สวัสดีครับท่านผู้อ่าน หลังจากที่ไปเขียนแจมในคอลัมน์ประจำคุณพ่ออยู่ได้ครั้งหนึ่ง ก็ถูกพี่ๆ หลายคนในออฟฟิศยุให้มีคอลัมน์เป็นของตัวเอง ในฐานะคนหนุ่มสาวคนหนึ่งใน พ.ศ. นี้ ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งนะครับ ด้วยความมุ่งหวังว่า พื้นที่เล็กๆ มุมนี้ จะเป็นที่แสดงความคิดเห็น หลากความคิดหลายมุมมอง ในประเด็นต่างๆ ของบ้านเมือง
ต่อไปนี้เราจะเจอกันทุกวันจันทร์ทางเว็บไซต์เป็นหลักนะครับ สำหรับวันนี้ ประเด็นร้อนที่อดจะพูดถึงไม่ได้ คือ เรื่องคดียึดทรัพย์อดีตนายกทักษิณนะครับ
สัปดาห์นี้นับชั่วโมงถอยหลัง ทุกสายตาจับจ้องไปที่คดียึดทรัพย์ของอดีตนายกทักษิณ ไม่ว่าคำตัดสินของศาลจะออกมาอย่างไร ผลกระทบต่อการเมืองไทยจะเกิดขึ้นแน่นอน
เรื่องของคดียึดทรัพย์นั้น ผลออกมาได้แค่ไม่กี่แบบ อย่างแรกก็คือยึดทั้งหมด ซึ่งเป็นไปได้ยากในความคิดของผมที่จะยึดทั้งหมด
หรือว่าจะเป็นการยึดทรัพย์ได้บางส่วน ซึ่งอันนี้น่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด
หรือคำตัดสินจะออกมาว่าไม่ยึดทรัพย์เลยก็เป็นไปได้ ความเป็นไปได้มีแค่สามข้อนี้เท่านั้น ผมคงไม่ฟันธงว่าจะเป็นข้อไหน แต่ผมเชื่อว่าทุกคนรู้อยู่แล้วว่าไม่ว่าคำตัดสินจะออกมาแบบไหนก็อาจจะเกิดเรื่องได้ทั้งนั้น
การดิ้นรนหลังคำตัดสินคดียึดทรัพย์ของอดีตนายกทักษิณ จะเป็นจุดจบของความวุ่นวายทางการเมือง หรือเป็นจุดเริ่มต้นของกลียุคในบ้านเมือง
ถ้าออกมาว่ายึดหมดคุณทักษิณคงเต้นเป็นเจ้าเข้าและคงมีการปลุกปั่นคนเสื้อแดงให้ออกมาต่อสู้ให้โดยที่ตัวเองนั่งสบายอยู่เมืองนอกไม่มาเสี่ยงด้วยตามเคย และคงโจมตีอดีต คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และกลุ่มคนที่ออกมายึดอำนาจอย่างคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) แน่นอนและคงพูดว่าตนถูกกลั่นแกล้งอย่างไม่ต้องสงสัย
ถ้ายึดบางส่วนผลที่ตามมาคงคล้ายๆกับยึดทั้งหมด แต่ว่าอาจจะพูดแก้ตัวได้ว่าเห็นไหมผมไม่ได้ทำผิด พวกเขาเลยทำอะไรผมไม่ได้มาก ที่ถูกยึดไปอาจจะมีใบสั่งหรือไม่ก็อาจจะพูดว่าที่ถูกยึดนั้นเพราะโดนแกล้ง
หรือถ้าไม่ถูดยึดทรัพย์คุณทักษิณคงพูดประมาณว่าเห็นไหมผมไม่ใช่คนไม่ดี ผมถูกใส่ร้ายและโดนกลั่นแกล้ง พ่อแม่พี่น้องต้องช่วยให้ผมได้กลับบ้าน ผมจะกลับประเทศไทย
นี่แหละครับ ที่นักโทษชายทักษิณต้องการ คือ กลับมาเป็นใหญ่ในบ้านนี้เมืองนี้ เมื่อเป็นนักโทษหนีคุก จะกลับมาได้ก็ต่อเมื่อเกิดความวุ่นวาย การเมืองเปลี่ยนขั้ว พรรคและพวกของตนได้ครองอำนาจ
