คนที่ยังไม่ติดตาราง และก็ยังไม่ได้สำนึกผิด
แต่กลับทำทุกทางที่จะต่อสู้ด้วยการเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล แถมมีกำลังพร้อม แล้วก็มีทนายตั้งไว้เตรียมสู้คดี
อีกทั้งยังสามารถคุยโวจะทำโน่นทำนี่ได้อีก
คนแบบนี้แสดงว่า “ไม่ได้หยุดนิ่ง”
คือไม่อยู่ในวิสัยที่จะแสดงสปิริตว่าพร้อมที่จะหาทางเลือกสุดท้ายในการที่จะขออภัยโทษด้วยการถวายฎีกา
ผู้ที่จะถวายฎีกานั้น ทั้งหมดมักจะถูกกำหนดชะตากรรมไว้แล้วคือติดคุก บ้างก็ถูกตัดสินประหารชีวิต หรือต้องอยู่ในคุกตลอดชีวิต
คนพวกนี้เขาไม่เคลื่อนไหว ไม่ออกมาคุยโย
แต่เป็นพวกสงบนิ่ง ยอมรับผิด สำนึก และรู้ตัวว่า เขาไม่มีหนทางอื่นอีกแล้ว
จึงถวายฎีกา
เป็นทางสุดท้าย
เห็นหรือยังครับว่า ต่างไปจากอดีตนายกฯ ทักษิณไกลกันลิบเลยครับ
พวกทักษิณนอกจากไม่หยุด ยังใช้พลังมวลชนเข้าชื่อกันหวังได้เป็นล้านคน โดยใช้ปริมาณคนจำนวนมาก ซึ่งผมก็อยากถามว่าจำนวนคนมากๆ นี้จะนำมาใช้บีบใคร?
จะบีบสถาบันที่คนไทยเคารพเทิดทูนกันใช่หรือไม่
นี่มันไม่ใช่วิถีทางของคนที่จะถวายฎีกาหรอกนะ
แต่มันเป็นพวกทะลึ่งไม่รู้ที่ต่ำที่สูง และเป็นพวกบังอาจมากกว่า
ผมก็เหมือนคนไทยทั้งหลายที่ทนไมได้เหมือนกัน ที่เห็นพวกเสื้อแดงกับทักษิณใช้การถวายฎีกาดึงสถาบันลงมาเป็นเกมการเมืองและใช้ประโยชน์โดยกดดันด้วยคนหมู่มาก
คือใช้ม็อบกดดันการถวายฎีกา
ซึ่งเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกนี้แหละครับ
ความจริงถ้าคิดจะถวายฎีกา จริงๆ แล้ว สิ่งที่คุณทักษิณควรทำก็ควรยุติบทบาทบ้าๆ บอๆ เสียทั้งหมด เช่น หยุดป่วนด้วยการโฟนอิน เลิกปลุกระดมมวลชน เลิกฝอยว่าจะทำเซอร์ไพรซ์อะไรต่างๆ
คือเลิกโวยวายและหยุดความอหังการได้แล้ว
ควรสงบเสงี่ยมเจียมตัว และควรทำตัวเป็นคนดีมาให้เห็นสัก 1 ปี
และก็ควรเดินทางเข้ามามอบตัว
จะน่ารักยิ่งกว่านี้
ทักษิณจะชอบธรรมอย่างยิ่งในการถวายฎีกา ถ้าสู้คดีและก็ยอมติดคุก คดีก็ว่ากันไป
อย่างน้อยมันแสดงออกว่าคุณเล่นตามกฎหมายและคุณมีสปิริตที่ยอมรับต่อกระบวนการยุติธรรม
เมื่อมีกระบวนการเช่นนี้แล้ว คุณจะพึ่งวิธีการถวายฎีกา ผมว่ามีคนเข้าใจได้ และก็ไม่น่าเกลียด
ดีกว่าที่คุณยังตะโกนอยู่ข้างนอก
ดีกว่าคุณยังอหังการ และพูดจาเสียดสีหมิ่นสถาบัน พร้อมลิ่วล้อของคุณก็ยังหมิ่นสถาบันโดยไม่เคารพยำเกรง
