ก่อนอื่นต้องขอกล่าวคำว่าสวัสดีปีใหม่ครับ เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ ขอให้ทุกท่านมีความสุข เจอแต่เรื่องดีๆ และขอให้สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ
ช่วงวันหยุดยาวติดต่อกันถึงสี่วันเลย ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงขับรถหรือเดินทางกลับบ้าน หรือไปเที่ยวต่างจังหวัด บางท่านอาจจะเดินทางไปต่างประเทศ รวมไปถึงผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมบางท่านคงกำลังยุ่งกับการซ่อมแซมบ้านเรือน
สำหรับผมการพักผ่อนอย่างหนึ่งคือการนั่งดูหนังฟังเพลง อยู่กับบ้าน เพื่อไม่ต้องออกไปเผชิญหน้ากับรถติด อีกทั้งยังไม่ต้องไปแย่งกันกินแย่งกันใช้ในสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีคนนิยมแห่ไปกันมากๆ
นอกจากภาพยนตร์แล้ว ล่าสุดผมได้ซื้อแผ่นดีวีดี เดี่ยวไมโครโฟน ของ โน้ส อุดม มานั่งดู เพื่อต้อนรับปี พ.ศ. 2555 ให้มันเหมาะกับปี 555....กันเป็นพิเศษ
อีกทั้งในช่วงที่เปิดขายบัตรเดี่ยวไมโครโฟนครั้งที่ 9 ของ โน้ส อุดม ได้ข่าวว่าเพียงแค่การจองบัตรเข้าชม ก็คิวยาวและบัตรหมดไวมาก สุดท้ายเลยไม่ได้ดู
ก่อนที่จะพูดถึงเดี่ยวไมโครโฟนครั้งนี้ ผมก็ขอหยิบยกข้อมูลประวัติของผู้ชายจมูกโตๆ ที่ชอบขายเสียงหัวเราะคนนี้ ว่าเขามีที่มาที่ไปอย่างไร กว่าเขาจะมาเป็นนักพูด นักเอนเตอร์เทนอย่างที่เป็นอยู่ในวันนี้
อุดม แต้พานิช หรือ โน้ส เกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2511 ที่จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรของนางทองสุข อารีล้น กับนายสมจิตร์ แต้พานิช มีพี่น้อง 3 คน เป็นคนกลาง เคยศึกษาที่แผนกวิชาพาณิชยศิลป์ วิทยาลัยเพาะช่าง แต่ไม่สำเร็จการศึกษา
เขาก้าวเข้ามาในวงการแสดง ครั้งแรกไปสมัคร TRY OUT เป็นนักแสดงละครของศิษย์สะดือ ด้วยลูกตื๊อและบุคลิกที่ไม่เหมือนใคร จึงได้ร่วมงานกับศิษย์สะดือสมใจ ความรักของมาลัยในห้องไอซียู เป็นละครเรื่องแรกที่เล่น ได้รับบทเป็นคนแก่ในโรงพยาบาล
จบจากละครก็ก้าวเข้าสู่ถนนหนังสือ ในตำแหน่งฝ่ายศิลปของไปยาลใหญ่
ที่ไปยาลใหญ่ถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต สังคมในไปยาลใหญ่ล้วนเป็นนักอ่านตัวยงด้วยกันทั้งนั้น อุดมได้รับอิทธิพลนี้มา และได้มาค้นพบโลกของตัวเองอีกโลกหนึ่งที่นี่ คือโลกของการอ่าน
เขายังค้นพบความสามารถในการเขียนหนังสือ เมื่ออุดมอ่านหนังสือมากๆ จึงเกิดแรงใจอยากเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง
ครั้งหนึ่งในชีวิตกับแตงโมปั่น งานเขียนเรื่องแรกแจ้งเกิดในสนามไปยาลใหญ่นั่นเอง มี ศุ บุญเลี้ยงเป็นบรรณาธิการ หลังจากงานได้ตีพิมพ์ อุดม เริ่มรับผิดชอบคอลัมน์ต่างๆ ในไปยาลใหญ่ โดยใช้นามปากกาว่า "โน้สหน้ามึน หลานเจ๊นีขายผลไม้" ควบคู่ตำแหน่งฝ่ายศิลปของหนังสือ
ใครที่เป็นแฟนไปยาลใหญ่คงคุ้นเคยและติดอกติดใจกับเกมส์กวนๆ ในคอลัมน์ ‘สารภีมีดีให้’ อุดมเป็นสารภีในช่วงท้ายของหนังสือก่อนที่ไปยาลใหญ่จะปิดตัวเองลง
อุดมพกพาความสามารถของเขาเข้าสู่เส้นทางสายบันเทิง โดยเริ่มจากเป็นตัวประกอบในรายการวิก 07 ของ เจเอสแอล และเล่นเกมส์รายการจุดเดือด ผู้ใหญ่ในเจเอสแอลประทับใจลีลาจึงชักชวนมาร่วมงานด้วยในรายการ ยุทธการขยับเหงือก ซึ่งเป็นรายการ Comedian Show ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของช่อง 5 ในยุคนั้น จึงทำให้อุดมได้แจ้งเกิดในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัวในชื่อ เสนาฯ โน้ส
