ขอพักเรื่องการเมืองสักวัน มาคุยกันด้วยเรื่องกีฬาดีกว่า เพราะว่ากีฬานั้นเป็นยาวิเศษ จริงๆ ตามเพลงที่เรียกว่า “กราวกีฬา” คือ กีฬาฯ เป็นยาวิเศษ แก้กองกิเลส ทำคนให้เป็นคน
กีฬายังสอนให้เรารู้จักแพ้และรู้จักชนะด้วย
ไม่มีใครหรอกที่เล่นกีฬาแล้วชนะหรือแพ้ตลอดกาล
ผมเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็ก อายุ 10 ขวบ อยู่โรงเรียนประจำก็เล่นมันตั้งแต่ฟุตบอลไปจนถึงรักบี้ ซึ่งเป็นรุ่นจิ๋ว พอโตก็เล่นรุ่นเล็ก รุ่นกลาง ไปจนถึงรุ่นใหญ่ สมัยก่อนใช้วัดกันที่ความสูงครับ ต่อมาใช้วัดด้วยน้ำหนัก
พอไปเรียนที่นิวซีแลนด์ ก็วัดด้วยน้ำหนักคิดเป็นสโตน (สงสัยใช้ถ่วงกันด้วยก้อนหิน) ผมไปเล่นฝรั่งมันดูถูกนึกว่ามาจากบ้านป่าเมืองเถื่อนจะเล่นเป็นหรือ
ผมก็เล่นได้ครับ จนมันเลิกดูถูก นิวซีแลนด์นั้นถือว่าเป็นแชมป์รักบี้ระดับโลก ผมน้ำหนักน้อยครับ แค่ 60 นิดหน่อย เพื่อนร่วมทีมผม 100 ขึ้นไปทั้งนั้น
ผมเล่นจนได้ติดทีมโรงเรียน แต่ทานแรงพวกน้ำหนักไม่ไหว เล่นอยู่ครึ่งปี โดนฝรั่งมันผลักก็กระเด็นออกนอกสนาม แต่ฝรั่งก็กลัวผมจนขนาดเพราะผมจับต่ำมาก คือจับข้อเท้ามันจนหัวขะมำ
พอเล่นรักบี้รุ่นเดอะไม่ไหว ก็เลยมาเล่นรุ่นกลาง น้ำหนักน้อยหน่อยแล้วผมก็เล่นฟุตบอลควบไปด้วย กีฬาที่นิวซีแลนด์เล่นกันทุกวันเสาร์ครับพี่น้อง ไอ้พวกรักบี้ก็ไม่อยากให้ผมเล่น เล่นบอล พวกฟุตบอลก็ไม่อยากให้เล่นรักบี้
ดังนั้นผมประนีประนอม โดยเล่นรักบี้ครึ่งแรก แล้วเล่นฟุตบอลครึ่งหลังซึ่งก็แปลกดี โค้ชทั้ง 2 ทะเลาะกัน
ตอนเล่นฟุตบอลมีเพื่อนคนไทยไปเรียนพร้อมกันจากประเทศไทยชื่อรังสิต กุนธร เขาวิ่งเร็วมาก ได้ 10.7 หรือ 10.9 นี้แหละ แต่มีทักษะเด่นคือเตะลูกคอนเนอร์ ลูกจะลอยเลี้ยวเข้าโกลด์ทางด้านมุมไกลเป็นประจำ
เวลานั้นประมาณปี 1965 นิวซีแลนด์กำลังเตรียมทีมชาติด้านฟุตบอล เพื่อมาเยือนเอเชียเพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่เก่งแค่รักบี้
กิตติศัพท์ของคุณรังสิตนั้นโด่งดังมาก จนโค้ชและแมวมองเห็นว่าเขาต้องมาคัดทีมชาติด้วย และคิดว่าเขาจะติดทีมชาติ ยิ่งเป็นคนไทยยิ่งดี เพราะเขาจะมาแข่งที่ประเทศไทยด้วย
แต่มีบุญกลับกรรมบัง การจะมาติดทีมชาติของคุณรังสิต ซึ่งเป็นนักเรียนไม่ได้สังกัดสโมสรเหมือนคนอื่นๆ เขา ทางผู้จัดการก็ต้องขออนุมัติจากโรงเรียนเสียก่อน
