ที่สุดก็ไม่มีเหตุแทรกซ้อน ! นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กำเสียงส่วนใหญ่ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ภายใต้การสนับสนุน 5 เส้า เนวิน-มัชฌิมา-ชาติไทย-พญานาค-ลำตะคอง บวกกลุ่ม 16 เดิมนิดหน่อย
ที่จริงวงการเชื่อว่างานนี้ไม่พลิกตั้งแต่คืนที่ทักษิณโฟนอิน ต่อมาก็มีการยกเลิกกำหนดนัดชุมนุมปิดสภาของเสื้อแดง มีการโทรฯสั่งยกเลิกพลพรรคเสื้อแดงที่เชียงใหม่-อีสานกะทันหัน ส่งผลให้เสื้อแดงที่หน้าสภาที่ไม่มาก
ทักษิณ ยกเลิกโฟนอินสด – ไม่น่าใช่แค่เรื่องเทคนิคการสื่อสารที่เป็นข้ออ้าง เพราะสำหรับทักษิณนั้นถ้าไม่มั่นใจย่อมไม่ชักดาบลงกระบี่
ก่อนวันงานที่สนามศุภชลาศัย คนทั้งสังคมจับจ้องคำพูดของทักษิณมีน้ำหนักถึงขั้นพลิกขั้วการเมืองได้ตามคำโวของคนบางคนได้หรือไม่ ... คนเสื้อแดงตั้งคาดหวังเรื่องนี้ไว้สูง .. สื่อน้อยใหญ่เงี่ยหูฟัง – แต่ที่สุดมีแค่เทปหมาจนตรอก หลอกด่าพวกเนรคุณ เท่านั้น
ถ้าโฟนอินสดแล้วไม่มีอะไรพลิก- น้ำหนักของทักษิณจะถดถอยลงไปกว่าที่เป็นอยู่
พูดแล้วไม่เกิดอะไรขึ้น ขั้วไม่พลิก ทักษิณจะเสียสุนัขอย่างยิ่ง
ดังนั้นไม่พูดเป็นทางออกที่สวยที่สุด !!!
ส่วนการเตรียมพลพรรคเสื้อแดงไปล้อมสภาก็เหมือนกัน ปากบอกว่ามีความมั่นใจไม่ต้องไปล้อมแล้วทางหนึ่งส่งสัญญาณไปยังกลุ่มส.ส.เป้าหมายที่หวังจะพลิกสถานการณ์ แต่อีกทางหนึ่งไม่มั่นใจว่าล้อมแล้วได้อะไร !!?
แพ้เกมในสภาแล้ว ยังอาจจะแพ้เกมบนถนนอู่ทองในซ้ำไปอีก เพราะคนเสื้อแดงที่เกณฑ์ไปนั้นไม่ได้เตรียมเพื่อการปักหลักพักค้าง
ล้อมแล้วยังแพ้ แพ้แล้วจะทำอย่างไร ?
ที่สุดสถานการณ์บังคับให้กลับบ้านเร็วแบบตัวใครตัวมันอยู่ดี
.................
เกมก่อนจะมีการลงคะแนนพลพรรคของ เนวิน ชิดชอบ มีน้ำหนักสูงยิ่ง เพราะเป็นกุญแจความสำเร็จของทั้ง 2 ขั้ว วิ่งไปทางไหนน้ำหนักจะตกไปที่ข้างนั้น มิหนำซ้ำยังมีพ่อชัย ชิดชอบนั่งบัลลังก์ประธานสภาฯ ค้ำอีกชั้น เผื่อเหลือเผื่อขาดขึ้นมาพ่อชัยยังเป็นไพ่อีกใบที่ตีได้
ก่อนลงคะแนนในสภาฯ น้ำหนักของเนวิน ชั่งแล้วยังหนักกว่า สุเทพ เทือกสุบรรณ บวกกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมกันเสียอีก
แม้กลุ่ม 16 จะแยกย้ายไปแล้วแต่ครั้งนี้เป็นเกมการเมืองภายในกลุ่ม 16 ที่น่าสนใจอีกรอบ เนวินจับมือกับกลุ่ม 16 อีสาน-กลาง หักหัวหน้ากลุ่ม สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ – วราเทพ รัตนากร เปลี่ยนขั้วอำนาจสำเร็จ
เกมการตั้งรัฐบาล( ก่อนและในสภา) ครั้งนี้หากไม่พูดถึง เนวิน ย่อมไม่ได้
จำเป็นต้องให้เครดิตเนวินจึงขอตั้งชื่อเกมการตั้งรัฐบาลรอบนี้ว่า ‘รัฐบาลอภิเนวิน’ ความหมายว่าอย่างไรลองแปลกันดู !