ไม่ว่าคำตัดสินของศาลจะออกมาเช่นใดก็ตาม อาจจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นได้ทั้งนั้น ดังนั้นแล้ว การอ่านคำตัดสินในวันศุกร์ที่จะถึงนี้จึงอาจนำไปสู่จุดเปลี่ยนของการเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งประชาชนทุกคนต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
ในกรณีที่จะมีเหตุการณ์รุนแรงนั้นผมคิดว่าน่าจะอยู่ช่วงหลังคำตัดสิน เพราะไม่ว่าจะออกมาแบบไหน สิ่งที่อดีตนายกทักษิณและพรรคพวกต้องการคือการกลับมาเป็นใหญ่อีกครั้ง พวกเขาประกาศเตรียมความพร้อมทั้งขวดทั้งน้ำมันมาร่วมเดือนแล้ว ส่อแววจะมาสร้างสถานการณ์ที่จะออกมาก่อกวนสร้างความวุ่นวาย อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ ในประเทศนี้
ยิ่งช่วงหลังมีข่าวการใช้อาวุธสงครามในกรุงเทพฯมากมายหลายหน ตั้งแต่การลอบสังหารคุณสนธิ การพยามยิงเอ็ม79 ใส่ทำเนียบรัฐบาล และ การยิงใส่ ออฟฟิศของ ผบ.ทบ.จนล่าสุดคือการวางระเบิดข้างรั้วศาล เหตุการณ์เหล่านี้คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน
แถมก่อนเกิดเหตุทุกครั้ง คนอย่าง เสธ.แดงรู้ก่อนล่วงหน้าทุกที แม่นยำ เหมือนหมอดูผู้รู้อนาคตคนอื่น (แต่ไม่รู้อนาคตตัวเอง) แล้วตำรวจกลับนิ่งเฉยไม่มีการเชิญตัวไปให้ข้อมูลแต่อย่างใด ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก
หรืออย่างตอนนี้คนที่น่าจะตกอยู่ในอันตรายที่สุดคงหนีไม่พ้นนายกฯ รูปหล่อหน้าใสไม่ได้ เพราะมีข่าวถูกคุกคามจะทำร้ายถึงขึ้นเอาชีวิตไปหลายครั้งแล้ว แต่เอาตัวรอดมาได้
การวางแผนคุกคามสังหารนายกเป็นเกมหนึ่งในการที่จะล้มกระดาน แล้วใช้วิธีเลือกนายกฯกันใหม่ซึ่งคราวนี้พรรคร่วมอาจจะถอยออกจากประชาธิปัตย์ กลับไปซบอกเพื่อไทย ยิ่งมีประเด็นความขัดแย้งกันอยู่แล้วเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ยิ่งทำให้อาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้
อย่างในช่วงนี้มีคำเตือนให้คนเสื้อเหลืองหลายๆคนระวังตัว ยิ่งทำให้น่าสงสัยว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งผมหวังว่าจะไม่เกิด
ตอนนี้บ้านเมืองเต็มไปด้วยกระแส ข่าวจริง ข่าวหลอก ข่าวลวง การเมืองไทยมักจะมีอะไรลับๆ มาล่อกันเป็นประจำ ล่อในที่นี้หมายถึงชอบมีข่าวจากหลายแหล่งข่าว ออกมาแพร่งพรายให้คนเขาได้พูดกัน แล้วก็พูดกันต่อๆกันไป ในนั้นก็มีทั้งเรื่องจริงเรื่องหลอก ก็ต้องวิเคราะห์กันเสียก่อนแหละครับ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ ขอให้ทุกท่านใช้ชีวิตบนความไม่ประมาท ถึงคราวนั่งบนภูดูหมากัดกัน อย่าไปเต้นตามคนบางคนที่อยากแหย่ให้ออกมาเพื่อเป็นข้ออ้างในการทำอะไรบางอย่าง ดังนั้นอย่าเป็นเครื่องมือของใคร และขอให้พ่อแม่พี่น้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พบกันสัปดาห์หน้าครับ
