“สมชาย” แนะ “นช.แม้ว” ให้ปล่อยวาง เลิกผูกใจเจ็บ ลดแรงอาฆาต ให้หยุดแล้วจะว่ารู้คนใกล้ชิดหวังแต่ผลประโยชน์ของอำนาจ-เงินเท่านั้น เชื่อแนวคิดเปิดทีวี 100 จะทำได้จริง ไม่ค้าน หากทำประโยชน์ ชี้รัฐบาลจับตาแน่ หากส่อหมิ่นสถาบัน
วันนี้ (27 ก.ค.) นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว.กล่าวถึงการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วงการจัดงานวันเกิดครบ 60 ปีที่ผ่านมาว่า คงไม่มีผลอะไร แต่อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ คิดให้ดี ท่านเป็นคนเก่งมาก ประสบความสำเร็จ ทั้งการเป็นนักธุรกิจ และความเป็นนักการเมือง แต่คนเราพลาดกันได้ วันนี้อายุครบ 60 ปี ถือว่าเกษียณแล้ว และมีวุฒิภาวะมากที่สุด น่าจะรู้ดีว่าการโฟนอินจะทำให้สถานการณ์การเมืองในประเทศตกอยู่ในความตึงเครียดต่อไป อายุขนาดนี้น่าจะอยู่อย่างสบาย ตนทราบจากคนในว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องมีการปรับเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวัน ต้องปรับเวลาอยู่เวลากินให้เข้ากับเวลาในเมืองไทย จะได้โฟนอินเข้ามาได้ อยากให้ท่านใช้ชีวิตอย่างสงบ ไม่ผูกใจเจ็บ อาฆาต ต้องละวางทุกอย่าง และต้องฉุกคิดได้ว่าคนรอบข้างต้องการอะไรกันแน่ เท่าที่วิเคราะห์เห็นว่าคนรอบข้างคงต้องการอำนาจและเงิน การที่มีการเคลื่อนไหวในประเทศ เพื่อต้องการนำใบเสร็จไปเบิกเงินเท่านั้น
นายสมชายกล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยากอยู่อย่างสงบและใช้ชีวิตในต่างประเทศ ต้องไม่เคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อถึงเวลาอยากจะกลับเมืองไทยก็ให้กลับมาสู้คดี ซึ่งตนเชื่อว่าระดับพ.ต.ท.ทักษิณ จะสามารถหามือกฎหมายดีๆ มาเป็นทนายต่อสู้คดีได้ ซึ่งตรงนี้จะเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม หากจะทำแบบเดิมคงปลุกกระแสอะไรไม่ได้ แต่ยอมรับว่า มีคนกลุ่มหนึ่งยังคงศรัทธาและเชื่อมั่นท่าน คงไปห้ามไม่ได้ ถึงไม่มีผลต่อการเมือง แต่คงทำให้ระส่ำเป็นระยะ โดยเฉพาะกรณีการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษนั้น คนที่เป็นนักกฎหมายใกล้ตัว รู้อยู่แล้วว่าทำไม่ได้ เป็นการละเมิดพระราชอำนาจ หากท่านมีความจงรักภักดีอย่างที่พูด ก็ควรแสดงออกด้วยการกระทำโดยการสั่งบุคคลที่กำลังเคลื่อนไหวให้หยุดเคลื่อนไหว
เมื่อถามถึงบิ๊กเซอร์ไพรส์ที่จะเปิดทีวี 100 ช่องไปทั่วโลก ขายสินค้าโอทอป เป็นแค่กลยุทธ์ทางการเมืองหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า คิดว่าเป็นอย่างนั้น คงใช้ช่องทางสื่อ ยุคนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสาร เชื่อว่า ทำได้ เพราะเคยทำด้านสื่อสารมาก่อนและมีเงิน หากจะทำสถานีโทรทัศน์ 1 ช่อง ต้องใช้เงิน 5 ล้านบาทต่อเดือน ทำ 100 ช่อง ต้องใช้ 500 ล้านบาท ตกปีละ 6 พันล้านบาท ไม่กระทบกระเป๋าตัวเองอยู่แล้ว แต่การเปิดสถานีหากทำเพื่อประโยชน์บ้านเมืองก็สนับสนุน แต่หากเปิดแล้วมีเนื้อหากระทบสถาบัน จะถือว่าเป็นภัยความมั่นคง รัฐบาลต้องดำเนินการ