“สนธิ” ให้กำลังใจทีมงาน-สมาชิก “ยามเฝ้าแผ่นดิน” เดินหน้าสู้ต่อ หลังนักการเมืองหลายคนทำให้ผิดหวัง ย้ำต้องยึดมั่นศรัทธา-เอาธรรมนำหน้า ชี้เครือข่าย “ทักษิณ” มีทุกวงการพร้อมเสนอผลประโยชน์เข้าล่อ จน “เสนาะ-บรรหาร-ประชัย” แสดงตัวตนที่แท้จริง
รายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ออกอากาศทางเอเอสทีวี คืนวันที่ 7 มกราคม นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และนางสโรชา พรอุมดศักดิ์ ร่วมดำเนินรายการ ในช่วงที่ 2 ผู้ดำเนินรายการได้แสดงความผิดหวังต่อนักการเมืองหลายคนที่เปลี่ยนจุดยืนจากที่เคยพูดเอาไว้ช่วงก่อนการเลือกตั้งแล้วหันไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน โดยเฉพาะ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย และนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช
ด้าน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการและเอเอสทีวี ได้โทรศัพท์เข้ามาแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจผู้ดำเนินรายการว่า ขณะนี้เรากำลังเผชิญกับความเป็นอวิชชาของสังคมไทย และกิเลสที่เข้ามายั่วยวนมันมีมาก มีการเสนอผลประโยชน์ เสนอลาภ หลายคนได้แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา ไม่ว่าจะเป็นนายเสนาะ เทียนทอง นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ และนายบรรหาร ศิลปอาชา
นายสนธิกล่าวต่อว่า ในการเดินหน้าทำงานนั้น เราทำโดยเอาธรรมนำหน้า ซึ่งตนได้เอาธรรมนำหน้ามาตลอด มาถึงตอนนี้ไม่ได้เสียใจ ในวันข้างหน้าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หาก พ.ต.ท.ทักษิณกลับมา พวกเราไม่เหลืออะไร แต่เรายังอยู่กับธรรมะ ซึ่งเป็นธรรมที่ถูกต้องของพระพุทธเจ้า ถ้าจิตเราสงบ เราไม่กังวล เราทำงานต่อสู้เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน โดนโจมตีบาดเจ็บสาหัสแค่ไหนก็ต้องอดทน
นายสนธิกล่าวอีกว่า มีคนมาต่อว่าว่าทำไมไม่รับผลประโยชน์จะได้อยู่อย่างมีความสุข แต่ได้ยืนยันว่า ความสุขมันเป็นเรื่องของจิตใจ ที่จะทำให้เราเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ ทุกอย่างในโลกนี้เป็นเรื่องสมมติและเป็นอนิจจัง จึงอยากให้กำลังใจทุกคนว่า ความเชื่อมั่นที่เรามี ถ้าเราศรัทธาต้องยืนให้มั่นคงให้หนักแน่น ลมพายุความชั่วร้ายพัดมามันแรง เราอย่าวิ่งหลบในบ้านเข้าที่กำบังซึ่งหมายถึงยอมรับลาภที่เขายื่นให้
นายสนธิเปิดเผยอีกว่า มีคนที่ทำงานให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณติดต่อมาจากลอนดอนผ่านนายวิโรจน์ นวลแข เพื่อขอเจรจาด้วย แต่ตนไม่รับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเครือข่ายของ พ ต.ท.ทักษิณนั้น มีทั่วบ้านทั่วเมือง มีคนพร้อมรับลาภ บางคนรับเงินมาแล้ว บางคนอยู่ในกระบวนการยุติธรรม อยู่ใน กกต. เป็นทหาร เป็นตำรวจ ทุกวงการมีคนรับเงินรับทองมาหมด
แต่คำถามก็คือ เราจะเป็นอย่างพวกเขาหรือยืนอยู่บนธรรม ถ้าเราเอาธรรมนำหน้า เราไม่เปลี่ยนแปลง เราไม่มีวันจนใจ ถึงจนทรัพย์แต่รวยใจ ที่สำคัญเวลาเราตาย วินาทีสุดท้ายเราจะภูมิใจในตัวเรา ที่ตนยืนอยู่ทุกวันนี้ ก็เพื่อความถูกต้อง และให้ยืนอยู่ในสังคมอย่างสง่าผ่าเผย มองตาทุกคนได้ ไม่ต้องหลบตาใคร
“มนุษย์เราทุกวันนี้ไม่เกรงกลัวประวัติศาสตร์ ผมอยากจะดูวันตายของผม กับวันตายของคุณบรรหาร คุณเสนาะ ว่าคนรุ่นหลังจะพูดถึงผม กับคุณเสนาะ คุณบรรหารอย่างไร ผมเข้าใจ คนบางคนรับเงินค่าเลือกตั้งที่จ่ายไปคืนแล้ว พร้อมจะให้คนบางคนเป็นนายกฯ อุดมการณ์ก็หมด ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ไม่มีเหลือ
แต่ถ้าเรายังรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราอย่าไปกังวล ขอให้เรามีศรัทธา ยืนให้มั่น แล้วในที่สุดเราจะมองตาทุกคนในสังคมได้อย่างมั่นใจ และเมื่อมองแล้วก็ยิ้ม ที่เราได้ทำเพื่อบ้านเมือง เราจะบาดเจ็บก็ช่างมัน เพราะทุกอย่างมันเรื่องสมมติทั้งนั้น ที่ไม่สมมติ ก็คือคุณงามความดีอย่างเดียว” นายสนธิกล่าว