เขาเคยแสดงเป็นตัวปริศนาในภาพ VTR กับคุณศุภกร อุดมชัย หรือ "หมี ปลื้ม" ที่ใช้ชื่อว่า "ปริศนา อ้วน-ผอม" ในรายการชิงร้อยชิงล้าน ของบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ในช่วงปี 2533 - 2535 ทางช่อง 7
หลังประสบความสำเร็จในยุทธการขยับเหงือก อุดม แต้พานิช ได้ตัดสินใจแยกตัวออกมาจากรายการยุทธการขยับเหงือก และได้สร้างปรากฏการณ์ขึ้นในเมืองไทย นั่นคือ การพูดตลกคนเดียวบนเวที ทำให้คนไทย ได้รู้จักคำว่า Stand Up Comedy หรือ ในชื่อไทย เดี่ยวไมโครโฟน เป็นครั้งแรก
เขาประสบความสำเร็จโด่งดังทั้งชื่อเสียงและรายได้จากเดี่ยวไมโครโฟน นับจากเดี่ยวไมโครโฟนหนึ่ง ต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้ นับเป็นครั้งที่เก้าแล้วครับ
เดี่ยวไมโครโฟนครั้งที่ 9 ในชื่อตอนสนุก สันติ อหิงสา ได้ทำให้วงการทอล์คโชว์สั่นสะเทื่อนเพราะตั๋วขายหมดและจองเต็มตั้งแต่วันแรก ผู้คนมาต่อคิวหลายพันคนตั้งแต่เช้ามืด ถ้าใครจำกันได้เราจะเห็นภาพคนเบียดเสียด แน่นเต็มหน้าห้าง เต็มบันไดเลื่อนไปจนหน้าช่องขายตั๋ว
แต่ก็ต้องยอมรับละครับว่าชายคนนี้ใช้เวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ หาความรู้ ติดตามข่าวสารข้อมูล ทันสถานการณ์ เขาช่างสังเกต มีแง่คิดมุมมองที่คมคายสะใจ สร้างให้เขามีแฟนคลับมากมาย ชายคนนี้เป็นผู้จุดสำนวนและสร้างคำฮิตติดปากคนในสังคม เรียกว่าเป็นประเภทจุดไฟติดทีเดียว
มุขต่างๆจากผู้ชายคนนี้ มักจะถูกใช้เล่น ใช้แซวกันต่อๆไปข้ามปี บางคำหลายปีผ่านไปยังมีคนนำมาใช้ เช่น ผมเพื่อนตุ้ม อาร์ตตัวแม่ และล่าสุดกับคำเซราะกราว หรือ เซาะกราว (รัวลิ้นเวลาพูดด้วยนะครับเพื่อความบันเทิง) ตามภาษาคนจะเขียน เป็นคำ ภาษา เขมร เเปลว่า บ้านนอก
ในผลงานล่าสุดของเขา ผมชอบที่สุดต้องมุขคำขวัญกรุงเทพฯ ผมจะขอถอดถ้อยคำขำฮาของเขาออกมาเป็นตัวหนังสือ หยิบยกบางตอนมาให้ลองอ่านออกเสียง หรือถ้าใครได้ดูได้ชมแล้วก็ไม่ต้องอ่านส่วนนี้ก็ได้นะครับ
“กรุงเทพฯงามสง่า ตระการตาอุโมงค์ยักษ์ ใครประจักษ์แสนปราโมทย์ ต่างชาติโหวตเมืองน่าเที่ยว มาครั้งเดียวต้องสะดุด วิเศษสุดคือรถติด หนีควันพิษมีรถไฟฟ้า อนิจจาสั้นไปไหม? ไม่เป็นไรมีแท็กซี่ โบกกี่ทีพี่บอกส่งรถ ทีฝรั่งแม่งไปหมด
งามหมดจด2มาตรฐาน สุขสราญมีรถฟรี จากภาษีกูนี่หนอ ต้องยืนรอ 3 ชั่วโคตร แต่ห้ามโกรธเพราะมันฟรี ส่วน3G รอไม่นาน 3 รัฐบาลน่าจะเสร็จ iPhone7 คงจะออก แต่ไม่แคล้วช้ากว่าลาว
นางสาวไทยเริ่มขัดตา สวยงามกว่าสาวมอเตอร์โชว์ สวยไฮโซอยู่พารากอน สวยเงินผ่อนอยู่แพลตทินั่ม สวยคล้ำๆอยู่หน้าราม สวยพยายามอยู่ยันฮี
มากศักดิ์ศรีคือช่างกล ตีทุกคนไม่เลือกหน้า มีดระเบิดปืนปากกา ลูกหลงมาเราสุขสันต์ เมืองล่าฝันบ้านAF อยากเป็นเซเลปไป The Star
อยากดันดาราไปหาVT อยากโดนด่าฟรีไป Got talent อยากเห็นฝรั่งให้ไปข้าวสาร อยากแต่งงานให้ไปบางรัก แวะพาหุรัดซื้อผ้าสุดคุ้ม
ศูนย์ประชุมไปขายหนังสือ ขายมือถือไปมาบุญครอง ขายทองไปเยาวราช ขายชาติ...ไปสภา”
ครับ มุขตลกของโน้ส อุดม เขาสามารถในการใช้คำแขวะเข้าไปในซอกมุมของสังคม เศรษฐกิจ การเมืองไทยได้โดนจริงๆครับ
ชายจมูกโตคนนี้มีวิธีคิดที่แยบยล มีสีหน้าแววตาที่จริงใจ ลีลาชายร่างเล็กที่เคลื่อนไหวบนเวทีเรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลา เขาไม่ได้ขำไปวันๆแบบตลกบางคน เขาขำอย่างได้คิดและทำให้เราได้คิดตาม บางเรื่องที่เขาพูดที่เราขำมากๆ มักเป็นเรื่องใกล้ตัว เป็นเรื่องที่เราเจอในชีวิตประจำวัน คนฟังได้ขำฮาคลายเครียด
เอาเป็นว่า ขอให้พ่อแม่พี่น้องทุกท่านต้อนรับปีใหม่ด้วยเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข ให้สมกับปี 2..555 นะครับ