ต่อไปนี้เราจะเจอกันทุกวันจันทร์ทางเว็บไซต์เป็นหลักนะครับ สำหรับวันนี้ ประเด็นร้อนที่อดจะพูดถึงไม่ได้ คือ เรื่องคดียึดทรัพย์อดีตนายกทักษิณนะครับ
สัปดาห์นี้นับชั่วโมงถอยหลัง ทุกสายตาจับจ้องไปที่คดียึดทรัพย์ของอดีตนายกทักษิณ ไม่ว่าคำตัดสินของศาลจะออกมาอย่างไร ผลกระทบต่อการเมืองไทยจะเกิดขึ้นแน่นอน
เรื่องของคดียึดทรัพย์นั้น ผลออกมาได้แค่ไม่กี่แบบ อย่างแรกก็คือยึดทั้งหมด ซึ่งเป็นไปได้ยากในความคิดของผมที่จะยึดทั้งหมด
หรือว่าจะเป็นการยึดทรัพย์ได้บางส่วน ซึ่งอันนี้น่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด
หรือคำตัดสินจะออกมาว่าไม่ยึดทรัพย์เลยก็เป็นไปได้ ความเป็นไปได้มีแค่สามข้อนี้เท่านั้น ผมคงไม่ฟันธงว่าจะเป็นข้อไหน แต่ผมเชื่อว่าทุกคนรู้อยู่แล้วว่าไม่ว่าคำตัดสินจะออกมาแบบไหนก็อาจจะเกิดเรื่องได้ทั้งนั้น
การดิ้นรนหลังคำตัดสินคดียึดทรัพย์ของอดีตนายกทักษิณ จะเป็นจุดจบของความวุ่นวายทางการเมือง หรือเป็นจุดเริ่มต้นของกลียุคในบ้านเมือง
ถ้าออกมาว่ายึดหมดคุณทักษิณคงเต้นเป็นเจ้าเข้าและคงมีการปลุกปั่นคนเสื้อแดงให้ออกมาต่อสู้ให้โดยที่ตัวเองนั่งสบายอยู่เมืองนอกไม่มาเสี่ยงด้วยตามเคย และคงโจมตีอดีต คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และกลุ่มคนที่ออกมายึดอำนาจอย่างคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) แน่นอนและคงพูดว่าตนถูกกลั่นแกล้งอย่างไม่ต้องสงสัย
ถ้ายึดบางส่วนผลที่ตามมาคงคล้ายๆกับยึดทั้งหมด แต่ว่าอาจจะพูดแก้ตัวได้ว่าเห็นไหมผมไม่ได้ทำผิด พวกเขาเลยทำอะไรผมไม่ได้มาก ที่ถูกยึดไปอาจจะมีใบสั่งหรือไม่ก็อาจจะพูดว่าที่ถูกยึดนั้นเพราะโดนแกล้ง
หรือถ้าไม่ถูดยึดทรัพย์คุณทักษิณคงพูดประมาณว่าเห็นไหมผมไม่ใช่คนไม่ดี ผมถูกใส่ร้ายและโดนกลั่นแกล้ง พ่อแม่พี่น้องต้องช่วยให้ผมได้กลับบ้าน ผมจะกลับประเทศไทย
นี่แหละครับ ที่นักโทษชายทักษิณต้องการ คือ กลับมาเป็นใหญ่ในบ้านนี้เมืองนี้ เมื่อเป็นนักโทษหนีคุก จะกลับมาได้ก็ต่อเมื่อเกิดความวุ่นวาย การเมืองเปลี่ยนขั้ว พรรคและพวกของตนได้ครองอำนาจ
ไม่ว่าคำตัดสินของศาลจะออกมาเช่นใดก็ตาม อาจจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นได้ทั้งนั้น ดังนั้นแล้ว การอ่านคำตัดสินในวันศุกร์ที่จะถึงนี้จึงอาจนำไปสู่จุดเปลี่ยนของการเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งประชาชนทุกคนต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
