทั่ว
หลังจากเจ้าแมงมุมดำระเหเร่ร่อนออกจากเมืองไทยและขาดการติดต่อไปนาน แต่ด้วยเทคโนโลยี 3G ที่ทันสมัย ทำให้แมงมุมสีดำหาทางโทรหาแมงมุมเทาได้สำเร็จ ทั้งสองเริ่มพูดคุยกันในเรื่องทั่วๆไป
หลังจากนั้น แมงมุมเทาลอยหน้าลอยตาเล่าเรื่องเมืองไทย “รู้เปล่า ตอนนี้เขาเปลี่ยนนายกฯกันแล้วนะ นายกฯคนใหม่ขาวสวย หมวยหน้าตาดี ชื่อเป็นอาหารทะเล ราคาแพง คนจนไม่มีตังค์ซื้อกินหรอก”
เจ้าแมงมุมตัวสีดำเกทับทันที “ รู้แล้วน่า แถมรู้เยอะกว่าเจ้าแมงมุมเทาเสียอีก ประเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าที่ดูไบ เค้าเห็นและได้ยินอะไรมาบ้าง”
แมงมุมสีดำเริ่มต้นเล่าเรื่อง ด้วยการบอกว่าชายหน้าด้านที่เขาเกาะหลังมานั้นพกโทรศัพท์เยอะมาก วางเรียงกันเป็นสิบเครื่อง แถมแต่ละเครื่องก็ดังกริ๊งกร๊างแทบจะตลอดเวลา
แมงมุมเทาแทรกขึ้นว่า “เค้าคงเป็นนักธุรกิจระดับโลก ธุรกิจเยอะแยะแน่เลย เค้าคงทำงานตลอด 24 ชั่วโมงต่อวันแน่เลย ขยันจัง คงรวยแน่ๆ”
แมงมุมดำรีบตอบรับ”ก็รวยนะสิ ใครมาหาเขาก็แจกเงิน บางคนได้เป็นกระเป๋า ในนั้นมีแต่เงิน บางคนใส่ในกล่องตู้เย็น บางคนมาตัวเปล่าด้วยซ้ำ แต่กลับไปพร้อมถุงขนม ข้างในมีเงินไม่ต่ำกว่าสองล้านเลยทีเดียว”
แมงมุมเทาที่อยู่เมืองไทยทำตาโต “กล่องขนมนั้นเป็นกล่องขนมอะไร กล่องใหญ่ไหม ?”
แมงมุมดำ “เป็นกล่องกระดาษธรรมดาๆนี่แหละ แต่ไม่ใช่ถุงเล็กๆอย่างขนมกร๊อบแกร๊บหรอกนะ นั่นมันเด็กๆ”
ขณะที่แมงมุมสองตัวกำลังสนทนากันอยู่นั้น แมงมุมสีดำบอกว่า “ชายหน้าด้านมีคนมาหา นั่งคุยกันนานสองนาน คนหนึ่งเป็นกระทาชายคนหูกางลักษณะแปลกๆ อีกคนเป็นชายตัวเตี้ยๆถือไม้เท้ากะย่องกะแย่ง ทั้งสามนั่งล้อมวงจิบไวน์กินข้าวต้มและหูฉลามกัน แหมเห็นแล้วอดเหวี่ยงไม่ได้ อาหารบนโต๊ะแสนจะไม่เข้ากันเล้ย”
แมงมุมดำทำหน้าคว่ำ ลดโทนเบาทำเสียงกระซิบกระซาบ “ เค้ากำลังจะปรับเปลี่ยนคณะผู้บริหารอะไรสักอย่าง สงสัยจะเป็นบริษัทของพวกเขา สามคนเถียงกันเรื่องจะให้ใครมานั่งตำแหน่งไหน ตรงนั้นดีตรงนี้ดี ก่อนจะหัวเราะกันทั้งวง แล้วก็ชนแก้วกัน”
แมงมุมเทาขมวดคิ้วถามแมงมุมดำ” นายคิดว่าเค้าทำธุรกิจอะไรกันเหรอ ไอ้คนกลุ่มนี้น่ะ ?”
