ที่จั่วหัวเรื่องแบบนี้ก็มันคือนิยามเบ็ดเสร็จของกระบวนการเลือกตั้งไทย นับตั้งแต่ประกาศยุบสภา กำหนดวันเลือกตั้ง วันรับสมัครและประกาศรายชื่อ ส.ส. ประกาศพรรคการเมืองใหม่ๆ ไปจนถึงเริ่มหาเสียง มีการซื้อขายเสียงและกลโกงหลากหลายชนิดถูกนำมาใช้จนถึงวันเลือกตั้ง ประกาศผล ได้ส.ส.ไปจนถึงประกาศว่าพรรคใดรวมกับพรรคใดมาเป็นรัฐบาลเป็นอันจบกระบวนการครับ
นี่แหละครับ วัฏฏะการเมืองของไทยแบบอภิมหาอมตะนิรันดรกาลอย่างแท้จริง
มันเป็นวงจรอุบาทว์ที่เราเห็นแก้ไขอะไรก็ไม่ได้
แต่ต้องทนอยู่กับกระบวนการเลือกตั้งและมีรัฐบาลเขี้ยวลากดินอยู่เสมอ
เลือกตั้งคราวนี้ก็เช่นกัน ตั้งแต่ไก่โห่ก็ต้อนรับกันด้วยการไล่ยิงกันแล้ว นัยว่าเป็นเรื่องการเมืองแย่งตำแหน่ง ส.ส.ปากน้ำ คนถูกยิงคือ อดีต ส.ส.นายประชา ประสพดี โดนปืนเข้าไปที่สะบักซ้ายตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นเรื่องการเมืองจากมือปืนรับจ้างมืออาชีพ
นสพ.และตำรวจให้ความเห็นว่า เรื่องความรุนแรงขนาดสั่งฆ่ากันนี้ ไม่น่าจะมีแค่จังหวัดเดียว แต่น่าจะมีถึง ๔ จังหวัดในขณะนี้
เลือกตั้งแบบนองเลือดนี้ เอาชีวิตเป็นเดิมพันส่อให้เห็นว่า การเมืองเป็นเรื่องของได้เสียผลประโยชน์ที่มีมากกว่าผลประโยชน์ทางการเมืองเสียแล้ว และน่าจะเป็นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ธุรกิจทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติด้วย
กรณีนายประชานี้ เขาบอกว่าที่ถูกยิงนี้มีปัจจัยมาจากการเปลี่ยนระบบเลือกตั้งเป็นเขตเดียวเบอร์เดียวด้วย มันทำให้ง่ายต่อการลอบสังหาร ตัวเขารู้ดีว่าใครเป็นคนผู้บงการไปว่าจ้างมือปืนมาลอบฆ่าตัวเขา อีกทั้งตัวเขาเองก็เคยถูกลูกนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามขู่ฆ่ามาก่อนหน้านี้แล้ว
นี่แหละครับการเมืองที่ไม่เข้าใครออกใคร
มันเป็นภาพสะท้อนให้เห็นว่า การเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะมีความรุนแรงเพราะปัจจัยจากการเปลี่ยนระบบเลือกตั้งมีส่วน เหมือนที่นายประชากล่าวไว้หรือไม่ หรือว่ามันยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น การแข่งขันคราวนี้สูงมากและเดิมพันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยที่สูสีกันมาก ช่วยให้อัตราความรุนแรงในการหาเสียงทวีความเป็นไปได้ว่าสองฝ่ายจะใช้กลยุทธทุกรูปแบบโค่นล้มซึ่งกันและกัน
แต่ยังมีปัจจัยอีกอย่างหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้คือตลาดทุนครับ
การเลือกตั้งครั้งนี้ หุ้นทุกตัวที่เกี่ยวพันกับนักการเมืองหรือกลุ่มหรือพรรคการเมืองล้วนส่งผลต่อตลาดหุ้นทั้งนั้น
โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยถูกจับตาเป็นพิเศษเพราะกระแสพรรคนี้มาแรง ทำให้หุ้นเอสซี แอสเสทซึ่งเครือชินวัตรถือหุ้นใหญ่และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นปาร์ตี้ลิสต์ หมายเลข ๑ และเป็นผู้บริหารด้วย หุ้นนี้ปิดตลาดในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นเกือบ ๙ เปอร์เซ็นต์ หุ้นเอ็มลิงค์ของตระกูลวงศ์สวัสดิ์เพิ่มขึ้น ๖.๖ เปอร์เซ็นต์
หุ้นที่เกี่ยวกับภูมิใจไทย เช่น เอสทีพีแอนไอ ของตระกูลชาญวีรกุล ประตัวเพิ่มขึ้น ๕.๘ เปอร์เซ็นต์ ชิโนโทย ของตระกูลชาญวีรกุล ปรับตัวขึ้นอีก ๓.๖๕ เปอร์เซ็นต์
สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนานั้น บมจ.เหมราชที่มีสมาชิกพรรคตระกูลหอรุ่งเรือง หุ้นเพิ่มขึ้น ๑๕ จุดมูลค่าซื้อขายกัน ๔๖.๕ ล้านบาท
ครับ ที่กล่าวมาพอให้เห็นคร่าวๆนี้ คือหุ้นการเมืองในตลาดทุนไทยที่ได้รับผลกระทบจากการเลือกตั้งครับ
เมื่อการเมืองขยับ หุ้นก็ขยับตัวตามครับและจะเป็นไปอย่างนี้จนการเมืองลงตัวครับ หมายความว่าจนกว่าจะรู้ตัวฟอร์มรัฐบาลรู้ตัวว่าใครจะมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใดนั่นแหละครับ
รู้ๆ กันอยู่ว่าเมื่อมีข่าวดีเกี่ยวกับนักการเมืองใดหรือพรรคการเมืองไหน ก็จะทำให้หุ้นที่เกี่ยวพันด้วยขยับตัวดีตามไปด้วย
นี่คือความสัมพันธ์ที่ชัดเจน และเราคาดว่าการเคลื่อนไหวในตลาดทุน น่าจะส่งผลให้มีการระดมทุนเพื่อใช้ในการเลือกตั้งด้วย
นักวิชาการด้านการลงทุนชี้ว่าการเลือกตั้งเป็นการสร้างเรื่องราว (Story) เพื่อให้สามารถดึงนักลงทุนให้เข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้นได้
และนักวิชาการด้านตลาดทุนก็ยืนยันด้ายว่าทุนที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองและกลุ่มการเมือง ทำให้หุ้นเหล่านี้มีโอกาสให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์จากการเลือกตั้งได้ โดยเจ้าของทุนอาจไปได้ตำแหน่งรัฐมนตรีที่เอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจของบริษัทในตลาด รวมทั้งหลายธุรกิจอาจมีโอกาสรับสัมปทานในโครงการของรัฐหากขั้วการเมืองเข้าถูกทางจากการเป็นรัฐบาลของนักการเมืองนั้นๆ
นี่แหละครับ คือการได้ประโยชน์ระหว่างตลาดทุนกับนักการเมืองที่แฝงอยู่อย่างที่เราคาดไม่ถึง
มันทำให้เราเห็นว่า สิ่งที่ชาวบ้านได้รับจากส.ส.ในพื้นที่นั้นมันน้อยมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่ส.ส.จะได้รับเมื่อพวกเขาอยู่ในฐานะการเป็น ส.ส.ของพรรคที่เป็นรัฐบาลหรือมีตำแหน่งอยู่ในรัฐบาล
ส.ส.เหล่านี้หากไม่ได้เป็นฝ่ายรัฐบาลก็จะได้มากกว่า อย่างน้อยก็รู้ข้อมูลมากกว่า และใช้ข้อมูลเหล่านั้นไปหารายได้ ทั้งในตลาดทุนหรือในการทำธุรกิจค้ากำไรต่างๆ เหนือกว่าบุคคลทั่วๆ ไป
อย่างนี้จะไม่ให้เรียกว่าระบบนี้เป็นวัฏฏะหรือวงจรชั่วร้ายได้อย่างไร เบื้องบก็ผลประโยชน์ฆ่ากันตาย ซื้อเสียงขายเสียง ใช้การโกงทุกรูปแบบเพื่อเป็นส.ส. ใช้โอกาสในตลาดทุน ซื้อขายหุ้นมาระดมทุน