อย่างนี้แล้ว มันก็หน้าด้าน ที่คุณกลับมาขอเมตตาขอพระมหากรุณาธิคุณ
เท่ากับคุณเป็นคนหลอกลวง ใช้ไม่ได้ และคนไทยจะไม่รู้หรือ เขาไม่ให้อภัยคุณหรอก ต่อให้คุณล่ารายเซ็นต์เกินล้านคน ก็ไม่มีใครเชื่อว่าคุณนั้นมีความจงรักภักดีอย่างแท้จริง
วิธีการของคุณทักษิณจึงใช้ไม่ได้ผล คนรู้เท่าทัน
และคุณทักษิณเองก็ไม่ใช่คนโง่ คุณก็รู้ว่าคนไทยเขารู้ทันคุณอย่างแน่นอน
แต่คุณก็ยังทำ
ที่คุณยังดำเนินการต่อ ก็เพราะคุณต้องการ “ตบหน้าคนไทย” ทั้งประเทศ ให้เห็นว่าคนอย่างคุณนั้น ไม่ยำเกรง และไม่กลัวที่จะทำอะไร ที่มันข่มเหงใครก็ตามที่ขวางผลประโยชน์ที่คุณเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว
คุณก็ทำเพราะคุณต้องการใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองทั้งๆ ที่คุณรู้แล้วว่า การถวายฎีกานี้ไม่มีวันเกิดมรรคผล
ไม่มีการอภัยโทษ ไม่มีการให้ฎีกาผ่านแน่นอน
แต่คุณก็อยากให้มันเกิดขึ้น
คุณต้องการเช่นนี้ เพื่อตอกย้ำว่า นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณถึงไม่มีความจงรักภักดีเท่านั้น
คุณรู้อย่างนี้อยู่แล้ว รู้มานานแล้วด้วย
มันเป็นนิสัย มันเป็นความอัปรีย์ชนิดหนึ่งของคนทีเกิดมาแล้วเสียชาติเกิดจริงๆ
เพราะเหตุนี้แหละ คุณจึงต้องไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ต้องไปตายในต่างประเทศอย่างโดดเดี่ยว
แต่กลับทำทุกทางที่จะต่อสู้ด้วยการเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล แถมมีกำลังพร้อม แล้วก็มีทนายตั้งไว้เตรียมสู้คดี
อีกทั้งยังสามารถคุยโวจะทำโน่นทำนี่ได้อีก
คนแบบนี้แสดงว่า “ไม่ได้หยุดนิ่ง”
คือไม่อยู่ในวิสัยที่จะแสดงสปิริตว่าพร้อมที่จะหาทางเลือกสุดท้ายในการที่จะขออภัยโทษด้วยการถวายฎีกา
ผู้ที่จะถวายฎีกานั้น ทั้งหมดมักจะถูกกำหนดชะตากรรมไว้แล้วคือติดคุก บ้างก็ถูกตัดสินประหารชีวิต หรือต้องอยู่ในคุกตลอดชีวิต
คนพวกนี้เขาไม่เคลื่อนไหว ไม่ออกมาคุยโย
แต่เป็นพวกสงบนิ่ง ยอมรับผิด สำนึก และรู้ตัวว่า เขาไม่มีหนทางอื่นอีกแล้ว
จึงถวายฎีกา
เป็นทางสุดท้าย
เห็นหรือยังครับว่า ต่างไปจากอดีตนายกฯ ทักษิณไกลกันลิบเลยครับ
พวกทักษิณนอกจากไม่หยุด ยังใช้พลังมวลชนเข้าชื่อกันหวังได้เป็นล้านคน โดยใช้ปริมาณคนจำนวนมาก ซึ่งผมก็อยากถามว่าจำนวนคนมากๆ นี้จะนำมาใช้บีบใคร?
