xs
xsm
sm
md
lg

โพลชี้ ปชช.กว่าร้อยละ 80 เชื่อ “สนธิ” ถูกลอบยิงเกี่ยวข้องการเมือง ส่งผลการเมืองร้อนฉ่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ
“สวนดุสิตโพล” ชี้ ปชช.เชื่อเหตุการณ์ลอบสังหาร “สนธิ” เกี่ยวข้องกับการเมือง ถึงร้อยละ 80.64 ส่งผลการเมืองร้อนแรงขึ้น 57.15 เชื่ออาจเกิดการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ หรือทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมากดดัน รบ.เพื่อหาผู้กระทำผิด ขณะเดียวกัน เห็นว่า สภาพจิตใจของผู้ที่กระทำมีความโหดเหี้ยม ไม่เกรงกลัว กม.บ้านเมือง รองลงมาเห็นว่า สังคมไทยมีความขัดแย้ง มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจน ส่วนวิธีป้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ร้อยละ 48.39 ระบุทุกคนต้องปฏิบัติตาม กม.

วันนี้ (19 เม.ย.) สวนดุสิตโพล ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ต่อเหตุการณ์ลอบสังหาร “สนธิ ลิ้มทองกุล” โดยการใช้อาวุธสงคราม จนทำให้คนขับรถได้รับบาดเจ็บสาหัส และนายสนธิ ลิ้มทองกุล ต้องเข้ารับผ่าตัดจนปลอดภัย ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยมีการตั้งประเด็นทั้งเรื่องการเมือง และเรื่องส่วนตัว เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,358 คน ตั้งแต่วันที่ 17-19 เมษายน 2552 สรุปผลดังนี้

1. ความคิดเห็นของประชาชนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อันดับ 1 มีสาเหตุมาจากเรื่องการเมือง 51.25% อันดับ 2 เป็นได้ทั้งจากเรื่องการเมืองและเรื่องส่วนตัว 31.46% อันดับ 3 เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่สามารถรอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้มาได้ 10.37% อันดับ 4 ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นในช่วงที่บ้านเมืองกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ 6.92%

2. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับ “การเมือง” หรือไม่ อันดับ 1 เกี่ยวข้องกับการเมือง 80.64% เพราะเป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ / ต้องการสร้างสถานการณ์เพื่อบีบบังคับให้รัฐบาลจับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร มาดำเนินคดี ฯลฯ อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 16.13% เพราะอาจมีศัตรูทั้งทางธุรกิจและทางการเมือง / ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน ฯลฯ อันดับ 3 ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง 3.23 %เพราะ อาจจะมีสาเหตุมาจากเรื่องส่วนตัว/ไม่ทราบข้อมูล-สาเหตุที่แท้จริง ฯลฯ

3. จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ “การเมืองไทย” ร้อนแรงขึ้นหรือไม่ อันดับ 1 ส่งผลให้การเมืองไทยร้อนแรง 57.15% เพราะอาจเกิดการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ / ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมากดดันรัฐบาลเพื่อหาผู้กระทำผิด ฯลฯ อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 25.71% เพราะยังต้องรอผลการสอบสวน / ยังมีการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน จึงไม่น่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ฯลฯ อันดับ 3 ไม่ส่งผลให้การเมืองไทยร้อนแรง 17.14% เพราะยังมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ / สถานการณ์ที่ผ่านมาร้อนแรงมากพออยู่แล้ว/ หลักฐานและมูลเหตุการลอบสังหารยังไม่ชัดเจน ฯลฯ

4. จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึง “ความเปลี่ยนแปลง” ของสังคมไทยอย่างไร
อันดับ 1 สภาพจิตใจของผู้ที่กระทำมีความโหดเหี้ยม ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง 35.42% อันดับ 2 สังคมไทยมีความขัดแย้ง มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจน 27.08% อันดับ 3 ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนลดน้อยลง 18.75% อันดับ 4 มีการใช้ความรุนแรงเข้ามาตัดสินปัญหามากกว่าการใช้เหตุผล 10.42% อันดับ 5 มาตรการที่ใช้ควบคุมอาวุธร้ายแรง/อาวุธสงครามหย่อนยาน 8.33%

5. แนวทาง/วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว อันดับ 1 ประชาชนทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศ 48.39% อันดับ 2 รณรงค์และสร้างความสามัคคีให้แก่คนในชาติ 25.81% อันดับ 3 จับตัวผู้กระทำความผิดเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย 12.90%
อันดับ 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรดูและควบคุมการครอบครองอาวุธอย่างเข้มงวด 9.67% อันดับ 5 คงแก้ไขได้ยากเพราะบ้านเมืองมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย 3.23%
กำลังโหลดความคิดเห็น