ระบบที่ว่านี้จึงเรียกว่า อภิมหาอมตะนิรันดรกาล นั่นแหละครับถูกต้องที่สุดแล้ว
มันเป็นอมตะสำหรับการเมืองไทยจริงๆ
นี่แหละครับ วัฏฏะการเมืองของไทยแบบอภิมหาอมตะนิรันดรกาลอย่างแท้จริง
มันเป็นวงจรอุบาทว์ที่เราเห็นแก้ไขอะไรก็ไม่ได้
แต่ต้องทนอยู่กับกระบวนการเลือกตั้งและมีรัฐบาลเขี้ยวลากดินอยู่เสมอ
เลือกตั้งคราวนี้ก็เช่นกัน ตั้งแต่ไก่โห่ก็ต้อนรับกันด้วยการไล่ยิงกันแล้ว นัยว่าเป็นเรื่องการเมืองแย่งตำแหน่ง ส.ส.ปากน้ำ คนถูกยิงคือ อดีต ส.ส.นายประชา ประสพดี โดนปืนเข้าไปที่สะบักซ้ายตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นเรื่องการเมืองจากมือปืนรับจ้างมืออาชีพ
นสพ.และตำรวจให้ความเห็นว่า เรื่องความรุนแรงขนาดสั่งฆ่ากันนี้ ไม่น่าจะมีแค่จังหวัดเดียว แต่น่าจะมีถึง ๔ จังหวัดในขณะนี้
เลือกตั้งแบบนองเลือดนี้ เอาชีวิตเป็นเดิมพันส่อให้เห็นว่า การเมืองเป็นเรื่องของได้เสียผลประโยชน์ที่มีมากกว่าผลประโยชน์ทางการเมืองเสียแล้ว และน่าจะเป็นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ธุรกิจทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติด้วย
กรณีนายประชานี้ เขาบอกว่าที่ถูกยิงนี้มีปัจจัยมาจากการเปลี่ยนระบบเลือกตั้งเป็นเขตเดียวเบอร์เดียวด้วย มันทำให้ง่ายต่อการลอบสังหาร ตัวเขารู้ดีว่าใครเป็นคนผู้บงการไปว่าจ้างมือปืนมาลอบฆ่าตัวเขา อีกทั้งตัวเขาเองก็เคยถูกลูกนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามขู่ฆ่ามาก่อนหน้านี้แล้ว
นี่แหละครับการเมืองที่ไม่เข้าใครออกใคร
มันเป็นภาพสะท้อนให้เห็นว่า การเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะมีความรุนแรงเพราะปัจจัยจากการเปลี่ยนระบบเลือกตั้งมีส่วน เหมือนที่นายประชากล่าวไว้หรือไม่ หรือว่ามันยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น การแข่งขันคราวนี้สูงมากและเดิมพันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยที่สูสีกันมาก ช่วยให้อัตราความรุนแรงในการหาเสียงทวีความเป็นไปได้ว่าสองฝ่ายจะใช้กลยุทธทุกรูปแบบโค่นล้มซึ่งกันและกัน
แต่ยังมีปัจจัยอีกอย่างหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้คือตลาดทุนครับ
การเลือกตั้งครั้งนี้ หุ้นทุกตัวที่เกี่ยวพันกับนักการเมืองหรือกลุ่มหรือพรรคการเมืองล้วนส่งผลต่อตลาดหุ้นทั้งนั้น
โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยถูกจับตาเป็นพิเศษเพราะกระแสพรรคนี้มาแรง ทำให้หุ้นเอสซี แอสเสทซึ่งเครือชินวัตรถือหุ้นใหญ่และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นปาร์ตี้ลิสต์ หมายเลข ๑ และเป็นผู้บริหารด้วย หุ้นนี้ปิดตลาดในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นเกือบ ๙ เปอร์เซ็นต์ หุ้นเอ็มลิงค์ของตระกูลวงศ์สวัสดิ์เพิ่มขึ้น ๖.๖ เปอร์เซ็นต์
