ฤดูข่าวการปรับครม.กำลังฮิตอยู่ตามหน้าหนังสือพิมพ์ ทำเอานายกรัฐมนตรีต้องออกมาปฏิเสธเป็นรายวัน และบอกกับผู้สื่อข่าวว่าตนไม่เครียดกับปัญหาต่างๆ และว่าปัญหาเป็นอุปสรรคที่ต้องหาทางแก้ไขและไม่มีสิ่งไหนที่แก้ไขไม่ได้เพียงแต่ต้องใช้เวลาเท่านั้น รวมทั้งต้องมองภาพปัญหาให้เป็นบวกไว้ก่อน ตนนั้นยังมีกำลังใจเพราะมีคนฝากความหวังไว้ ซึ่งทำให้ตนมีกำลังใจทำให้ต้องทำงานต่อไป
อย่างไรก็ตามกระแสการปรับครม.ก็มีมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะที่ถูกเพ่งเล็งมากที่สุดก็ที่กระทรวงศึกษาธิการมีข่าวว่านางบุญรื่น ศรีธเรศ รมช.ศึกษาฯ อาจต้องย้ายไปเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธว่าผู้ใหญ่ในพรรคยังไม่มีการพูดกันถึงเรื่องนี้แต่อย่างไร
ส่วนอีกกระแสหนึ่งคือข่าวที่เกิดขึ้นประจำในเรื่องการล็อบบี้ ก็คือมีข่าวในทำนองว่ามีส.ส.และแกนนำบางคนในพรรคเพื่อไทยเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี จนพ.ต.ท.ทักษิณอึดอัดใจ
แต่เรื่องนี้ก็มีส.ส.อีกพวกหนึ่งออกมาให้ข่าวว่า ส.ส.บางส่วนอาจจะบินไปพบพ.ต.ท.ทักษิณจริง แต่ไปเยี่ยมเยียนธรรมดาไม่ได้ไปเพื่อแสวงหาตำแหน่งหรือล็อบบี้เพื่อให้ได้ที่นั่งในการปรับคณะรัฐมนตรีแต่อย่างไร
สำหรับเรื่องของนางบุญรื่น ศรีธเรศ ซึ่งตกเป็นข่าวว่าจะถูกปรับออกจากตำแหน่งในกระทรวงศึกษานั้น เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่าที่กระทรวงตกเป็นข่าวนั้น ก็เพราะมีประเด็นที่พูดกันว่ามีปัญหาขัดแย้งกันระหว่างรมว.ศึกษาฯ กับรมช.สองคน แต่เธอเห็นว่า ไม่มีอะไร เพราะการที่รัฐมนตรีว่าการจะแบ่งงานแบบใหม่ โดยแบ่งงานเป็นภาคซึ่งมันไม่เคยมี ก็เพราะอยากให้มันมีมิติใหม่ทางการศึกษาให้มีการบูรณาการ ซึ่งตนเคยคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่ได้คุยเรื่องปรับครม. คุยเรื่องพัฒนาการศึกษาเพื่อรักษาระเบียบวินัยของนักเรียนโดยให้เอาเด็กคืนมาท่องสูตรคูณหรืออาขยานว่าจะดีหรือไม่
นอกจากนั้นฝ่ายค้านมาวิจารณ์ว่านายกฯ ไม่มีอำนาจในการปรับครม.นั้น ตนเห็นว่า ท่านนายกฯ มีอำนาจที่แท้จริงและเกิดมาจากตัวท่านอย่างแท้จริงไม่ใช่เป็นหุ่นเชิดของใครตามที่ฝ่ายค้านวิจารณ์
ที่พรรคฝ่ายค้าน นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงการเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณที่สิงคโปร์ว่า เดินทางไปกับนายวราเทพ รัตนากร อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยเพื่อเยี่ยมพี่ชาย ไม่มีอะไรมากกว่านั้น และไม่ได้คุยอะไรกันมากมาย เพราะมีเพื่อนฝูงรอพบอยู่มากมาย ไม่ได้มีการหารือเรื่องการปรับครม.