โรงเรียนดันไม่ยอมอนุมัติโดยไม่รู้สาเหตุ และไม่บอกว่าอะไรเป็นเหตุผล ทำให้คุณรังสิตเพื่อนผมอดติดทีมชาตินิวซีแลนด์ครับ
เรามารู้ภายหลังว่าโรงเรียนไม่ยอมก็เพราะว่าเขาไม่อาจรับผิดชอบได้ เพราะเป็นนักเรียนต่างชาติ และไม่ได้บอกผู้ปกครองที่เมืองไทย
นี่เป็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องละครับ แต่คุณรังสิตแกก็สร้างวีรกรรมด้านกีฬา เพราะแกเป็นคนนอกจากวิ่งเร็วแล้ว แกยังขว้างจักรไกลด้วย ไปแข่งกีฬาโรงเรียนระดับชาติได้ที่ 2 แล้วเขย่งก้าวกระโดดก็ติดอันดับด้วย ที่แกเก่งก็เพราะใช้การวิ่งเร็วเข้าช่วยนี้แหละ ผมนั้นไปคัดตัวทีมโรงเรียนในการแข่งทุ่มน้ำหนัก เขาเอา 5 คน ผมได้ที่ 6 จาก 20 คน แพ้คนได้ที่ 5 แค่ ครึ่งเซ็นต์เท่านั้น กระโดดข้ามรั้ว 110 เมตรเขาคัด เอาคนเดียวเท่านั้น ผมวิ่งนำมาเกือบชนะอยู่แล้ว จนถึงรั้วสุดท้ายแต่โดนแซงตรงที่แตะขอบริบบิ้น
เพื่อนๆ ผมจากวชิราวุธเห็นว่า ผมไปเรียนจบจากประเทศที่รักกีฬาได้เล่นกีฬามาก เพื่อนคนนี้คือคุณวิโรจน์ นวลแข เป็นนายกสมาคมรักบี้แห่งประเทศไทย แกเลยส่งลูก 2 คนไปเรียนทั้งหมด จนจบกลับมาก็เล่นกีฬากับพ่อได้
เวลานี้วิโรจน์ไปทำคุณประโยชน์ให้วงการรักบี้ คือไปต่อรองว่าการแข่งรักบี้ควรใช้น้ำหนักเป็นเกณฑ์ หาไม่แล้วทีมรักบี้จากเอเชียก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะชนะจากยุโรปหรืออัฟริกาใต้ เพราะแม้แต่พวกแปซิฟิกก็ใหญ่เป็นยักษ์สู้ไม่ได้เกี่ยงแค่น้ำหนัก
ปรากฏว่าการเจรจากับนิวซีแลนด์ได้ผลทำให้ต่อไปเราไปแข่งกับนิวซีแลนด์ก็จะสู้กันแฟร์แล้วครับ เพราะจะใช้น้ำหนักเปรียบกัน ผมเข้าใจว่านิวซีแลนด์คงโอเค เพราะระดับโรงเรียนเขาใช้น้ำหนักอยู่แล้ว
ถ้านิวซีแลนด์ยอมรับเงื่อนไขที่คุณวิโรจน์ นวลแข เสนอต่อไปประเทศอื่นๆ ก็จะโอเคตามไปด้วย
นับว่านี่เป็นการเปิดศักราชใหม่ในวงการรักบี้เอเชียครับ
ผมพูดเรื่องกีฬาเพราะว่ายังไม่มีรัฐบาลใดทำวันเสาร์เป็นวันกีฬาเลย และไม่มีการริเริ่มจัดให้มีการแข่งกีฬาระหว่างโรงเรียนทุกวันเสาร์ เราไม่ส่งเสริมให้ผู้ใหญ่จัดทีมกันเป็นคลับ แต่ละหมู่บ้านสามารถมีทีมฟุตบอล ทีมบาสเก็ตบอล ทีมเทนนิส ทีมแบตมินตัน ฯลฯ แล้วใช้วันเสาร์เช้า-บ่าย แข่งกันได้