ในกรณีที่จะมีเหตุการณ์รุนแรงนั้นผมคิดว่าน่าจะอยู่ช่วงหลังคำตัดสิน เพราะไม่ว่าจะออกมาแบบไหน สิ่งที่อดีตนายกทักษิณและพรรคพวกต้องการคือการกลับมาเป็นใหญ่อีกครั้ง พวกเขาประกาศเตรียมความพร้อมทั้งขวดทั้งน้ำมันมาร่วมเดือนแล้ว ส่อแววจะมาสร้างสถานการณ์ที่จะออกมาก่อกวนสร้างความวุ่นวาย อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ ในประเทศนี้
ยิ่งช่วงหลังมีข่าวการใช้อาวุธสงครามในกรุงเทพฯมากมายหลายหน ตั้งแต่การลอบสังหารคุณสนธิ การพยามยิงเอ็ม79 ใส่ทำเนียบรัฐบาล และ การยิงใส่ ออฟฟิศของ ผบ.ทบ.จนล่าสุดคือการวางระเบิดข้างรั้วศาล เหตุการณ์เหล่านี้คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน
แถมก่อนเกิดเหตุทุกครั้ง คนอย่าง เสธ.แดงรู้ก่อนล่วงหน้าทุกที แม่นยำ เหมือนหมอดูผู้รู้อนาคตคนอื่น (แต่ไม่รู้อนาคตตัวเอง) แล้วตำรวจกลับนิ่งเฉยไม่มีการเชิญตัวไปให้ข้อมูลแต่อย่างใด ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก
หรืออย่างตอนนี้คนที่น่าจะตกอยู่ในอันตรายที่สุดคงหนีไม่พ้นนายกฯ รูปหล่อหน้าใสไม่ได้ เพราะมีข่าวถูกคุกคามจะทำร้ายถึงขึ้นเอาชีวิตไปหลายครั้งแล้ว แต่เอาตัวรอดมาได้
การวางแผนคุกคามสังหารนายกเป็นเกมหนึ่งในการที่จะล้มกระดาน แล้วใช้วิธีเลือกนายกฯกันใหม่ซึ่งคราวนี้พรรคร่วมอาจจะถอยออกจากประชาธิปัตย์ กลับไปซบอกเพื่อไทย ยิ่งมีประเด็นความขัดแย้งกันอยู่แล้วเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ยิ่งทำให้อาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้
อย่างในช่วงนี้มีคำเตือนให้คนเสื้อเหลืองหลายๆคนระวังตัว ยิ่งทำให้น่าสงสัยว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งผมหวังว่าจะไม่เกิด
ตอนนี้บ้านเมืองเต็มไปด้วยกระแส ข่าวจริง ข่าวหลอก ข่าวลวง การเมืองไทยมักจะมีอะไรลับๆ มาล่อกันเป็นประจำ ล่อในที่นี้หมายถึงชอบมีข่าวจากหลายแหล่งข่าว ออกมาแพร่งพรายให้คนเขาได้พูดกัน แล้วก็พูดกันต่อๆกันไป ในนั้นก็มีทั้งเรื่องจริงเรื่องหลอก ก็ต้องวิเคราะห์กันเสียก่อนแหละครับ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ ขอให้ทุกท่านใช้ชีวิตบนความไม่ประมาท ถึงคราวนั่งบนภูดูหมากัดกัน อย่าไปเต้นตามคนบางคนที่อยากแหย่ให้ออกมาเพื่อเป็นข้ออ้างในการทำอะไรบางอย่าง ดังนั้นอย่าเป็นเครื่องมือของใคร และขอให้พ่อแม่พี่น้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พบกันสัปดาห์หน้าครับ