เพราะพ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าอยู่ไกลข้อมูลมาก ไม่ค่อยรู้เรื่อง ส่วนเรื่องพ.ต.ท.ทักษิณจะกลับเมืองไทยนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ไปอยู่เมืองนอก เป็นคนไทย เป็นธรรมดา ที่ใครออกจากบ้านไปก็อยากกลับบ้าน ต้องคิดถึงครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงบ้างเป็นธรรมดา แต่ไม่ได้บอกว่าจะกลับมาเมืองไทยเร็วที่สุดเมื่อไร
เมื่อถูกถามว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีถูกวิจารณ์ว่าเป็นเพียงนายกฯ หุ่นเชิด ไม่มีอำนาจ นายกฯ ตัวจริงคือพ.ต.ท.ทักษิณ นางเยาวภา ตอบว่าให้รอดูน.ส.ยิ่งลักษณ์จะมีผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ประชาชนเห็น ท่านเป็นตัวของท่านเอง ประสบการณ์ในอดีตก็เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว
ส่วนที่มักจะกล่าวหากันว่าเมื่อมีปัญหาครั้งใด นายกฯ มักจะใช้โทรศัพท์สายตรงไปปรึกษากับพ.ต.ท.ทักษิณ นางเยาวภาก็กล่าวว่าเรื่องนี้ต้องขอความเป็นธรรมด้วย เพราะทั้งสองคนเคยทำงานร่วมกันมา และเป็นพี่น้องกันอาจจะโทร.ถามวิธีแก้ปัญหา ไม่ใช่ฟังคำสั่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องฟังใคร
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเตรียมปรับครม.ว่า ในฐานะคนนอกมองว่าเร็วเกินไปที่จะปรับครม. เพราะรัฐบาลเพิ่งจะทำงานได้แค่ ๓ ถึง ๔ เดือนเท่านั้น และเกิดปัญหาอุทกภัยมาสกัดนโยบายของรัฐบาลที่จะต้องทำเสียก่อน รัฐบาลต้องหันไปแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนก่อน รัฐบาลได้พยายามทำงานซึ่งเข้าตาประชาชนบ้างไม่เข้าตาบ้าง หลังน้ำลด นโยบายจะเริ่มเดินหน้าพิสูจน์ผลงานของรัฐบาลสักปีหนึ่ง เมื่อถึงเวลานั้น ถ้ารัฐบาลไม่มีผลงานหรือรัฐบาลทำงานไม่เข้าท่า ก็ต้องพิจารณาปรับครม.กัน
ครับ จะเห็นได้ว่า สูตรการปรับคณะรัฐมนตรียังไม่มีอะไรที่ชัดเจน และที่มีข่าวออกมา ก็เนื่องจากมีปัจจัยมาจากหลังน้ำลด ก็มีข่าวตามมาว่ากระทรวงเกษตรซึ่งเป็นกระทรวงที่เกี่ยวกับนโยบายน้ำจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเป็นลำดับแรก และมีข่าวออกมาว่าทางพรรคเพื่อไทยขอดูแลกระทรวงนี้เอง เพราะเชื่อว่าที่ผ่านมาวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการบริหารน้ำของกระทรวงเกษตรฯ ทำได้ไม่ดีพอและมีปัญหาเกี่ยวกับการจัดการเรื่องน้ำในเขื่อนต่างๆ ที่ทำให้น้ำในเขื่อนถูกเก็บกักอย่างไม่ถูกต้องหรือได้จังหวะ