แมงมุมดำ” ฉันว่าเค้าคงค้าขายกันแหละ”
แมงมุมดำทำหน้าอมภูมิ “เค้าคงขายของสำคัญๆ คงขายทุกอย่าง ขายทั้งเนื้อทั้งตัว ขายทั้งบ้านทั้งเมือง แล้วนี่นะ ชายหน้าด้านกำลังหาผู้ช่วยคนเลี้ยงควายคนใหม่ สงสัยจะทำนากัน หรืออาจจะมีธุรกิจด้านการเกษตรกันมั้ง คงเป็นธุรกิจใหม่ของพวกเค้าแหละ “
หลังจากกระแอมสองสามทีแล้ว ก็สาธยายต่อ “ ชายหูกางได้ถามชายหน้าด้านว่า แล้วคุณจะเอาใครมานั่งปลูกหญ้าให้ควายล่ะ?
ชายหน้าด้านมองไปที่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะ หนังสือพิมพ์หน้าดังกล่าวมีรูปของชายวัยกลางคนผูกเนคไทสีแดงด้วย ชายหน้าด้านจิ้มนิ้วชี้ลงไป บอกว่า “น่าจะคนนี้แหละ เหมาะสุด”
ชายหน้าด้านลุกขึ้นแล้วหยิบโทรศัพท์เครื่องหนึ่งบนโต๊ะก่อนจะโทรหาใครสักคน
ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ของผู้หญิงคนนึงบนตึกสูง ที่ทำการสำนักงาน ก๊วนการเมืองก๊วนหนึ่งก็ดังขึ้น แมงมุมเทาจึงบอกกับแมงมุมดำว่า ” นี่มีคนโทรกันอยู่ เราคงต้องคุยกันเบาๆ”
หญิงคนนั้นพูดโทรศัพท์ด้วยคำพูดไม่กี่คำเท่านั้น เจ้าแมงมุมเทาจับใจความได้ว่า “ไหวค่ะ ได้ค่ะพี่ ตามใจพี่เลยนะคะ เอาแบบนั้นเหรอคะ จะดีเหรอคะ คะตามนั้นค่ะ” ก่อนจะวางหูไป
แมงมุมดำที่กำลังเงี่ยหูฟังชายหน้าด้านพูดโทรศัพท์ จับความได้ว่า เขาคุยกับน้องสาว และบอกให้น้องสาวทำโน่นทำนี่ แต่ก็ไม่รู้ว่าให้น้องสาวทำอะไร
แมงมุมดำเริ่มหิวแล้วและวางแผนออกหากิน จึงขอวางหูจากแมงมุมเทาเพื่อนรัก แต่ก่อนจะวางหู แมงมุมทั้งสองตัวก็ได้ร่ำลากัน บอกกันว่าว่างๆจะโทรหาอีก แมงมุมดำโอดครวญเสียงเครือ คิดถึงบ้าน อยากกลับบ้านไปหาลูกเมียแล้วสิ
ข้างฝ่ายแมงมุมเทาปลอบใจเพื่อนบอกว่า “อดทนหน่อยนะ อีกหน่อยคงได้กลับมา ลูกเมียทางนี้สุขสบายดี พวกเราคุยทางไกลกันมานานแล้วนะ ไม่รู้ค่าโทรจะแพงไหม วันหลังไว้คุยกันใหม่”
แมงมุมเทานิ่ง สีหน้าครุ่นคิด เหม่อมองใยที่มันขึงไว้รอบตัวใหญ่ขึ้นๆทุกวัน มันชักรู้สึกว่า มนุษย์เดี๋ยวนี้ชักใยเก่งเหลือเกิน แผ่กว้างโยงใยซับซ้อน เก่งกว่าแมงมุมเสียอีก คิดแล้วก็ถอนหายใจยาว ก่อนจะวางสายไป