xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.สส.เตือนสติ “หางแดง” ล่าชื่อถวายฎีกาให้ดูความเหมาะสม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์
ผบ.สส.เตือนสติ “หางแดง” ล่าชื่อถวายฎีกาให้ดูความเหมาะสม ระบุ ควรคำนึงถึงประโยชน์ประเทศเป็นหลัก ยันกองทัพไม่ยุ่งเกี่ยวเกมการเมือง ขณะที่ ผลสำรวจสวนดุสิต คะแนนความนิยม “มาร์ค” เป็นรอง “นช.ทักษิณ” ชี้ เป็นแค่การสุ่มตัวอย่าง ไม่ได้เป็นความเห็นของคนทั้งประเทศ

วันนี้ (27 ก.ค.) พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำบิ๊กเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดทีวี 3 ช่อง ให้กับประเทศไทย เพื่อช่วยคนไทยในเรื่องการศึกษา การขายสินค้าโอทอป และ ปัญหาความยากจน ว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ และไม่เห็นจะมีอะไรที่เซอร์ไพรส์ เพราะขณะนี้ยังไม่เห็นอะไรมีแต่ข่าวสารขึ้นมาลอยๆ

ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงพยายามล่ารายชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า สิ่งใดถูกต้องตามกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญก็สามารถทำได้ แต่ตนไม่ได้บอกว่าเรื่องนี้ทำได้หรือไม่ เพราะประชาชนคนไทยล้วนมีสิทธิ์ของตนเอง แต่จะต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายที่สมบูรณ์ และต้องทำเพื่อส่วนรวมและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ

สำหรับหากมีการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษแล้วนั้น ทางกองทัพจะไม่ขัดข้องใช่หรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า กองทัพไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองอยู่แล้ว เพราะการเมืองเป็นของประชาชนทั้งประเทศ สิ่งใดที่ดีต่อประชาชนและประเทศก็สามารถเดินหน้าทำต่อไป เมื่อถึงวาระที่ควรกระทำ

ด้านกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีขอพระราชอภัยโทษ ถือเป็นการดึงสถาบันลงมาเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองหรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดไปถึงจุดนั้น เพราะยังไม่เห็นว่าจะมีการถวายฎีกาแต่อย่างใด เนื่องจากตอนนี้มีแค่เพียงข่าวสาร เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรจะกลับมารับโทษก่อนขอพระราชอภัยโทษหรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องทำตามกฎหมาย ไม่ต้องบอกว่าควรจะรับโทษก่อนหรือไม่ เพราะเรื่องนี้เป็นหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย ถ้าตนตอบไป เดี๋ยวจะหาว่าทหารเป็นอย่างนั่นอย่างนี้อีก เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่กองทัพจะดำเนินการได้

ขณะที่กรณีที่กลุ่มเสื้อแดงออกมาประกาศว่าจะมีการออกมาเคลื่อนไหวในเดือนสิงหาคมนี้ โดยประกาศว่า จะล้มรัฐบาลชุดนี้ให้ได้ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ตนเห็นประกาศหลายรอบแล้วว่าจะทำเช่นนั้นเช่นนี้ แต่ที่สุดแล้วอยากให้คนไทยประกาศว่าอยากจะออกมาช่วยทำให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้มากกว่า เนื่องจากทุกฝ่ายควรพูด และควรทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติและส่วนรวม แต่ตนไม่ได้บอกว่าใครพูดผิดพูดถูก เนื่องจากไม่ทราบว่าพูดอย่างไรถึงจะเหมาะสม ประเทศไทยเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน เราจะยอมให้ประเทศยืนอยู่แบบนี้หรือไม่ หรือจะเดินวนไปวนมาต่อไป ดังนั้น เราควรจับมือและเดินหน้ากันไป

เมื่อถามถึงกรณีผลสำรวจของสวนดุสิตโพล ที่ระบุว่า คะแนนนิยมในตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ สูงกว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นั้น พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า เอาอะไรมาเป็นตัวชี้วัด ผลโพล คือ การสุ่มตัวอย่าง ตนเห็นว่า ไม่มีอะไรที่จะยืนยันได้ 100% ถ้าไปสุ่มในอีกพื้นที่หนึ่งผลโพลอาจเปลี่ยนไปก็ได้ แต่ตนไม่ได้บอกว่า ผลโพลผิด แค่เห็นว่า ประชากรมีประมาณ 60 กว่าล้านคน ถ้ามีการทำสำรวจ 2 ล้านคน ผลโพลอาจไม่สะท้อนความคิดเห็นได้เท่าสำรวจจาก 10 ล้านคน

“ผลโพลที่ออกมา คิดว่า รัฐบาลคงจะเดินหน้าทำงานต่อไป โดยคงจะมุ่งบริหารประเทศ และทำให้ประชาชนมีความสุข เพราะไม่เห็นว่าเรื่องไม่มีอะไรสำคัญจนทำให้รัฐบาลทำงานไม่ได้ แต่ตนก็ไม่ทราบว่าผลโพลดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อด้านใดหรือไม่” พล.อ.ทรงกิตติ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น