คาดว่าเรื่องราวการปรับครม.จะยังอยู่ในกระแสไปอีกพักหนึ่ง และคาดว่าจะต้องเกี่ยวโยงไปถึงพ.ต.ท.ทักษิณอีกเช่นเคย เพราะที่ผ่านมามีรัฐมนตรีจำนวนหนึ่งได้ขึ้นชื่อว่าได้เป็นรัฐมนตรีในโควต้าของพ.ต.ท.ทักษิณ และเมื่อเป็นแล้วก็ได้เข้ามาจัดการปัญหาให้กับพ.ต.ท.ทักษิณด้วยในหลายๆ กรณี เช่นในกระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามกระแสการปรับครม.ก็มีมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะที่ถูกเพ่งเล็งมากที่สุดก็ที่กระทรวงศึกษาธิการมีข่าวว่านางบุญรื่น ศรีธเรศ รมช.ศึกษาฯ อาจต้องย้ายไปเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธว่าผู้ใหญ่ในพรรคยังไม่มีการพูดกันถึงเรื่องนี้แต่อย่างไร
ส่วนอีกกระแสหนึ่งคือข่าวที่เกิดขึ้นประจำในเรื่องการล็อบบี้ ก็คือมีข่าวในทำนองว่ามีส.ส.และแกนนำบางคนในพรรคเพื่อไทยเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี จนพ.ต.ท.ทักษิณอึดอัดใจ
แต่เรื่องนี้ก็มีส.ส.อีกพวกหนึ่งออกมาให้ข่าวว่า ส.ส.บางส่วนอาจจะบินไปพบพ.ต.ท.ทักษิณจริง แต่ไปเยี่ยมเยียนธรรมดาไม่ได้ไปเพื่อแสวงหาตำแหน่งหรือล็อบบี้เพื่อให้ได้ที่นั่งในการปรับคณะรัฐมนตรีแต่อย่างไร
สำหรับเรื่องของนางบุญรื่น ศรีธเรศ ซึ่งตกเป็นข่าวว่าจะถูกปรับออกจากตำแหน่งในกระทรวงศึกษานั้น เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่าที่กระทรวงตกเป็นข่าวนั้น ก็เพราะมีประเด็นที่พูดกันว่ามีปัญหาขัดแย้งกันระหว่างรมว.ศึกษาฯ กับรมช.สองคน แต่เธอเห็นว่า ไม่มีอะไร เพราะการที่รัฐมนตรีว่าการจะแบ่งงานแบบใหม่ โดยแบ่งงานเป็นภาคซึ่งมันไม่เคยมี ก็เพราะอยากให้มันมีมิติใหม่ทางการศึกษาให้มีการบูรณาการ ซึ่งตนเคยคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่ได้คุยเรื่องปรับครม. คุยเรื่องพัฒนาการศึกษาเพื่อรักษาระเบียบวินัยของนักเรียนโดยให้เอาเด็กคืนมาท่องสูตรคูณหรืออาขยานว่าจะดีหรือไม่
นอกจากนั้นฝ่ายค้านมาวิจารณ์ว่านายกฯ ไม่มีอำนาจในการปรับครม.นั้น ตนเห็นว่า ท่านนายกฯ มีอำนาจที่แท้จริงและเกิดมาจากตัวท่านอย่างแท้จริงไม่ใช่เป็นหุ่นเชิดของใครตามที่ฝ่ายค้านวิจารณ์
ที่พรรคฝ่ายค้าน นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงการเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณที่สิงคโปร์ว่า เดินทางไปกับนายวราเทพ รัตนากร อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยเพื่อเยี่ยมพี่ชาย ไม่มีอะไรมากกว่านั้น และไม่ได้คุยอะไรกันมากมาย เพราะมีเพื่อนฝูงรอพบอยู่มากมาย ไม่ได้มีการหารือเรื่องการปรับครม.เพราะพ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าอยู่ไกลข้อมูลมาก ไม่ค่อยรู้เรื่อง ส่วนเรื่องพ.ต.ท.ทักษิณจะกลับเมืองไทยนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ไปอยู่เมืองนอก เป็นคนไทย เป็นธรรมดา ที่ใครออกจากบ้านไปก็อยากกลับบ้าน ต้องคิดถึงครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงบ้างเป็นธรรมดา แต่ไม่ได้บอกว่าจะกลับมาเมืองไทยเร็วที่สุดเมื่อไร