หุ้นที่เกี่ยวกับภูมิใจไทย เช่น เอสทีพีแอนไอ ของตระกูลชาญวีรกุล ประตัวเพิ่มขึ้น ๕.๘ เปอร์เซ็นต์ ชิโนโทย ของตระกูลชาญวีรกุล ปรับตัวขึ้นอีก ๓.๖๕ เปอร์เซ็นต์
สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนานั้น บมจ.เหมราชที่มีสมาชิกพรรคตระกูลหอรุ่งเรือง หุ้นเพิ่มขึ้น ๑๕ จุดมูลค่าซื้อขายกัน ๔๖.๕ ล้านบาท
ครับ ที่กล่าวมาพอให้เห็นคร่าวๆนี้ คือหุ้นการเมืองในตลาดทุนไทยที่ได้รับผลกระทบจากการเลือกตั้งครับ
เมื่อการเมืองขยับ หุ้นก็ขยับตัวตามครับและจะเป็นไปอย่างนี้จนการเมืองลงตัวครับ หมายความว่าจนกว่าจะรู้ตัวฟอร์มรัฐบาลรู้ตัวว่าใครจะมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใดนั่นแหละครับ
รู้ๆ กันอยู่ว่าเมื่อมีข่าวดีเกี่ยวกับนักการเมืองใดหรือพรรคการเมืองไหน ก็จะทำให้หุ้นที่เกี่ยวพันด้วยขยับตัวดีตามไปด้วย
นี่คือความสัมพันธ์ที่ชัดเจน และเราคาดว่าการเคลื่อนไหวในตลาดทุน น่าจะส่งผลให้มีการระดมทุนเพื่อใช้ในการเลือกตั้งด้วย
นักวิชาการด้านการลงทุนชี้ว่าการเลือกตั้งเป็นการสร้างเรื่องราว (Story) เพื่อให้สามารถดึงนักลงทุนให้เข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้นได้
และนักวิชาการด้านตลาดทุนก็ยืนยันด้ายว่าทุนที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองและกลุ่มการเมือง ทำให้หุ้นเหล่านี้มีโอกาสให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์จากการเลือกตั้งได้ โดยเจ้าของทุนอาจไปได้ตำแหน่งรัฐมนตรีที่เอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจของบริษัทในตลาด รวมทั้งหลายธุรกิจอาจมีโอกาสรับสัมปทานในโครงการของรัฐหากขั้วการเมืองเข้าถูกทางจากการเป็นรัฐบาลของนักการเมืองนั้นๆ
นี่แหละครับ คือการได้ประโยชน์ระหว่างตลาดทุนกับนักการเมืองที่แฝงอยู่อย่างที่เราคาดไม่ถึง
มันทำให้เราเห็นว่า สิ่งที่ชาวบ้านได้รับจากส.ส.ในพื้นที่นั้นมันน้อยมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่ส.ส.จะได้รับเมื่อพวกเขาอยู่ในฐานะการเป็น ส.ส.ของพรรคที่เป็นรัฐบาลหรือมีตำแหน่งอยู่ในรัฐบาล
ส.ส.เหล่านี้หากไม่ได้เป็นฝ่ายรัฐบาลก็จะได้มากกว่า อย่างน้อยก็รู้ข้อมูลมากกว่า และใช้ข้อมูลเหล่านั้นไปหารายได้ ทั้งในตลาดทุนหรือในการทำธุรกิจค้ากำไรต่างๆ เหนือกว่าบุคคลทั่วๆ ไป
อย่างนี้จะไม่ให้เรียกว่าระบบนี้เป็นวัฏฏะหรือวงจรชั่วร้ายได้อย่างไร เบื้องบก็ผลประโยชน์ฆ่ากันตาย ซื้อเสียงขายเสียง ใช้การโกงทุกรูปแบบเพื่อเป็นส.ส. ใช้โอกาสในตลาดทุน ซื้อขายหุ้นมาระดมทุน
ระบบที่ว่านี้จึงเรียกว่า อภิมหาอมตะนิรันดรกาล นั่นแหละครับถูกต้องที่สุดแล้ว
มันเป็นอมตะสำหรับการเมืองไทยจริงๆ