จะบีบสถาบันที่คนไทยเคารพเทิดทูนกันใช่หรือไม่
นี่มันไม่ใช่วิถีทางของคนที่จะถวายฎีกาหรอกนะ
แต่มันเป็นพวกทะลึ่งไม่รู้ที่ต่ำที่สูง และเป็นพวกบังอาจมากกว่า
ผมก็เหมือนคนไทยทั้งหลายที่ทนไมได้เหมือนกัน ที่เห็นพวกเสื้อแดงกับทักษิณใช้การถวายฎีกาดึงสถาบันลงมาเป็นเกมการเมืองและใช้ประโยชน์โดยกดดันด้วยคนหมู่มาก
คือใช้ม็อบกดดันการถวายฎีกา
ซึ่งเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกนี้แหละครับ
ความจริงถ้าคิดจะถวายฎีกา จริงๆ แล้ว สิ่งที่คุณทักษิณควรทำก็ควรยุติบทบาทบ้าๆ บอๆ เสียทั้งหมด เช่น หยุดป่วนด้วยการโฟนอิน เลิกปลุกระดมมวลชน เลิกฝอยว่าจะทำเซอร์ไพรซ์อะไรต่างๆ
คือเลิกโวยวายและหยุดความอหังการได้แล้ว
ควรสงบเสงี่ยมเจียมตัว และควรทำตัวเป็นคนดีมาให้เห็นสัก 1 ปี
และก็ควรเดินทางเข้ามามอบตัว
จะน่ารักยิ่งกว่านี้
ทักษิณจะชอบธรรมอย่างยิ่งในการถวายฎีกา ถ้าสู้คดีและก็ยอมติดคุก คดีก็ว่ากันไป
อย่างน้อยมันแสดงออกว่าคุณเล่นตามกฎหมายและคุณมีสปิริตที่ยอมรับต่อกระบวนการยุติธรรม
เมื่อมีกระบวนการเช่นนี้แล้ว คุณจะพึ่งวิธีการถวายฎีกา ผมว่ามีคนเข้าใจได้ และก็ไม่น่าเกลียด
ดีกว่าที่คุณยังตะโกนอยู่ข้างนอก
ดีกว่าคุณยังอหังการ และพูดจาเสียดสีหมิ่นสถาบัน พร้อมลิ่วล้อของคุณก็ยังหมิ่นสถาบันโดยไม่เคารพยำเกรง
อย่างนี้แล้ว มันก็หน้าด้าน ที่คุณกลับมาขอเมตตาขอพระมหากรุณาธิคุณ
เท่ากับคุณเป็นคนหลอกลวง ใช้ไม่ได้ และคนไทยจะไม่รู้หรือ เขาไม่ให้อภัยคุณหรอก ต่อให้คุณล่ารายเซ็นต์เกินล้านคน ก็ไม่มีใครเชื่อว่าคุณนั้นมีความจงรักภักดีอย่างแท้จริง
วิธีการของคุณทักษิณจึงใช้ไม่ได้ผล คนรู้เท่าทัน
และคุณทักษิณเองก็ไม่ใช่คนโง่ คุณก็รู้ว่าคนไทยเขารู้ทันคุณอย่างแน่นอน
แต่คุณก็ยังทำ
ที่คุณยังดำเนินการต่อ ก็เพราะคุณต้องการ “ตบหน้าคนไทย” ทั้งประเทศ ให้เห็นว่าคนอย่างคุณนั้น ไม่ยำเกรง และไม่กลัวที่จะทำอะไร ที่มันข่มเหงใครก็ตามที่ขวางผลประโยชน์ที่คุณเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว
คุณก็ทำเพราะคุณต้องการใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองทั้งๆ ที่คุณรู้แล้วว่า การถวายฎีกานี้ไม่มีวันเกิดมรรคผล
ไม่มีการอภัยโทษ ไม่มีการให้ฎีกาผ่านแน่นอน
แต่คุณก็อยากให้มันเกิดขึ้น
คุณต้องการเช่นนี้ เพื่อตอกย้ำว่า นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณถึงไม่มีความจงรักภักดีเท่านั้น
คุณรู้อย่างนี้อยู่แล้ว รู้มานานแล้วด้วย
มันเป็นนิสัย มันเป็นความอัปรีย์ชนิดหนึ่งของคนทีเกิดมาแล้วเสียชาติเกิดจริงๆ
เพราะเหตุนี้แหละ คุณจึงต้องไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ต้องไปตายในต่างประเทศอย่างโดดเดี่ยว