กีฬาช่วยให้พ้นจากยาเสพติด สอนให้รู้แพ้รู้ชนะ
และแน่นอนทำคนให้เป็นคนครับ
กีฬายังสอนให้เรารู้จักแพ้และรู้จักชนะด้วย
ไม่มีใครหรอกที่เล่นกีฬาแล้วชนะหรือแพ้ตลอดกาล
ผมเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็ก อายุ 10 ขวบ อยู่โรงเรียนประจำก็เล่นมันตั้งแต่ฟุตบอลไปจนถึงรักบี้ ซึ่งเป็นรุ่นจิ๋ว พอโตก็เล่นรุ่นเล็ก รุ่นกลาง ไปจนถึงรุ่นใหญ่ สมัยก่อนใช้วัดกันที่ความสูงครับ ต่อมาใช้วัดด้วยน้ำหนัก
พอไปเรียนที่นิวซีแลนด์ ก็วัดด้วยน้ำหนักคิดเป็นสโตน (สงสัยใช้ถ่วงกันด้วยก้อนหิน) ผมไปเล่นฝรั่งมันดูถูกนึกว่ามาจากบ้านป่าเมืองเถื่อนจะเล่นเป็นหรือ
ผมก็เล่นได้ครับ จนมันเลิกดูถูก นิวซีแลนด์นั้นถือว่าเป็นแชมป์รักบี้ระดับโลก ผมน้ำหนักน้อยครับ แค่ 60 นิดหน่อย เพื่อนร่วมทีมผม 100 ขึ้นไปทั้งนั้น
ผมเล่นจนได้ติดทีมโรงเรียน แต่ทานแรงพวกน้ำหนักไม่ไหว เล่นอยู่ครึ่งปี โดนฝรั่งมันผลักก็กระเด็นออกนอกสนาม แต่ฝรั่งก็กลัวผมจนขนาดเพราะผมจับต่ำมาก คือจับข้อเท้ามันจนหัวขะมำ
พอเล่นรักบี้รุ่นเดอะไม่ไหว ก็เลยมาเล่นรุ่นกลาง น้ำหนักน้อยหน่อยแล้วผมก็เล่นฟุตบอลควบไปด้วย กีฬาที่นิวซีแลนด์เล่นกันทุกวันเสาร์ครับพี่น้อง ไอ้พวกรักบี้ก็ไม่อยากให้ผมเล่น เล่นบอล พวกฟุตบอลก็ไม่อยากให้เล่นรักบี้
ดังนั้นผมประนีประนอม โดยเล่นรักบี้ครึ่งแรก แล้วเล่นฟุตบอลครึ่งหลังซึ่งก็แปลกดี โค้ชทั้ง 2 ทะเลาะกัน
ตอนเล่นฟุตบอลมีเพื่อนคนไทยไปเรียนพร้อมกันจากประเทศไทยชื่อรังสิต กุนธร เขาวิ่งเร็วมาก ได้ 10.7 หรือ 10.9 นี้แหละ แต่มีทักษะเด่นคือเตะลูกคอนเนอร์ ลูกจะลอยเลี้ยวเข้าโกลด์ทางด้านมุมไกลเป็นประจำ
เวลานั้นประมาณปี 1965 นิวซีแลนด์กำลังเตรียมทีมชาติด้านฟุตบอล เพื่อมาเยือนเอเชียเพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่เก่งแค่รักบี้
กิตติศัพท์ของคุณรังสิตนั้นโด่งดังมาก จนโค้ชและแมวมองเห็นว่าเขาต้องมาคัดทีมชาติด้วย และคิดว่าเขาจะติดทีมชาติ ยิ่งเป็นคนไทยยิ่งดี เพราะเขาจะมาแข่งที่ประเทศไทยด้วย
แต่มีบุญกลับกรรมบัง การจะมาติดทีมชาติของคุณรังสิต ซึ่งเป็นนักเรียนไม่ได้สังกัดสโมสรเหมือนคนอื่นๆ เขา ทางผู้จัดการก็ต้องขออนุมัติจากโรงเรียนเสียก่อน
