เรื่องยุ่งๆ ที่ประเทศไทยกับเขมร โดยเฉพาะกับนายฮุนเซ็นนั้น คงจะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่มีบุคคลที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้อง
พูดง่ายๆ ถ้าปราศจากมือที่สาม ถืออดีตนายกทักษิณเข้ามาวุ่นวายทำให้เราทะเลาะกัน
ถึงขั้นรัฐบาลไทยกับเขมร ต้องตัดญาติขาดมิตรกัน
ฮุนเซ็นถึงกับออกปากว่า ไม่สบายใจเลยที่ต้องทำงานกับนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ และ รมต.ต่างประเทศ คุณกษิต ภิรมย์
ก็แน่ละ ทั้ง 2 ท่านนี้เป็นไม้เบื่อไม้เบากับทักษิณมาทั้งคู่
ความจริงทักษิณ ถ้ามีนิสัยดีเสียอย่าง เขาแค่ใช้โทรศัพท์มาบอกฮุนเซ็นเสียหน่อยว่า อย่าได้นำเรื่องส่วนตัวของเขามาพัวพันกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
คืออย่าให้เขมรกับไทยต้องได้รับผลกระทบ
ถึงขั้นตัดการให้ความช่วยเหลือ
คนที่ตกที่นั่งลำบากนั้น ก็คือประชาชนเขมรเท่านั้น คนไทยไม่ได้ไปเดือดร้อนอะไรด้วย เพราะไม่ได้เป็นฝ่ายเสียประโยชน์
พฤติกรรมของคนๆ เดียวๆ อย่างคุณทักษิณนี้ กล่าวให้ถึงที่สุดก็คือ การบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ถ้าอภิสิทธิ์หูเบาก็แย่ละครับพี่น้อง
หลังเกิดเหตุการณ์ที่ว่านี้แล้ว ขบวนการปล่อยของเสียก็ออกมาเล่นงานคุณกษิตแบบไม่ยั้ง คือไม่อยากให้คุณกษิตอยู่ในตำแหน่ง รมต.ว่าการกระทรวงต่างประเทศอีก
วิธีการอ้อมค้อมคือ ปล่อยข่าวว่าจะให้มีการปรับครม.ชุดใหญ่
เพื่อให้น่าเชื่อถือ
พวกปล่อยข่าวลือก็นำเอาคุณชวนกับคุณบัญญัติซึ่งคุณอภิสิทธิ์แกเคารพนับถือ โดยกล่าวว่าทั้งคุณชวนและคุณบัญญัติเป็นคนกดดันอย่างหนัก ว่าจะต้องให้มีการปรับ ครม.
และให้เอาดรีมทีมเข้ามา
ผมเองก็ไม่ยักกะรู้ว่ามีดรีมทีมซ่อนอยู่ที่ไหน
มีแต่หน้าเก่าๆ ทั้งนั้น ที่เห็นก็ไม่ได้มีของใหม่มาจากไหนเลยสักคน
การชี้นำข่าวลือให้คุณชวนกับคุณบัญญัติมากดดันนี้ แสดงว่า คนปล่อยข่าวลือนี้ รู้จริงว่าถ้าปล่อยข่าวนี้แล้ว เท่ากับเป็นการกดดันคุณอภิสิทธิ์ได้
เพราะแม้จะเป็นข่าวลือก็ตาม แต่สื่อต้องเห็นว่าถ้าเสนอเป็นข่าวใหญ่เมื่อใด คุณอภิสิทธิ์ต้องหวั่นไหวอย่างแน่นอน
ผมเห็นด้วยในประเด็นนี้
แต่อย่าอุปโหลกว่า ผมเห็นด้วยกับการปล่อยข่าวลือเป็นอันขาด
ผมกลับคิดว่า การปล่อยข่าวลือในจังหวะนี้ ไม่ได้เป็นผลดีต่อประเทศชาติ
และเชื่อว่า การปล่อยข่าวเชื่อมโยงกับกรณีที่เราพิพาทกับเขมร
ไม่อยากจะบอกว่า โยงไปถึงอดีตนายกทักษิณ แต่เชื่อได้ว่าต้นตอมาจากกลุ่มที่สนับสนุนทักษิณน่ะใช่แน่ๆ
เรื่องข่าวลือนั้น มีข้อเท็จจริงอยู่ว่า รัฐบาลเองนั้นก็คิดเรื่องปรับครม.อยู่เหมือนกัน แต่เป็นการปรับบางตำแหน่ง และไม่ได้ปรับตำแหน่ง รมต.การต่างประเทศ แต่ประการใด
การปรับ ครม.ก็ใช่ว่าจะเร็วๆ นี้ อย่างน้อยก็ต้องพ้นปีใหม่ไปแล้วสักเดือนสองเดือน
ความจริงการปรับครม.ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เป็นเรื่องปกติ
เพราะเป็นการปรับปรุงเปลี่ยนตัวบุคคลเพื่อให้การบริหารงานของรัฐบาลเป็นไปในทิศทางที่ดีกว่าเดิม
คงไม่มีใครปรับแล้ว เลวกว่าเดิมแน่
แต่เมื่อมีข่าวลือออกมา ผมกลับเห็นว่า แทนที่รัฐบาลจะปรับ ครม.ตามที่เคยคิด