เมื่อถูกถามว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีถูกวิจารณ์ว่าเป็นเพียงนายกฯ หุ่นเชิด ไม่มีอำนาจ นายกฯ ตัวจริงคือพ.ต.ท.ทักษิณ นางเยาวภา ตอบว่าให้รอดูน.ส.ยิ่งลักษณ์จะมีผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ประชาชนเห็น ท่านเป็นตัวของท่านเอง ประสบการณ์ในอดีตก็เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว
ส่วนที่มักจะกล่าวหากันว่าเมื่อมีปัญหาครั้งใด นายกฯ มักจะใช้โทรศัพท์สายตรงไปปรึกษากับพ.ต.ท.ทักษิณ นางเยาวภาก็กล่าวว่าเรื่องนี้ต้องขอความเป็นธรรมด้วย เพราะทั้งสองคนเคยทำงานร่วมกันมา และเป็นพี่น้องกันอาจจะโทร.ถามวิธีแก้ปัญหา ไม่ใช่ฟังคำสั่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องฟังใคร
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเตรียมปรับครม.ว่า ในฐานะคนนอกมองว่าเร็วเกินไปที่จะปรับครม. เพราะรัฐบาลเพิ่งจะทำงานได้แค่ ๓ ถึง ๔ เดือนเท่านั้น และเกิดปัญหาอุทกภัยมาสกัดนโยบายของรัฐบาลที่จะต้องทำเสียก่อน รัฐบาลต้องหันไปแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนก่อน รัฐบาลได้พยายามทำงานซึ่งเข้าตาประชาชนบ้างไม่เข้าตาบ้าง หลังน้ำลด นโยบายจะเริ่มเดินหน้าพิสูจน์ผลงานของรัฐบาลสักปีหนึ่ง เมื่อถึงเวลานั้น ถ้ารัฐบาลไม่มีผลงานหรือรัฐบาลทำงานไม่เข้าท่า ก็ต้องพิจารณาปรับครม.กัน
ครับ จะเห็นได้ว่า สูตรการปรับคณะรัฐมนตรียังไม่มีอะไรที่ชัดเจน และที่มีข่าวออกมา ก็เนื่องจากมีปัจจัยมาจากหลังน้ำลด ก็มีข่าวตามมาว่ากระทรวงเกษตรซึ่งเป็นกระทรวงที่เกี่ยวกับนโยบายน้ำจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเป็นลำดับแรก และมีข่าวออกมาว่าทางพรรคเพื่อไทยขอดูแลกระทรวงนี้เอง เพราะเชื่อว่าที่ผ่านมาวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการบริหารน้ำของกระทรวงเกษตรฯ ทำได้ไม่ดีพอและมีปัญหาเกี่ยวกับการจัดการเรื่องน้ำในเขื่อนต่างๆ ที่ทำให้น้ำในเขื่อนถูกเก็บกักอย่างไม่ถูกต้องหรือได้จังหวะ
คาดว่าเรื่องราวการปรับครม.จะยังอยู่ในกระแสไปอีกพักหนึ่ง และคาดว่าจะต้องเกี่ยวโยงไปถึงพ.ต.ท.ทักษิณอีกเช่นเคย เพราะที่ผ่านมามีรัฐมนตรีจำนวนหนึ่งได้ขึ้นชื่อว่าได้เป็นรัฐมนตรีในโควต้าของพ.ต.ท.ทักษิณ และเมื่อเป็นแล้วก็ได้เข้ามาจัดการปัญหาให้กับพ.ต.ท.ทักษิณด้วยในหลายๆ กรณี เช่นในกระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น