โรงเรียนดันไม่ยอมอนุมัติโดยไม่รู้สาเหตุ และไม่บอกว่าอะไรเป็นเหตุผล ทำให้คุณรังสิตเพื่อนผมอดติดทีมชาตินิวซีแลนด์ครับ
เรามารู้ภายหลังว่าโรงเรียนไม่ยอมก็เพราะว่าเขาไม่อาจรับผิดชอบได้ เพราะเป็นนักเรียนต่างชาติ และไม่ได้บอกผู้ปกครองที่เมืองไทย
นี่เป็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องละครับ แต่คุณรังสิตแกก็สร้างวีรกรรมด้านกีฬา เพราะแกเป็นคนนอกจากวิ่งเร็วแล้ว แกยังขว้างจักรไกลด้วย ไปแข่งกีฬาโรงเรียนระดับชาติได้ที่ 2 แล้วเขย่งก้าวกระโดดก็ติดอันดับด้วย ที่แกเก่งก็เพราะใช้การวิ่งเร็วเข้าช่วยนี้แหละ ผมนั้นไปคัดตัวทีมโรงเรียนในการแข่งทุ่มน้ำหนัก เขาเอา 5 คน ผมได้ที่ 6 จาก 20 คน แพ้คนได้ที่ 5 แค่ ครึ่งเซ็นต์เท่านั้น กระโดดข้ามรั้ว 110 เมตรเขาคัด เอาคนเดียวเท่านั้น ผมวิ่งนำมาเกือบชนะอยู่แล้ว จนถึงรั้วสุดท้ายแต่โดนแซงตรงที่แตะขอบริบบิ้น
เพื่อนๆ ผมจากวชิราวุธเห็นว่า ผมไปเรียนจบจากประเทศที่รักกีฬาได้เล่นกีฬามาก เพื่อนคนนี้คือคุณวิโรจน์ นวลแข เป็นนายกสมาคมรักบี้แห่งประเทศไทย แกเลยส่งลูก 2 คนไปเรียนทั้งหมด จนจบกลับมาก็เล่นกีฬากับพ่อได้
เวลานี้วิโรจน์ไปทำคุณประโยชน์ให้วงการรักบี้ คือไปต่อรองว่าการแข่งรักบี้ควรใช้น้ำหนักเป็นเกณฑ์ หาไม่แล้วทีมรักบี้จากเอเชียก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะชนะจากยุโรปหรืออัฟริกาใต้ เพราะแม้แต่พวกแปซิฟิกก็ใหญ่เป็นยักษ์สู้ไม่ได้เกี่ยงแค่น้ำหนัก
ปรากฏว่าการเจรจากับนิวซีแลนด์ได้ผลทำให้ต่อไปเราไปแข่งกับนิวซีแลนด์ก็จะสู้กันแฟร์แล้วครับ เพราะจะใช้น้ำหนักเปรียบกัน ผมเข้าใจว่านิวซีแลนด์คงโอเค เพราะระดับโรงเรียนเขาใช้น้ำหนักอยู่แล้ว
ถ้านิวซีแลนด์ยอมรับเงื่อนไขที่คุณวิโรจน์ นวลแข เสนอต่อไปประเทศอื่นๆ ก็จะโอเคตามไปด้วย
นับว่านี่เป็นการเปิดศักราชใหม่ในวงการรักบี้เอเชียครับ
ผมพูดเรื่องกีฬาเพราะว่ายังไม่มีรัฐบาลใดทำวันเสาร์เป็นวันกีฬาเลย และไม่มีการริเริ่มจัดให้มีการแข่งกีฬาระหว่างโรงเรียนทุกวันเสาร์ เราไม่ส่งเสริมให้ผู้ใหญ่จัดทีมกันเป็นคลับ แต่ละหมู่บ้านสามารถมีทีมฟุตบอล ทีมบาสเก็ตบอล ทีมเทนนิส ทีมแบตมินตัน ฯลฯ แล้วใช้วันเสาร์เช้า-บ่าย แข่งกันได้
กีฬาช่วยให้พ้นจากยาเสพติด สอนให้รู้แพ้รู้ชนะ
และแน่นอนทำคนให้เป็นคนครับ