กลับจะต้องปรับครม.ช้ากว่าเดิม ไม่เช่นนั้น เท่ากับให้ข่าวลือเป็นความชอบธรรมไป
เสีย
ก็ควรคิดดูให้ดีนะ สำหรับเจ้ากรมข่าวลือทั้งหลาย
พูดง่ายๆ ถ้าปราศจากมือที่สาม ถืออดีตนายกทักษิณเข้ามาวุ่นวายทำให้เราทะเลาะกัน
ถึงขั้นรัฐบาลไทยกับเขมร ต้องตัดญาติขาดมิตรกัน
ฮุนเซ็นถึงกับออกปากว่า ไม่สบายใจเลยที่ต้องทำงานกับนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ และ รมต.ต่างประเทศ คุณกษิต ภิรมย์
ก็แน่ละ ทั้ง 2 ท่านนี้เป็นไม้เบื่อไม้เบากับทักษิณมาทั้งคู่
ความจริงทักษิณ ถ้ามีนิสัยดีเสียอย่าง เขาแค่ใช้โทรศัพท์มาบอกฮุนเซ็นเสียหน่อยว่า อย่าได้นำเรื่องส่วนตัวของเขามาพัวพันกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
คืออย่าให้เขมรกับไทยต้องได้รับผลกระทบ
ถึงขั้นตัดการให้ความช่วยเหลือ
คนที่ตกที่นั่งลำบากนั้น ก็คือประชาชนเขมรเท่านั้น คนไทยไม่ได้ไปเดือดร้อนอะไรด้วย เพราะไม่ได้เป็นฝ่ายเสียประโยชน์
พฤติกรรมของคนๆ เดียวๆ อย่างคุณทักษิณนี้ กล่าวให้ถึงที่สุดก็คือ การบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ถ้าอภิสิทธิ์หูเบาก็แย่ละครับพี่น้อง
หลังเกิดเหตุการณ์ที่ว่านี้แล้ว ขบวนการปล่อยของเสียก็ออกมาเล่นงานคุณกษิตแบบไม่ยั้ง คือไม่อยากให้คุณกษิตอยู่ในตำแหน่ง รมต.ว่าการกระทรวงต่างประเทศอีก
วิธีการอ้อมค้อมคือ ปล่อยข่าวว่าจะให้มีการปรับครม.ชุดใหญ่
เพื่อให้น่าเชื่อถือ
พวกปล่อยข่าวลือก็นำเอาคุณชวนกับคุณบัญญัติซึ่งคุณอภิสิทธิ์แกเคารพนับถือ โดยกล่าวว่าทั้งคุณชวนและคุณบัญญัติเป็นคนกดดันอย่างหนัก ว่าจะต้องให้มีการปรับ ครม.
และให้เอาดรีมทีมเข้ามา
ผมเองก็ไม่ยักกะรู้ว่ามีดรีมทีมซ่อนอยู่ที่ไหน
มีแต่หน้าเก่าๆ ทั้งนั้น ที่เห็นก็ไม่ได้มีของใหม่มาจากไหนเลยสักคน
การชี้นำข่าวลือให้คุณชวนกับคุณบัญญัติมากดดันนี้ แสดงว่า คนปล่อยข่าวลือนี้ รู้จริงว่าถ้าปล่อยข่าวนี้แล้ว เท่ากับเป็นการกดดันคุณอภิสิทธิ์ได้
เพราะแม้จะเป็นข่าวลือก็ตาม แต่สื่อต้องเห็นว่าถ้าเสนอเป็นข่าวใหญ่เมื่อใด คุณอภิสิทธิ์ต้องหวั่นไหวอย่างแน่นอน
ผมเห็นด้วยในประเด็นนี้
แต่อย่าอุปโหลกว่า ผมเห็นด้วยกับการปล่อยข่าวลือเป็นอันขาด
ผมกลับคิดว่า การปล่อยข่าวลือในจังหวะนี้ ไม่ได้เป็นผลดีต่อประเทศชาติ
และเชื่อว่า การปล่อยข่าวเชื่อมโยงกับกรณีที่เราพิพาทกับเขมร
ไม่อยากจะบอกว่า โยงไปถึงอดีตนายกทักษิณ แต่เชื่อได้ว่าต้นตอมาจากกลุ่มที่สนับสนุนทักษิณน่ะใช่แน่ๆ
เรื่องข่าวลือนั้น มีข้อเท็จจริงอยู่ว่า รัฐบาลเองนั้นก็คิดเรื่องปรับครม.อยู่เหมือนกัน แต่เป็นการปรับบางตำแหน่ง และไม่ได้ปรับตำแหน่ง รมต.การต่างประเทศ แต่ประการใด
การปรับ ครม.ก็ใช่ว่าจะเร็วๆ นี้ อย่างน้อยก็ต้องพ้นปีใหม่ไปแล้วสักเดือนสองเดือน
ความจริงการปรับครม.ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เป็นเรื่องปกติ
เพราะเป็นการปรับปรุงเปลี่ยนตัวบุคคลเพื่อให้การบริหารงานของรัฐบาลเป็นไปในทิศทางที่ดีกว่าเดิม
คงไม่มีใครปรับแล้ว เลวกว่าเดิมแน่
แต่เมื่อมีข่าวลือออกมา ผมกลับเห็นว่า แทนที่รัฐบาลจะปรับ ครม.ตามที่เคยคิด
กลับจะต้องปรับครม.ช้ากว่าเดิม ไม่เช่นนั้น เท่ากับให้ข่าวลือเป็นความชอบธรรมไป
เสีย
ก็ควรคิดดูให้ดีนะ สำหรับเจ้ากรมข่าวลือทั้งหลาย