อภิเนวิน- เรียกเสียงโห่ เสียงตำหนิจากกองเชียร์ไปพอหอมปากหอมคอก่อนหน้า และมีแนวโน้มจะเป็นเป้าของก้อนอิฐจากทั้งฝ่ายเสื้อแดง และ เสื้อเหลืองบางส่วนไปยังรัฐบาลในอนาคต
จากจุดแข็งในช่วงก่อนเปิดสภาและระหว่างประชุมสภา สามารถแปรเป็นจุดอ่อนหากไม่ระวัง
นี่เป็นความโหดร้ายของการเมืองที่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จำเป็นต้องแบกรับไป
....................
สถานการณ์บ้านเมืองปี 2552 หนักหนาสาหัส ดูเหมือนประชาธิปัตย์ถูกจับให้มาบริหารประเทศช่วงวิกฤตเศรษฐกิจอีกครั้ง แต่ปัญหาเฉพาะหน้าคือการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้แรงกดดันรอบด้าน
จากเสื้อแดง-ฝ่ายค้าน ที่จ้องหาช่องประกาศเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ทันทีที่มีโอกาส จากภาคธุรกิจที่ตั้งความหวังไว้ จากชาวพันธมิตรทั่วประเทศที่อยากจะเห็นการเมืองที่หลุดจากการเมืองแบบเก่า พร้อม ๆ กับแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก
เอาแค่หน้าตาของคณะรัฐบาลสามารถจะบอกได้ว่ารัฐบาลนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน !
การเมืองหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ น้ำหนักของ อภิสิทธิ์-สุเทพ จะกลับมาอีกรอบ ขณะที่เนวิน ที่มีน้ำหนักมากสุดก่อนลงคะแนนจะถูกสภาพแวดล้อมลดน้ำหนักลงไปอยู่ในระนาบเดียวกับ เสธฯหนั่น ลำตะคอง พญานาค ริมน้ำ และอื่น ๆ
เพราะการเมืองยุคหลังพันธมิตร เป็นการเมืองที่ไม่เหมือนเดิม สภาพแวดล้อมทางการเมืองเปลี่ยนไป
กลุ่มการเมืองร่วมรัฐบาลมีน้ำหนัก - แรงกดดันของมวลชนและสังคมก็มีน้ำหนักเช่นกัน
ระยะสั้นรอดูหน้าตารัฐบาล ระยะเลยกว่านั้นไปหน่อยรอดูนโยบายรัฐบาล
ดูว่าประชาธิปัตย์เข้าใจเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด !?
......................
ระหว่างการปิดต้นฉบับ มีเหตุวุ่นวายที่หน้ารัฐสภาเล็กน้อย มีการฮือไปทุบรถ มีคนหัวแตกถึงเลือด และที่สุดม็อบเสื้อแดงอันธพาลยกกลับสนามหลวงเรียบร้อย
ระหว่างนั้นได้ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของพลพรรคเสื้อแดงต่างจังหวัดพบว่า สับสนอลหม่านพอสมควรเพราะระหว่างที่จตุพร พรหมพันธ์ ออกโทรทัศน์NBTขอไม่ให้เสื้อแดงมาสมทบที่หน้ารัฐสภา ปรากฏว่าวิทยุชุมชนของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ระดมคนเตรียมเข้ากรุงเทพฯ กันยกใหญ่ ‘เป่ คลองเตย’ ที่ไปปักหลักเมืองเหนือหลายวันแล้วถึงกับสั่งให้เตรียมข้าวปลาอาหารไปปักหลักอยู่ยาว
แต่ที่สุด เมื่อเวลาประมาณเที่ยงวันแกนนำของพวกเขาประสานงานกันเพิ่งจะทราบว่าไม่ให้เข้ากรุงฯ ให้ชะลอการเข้ากรุงฯ ออกไปก่อน
นี่เป็นเหตุการณ์เล็ก ๆ สะท้อนว่าแกนนำที่กุมยุทธศาสตร์มวลชนเสื้อแดงไม่ได้เตรียมการรับเรื่องนี้ไว้ อีกทั้งมีระบบการประสานงาน สั่งการม็อบหน้าสภา และ ม็อบอีสาน-เหนือ ที่ยังมีช่องโหว่
ตลอด 6 เดือนมานี้ ขั้วอำนาจเดิมได้สร้างพลังมวลชนอันธพาลเอาไว้จำนวนหนึ่ง เหตุการณ์ทำร้ายร่างกาย เหตุการณ์ลอบฆ่า ลอบระเบิด การปลุกระดมคนให้เกลียดให้ฆ่าฟันเกิดขึ้นทั่วไป
การลุกฮือเล็ก ๆของ ‘เสื้อแดงไร้หัว’ ที่หน้ารัฐสภาฯ เป็นสัญญาณเตือนภัยที่ไม่ควรมองข้าม
เป็นเรื่องที่น่าสนใจพอสมควรว่าแกนนำ 3 เกลอหัวขวดจะทำอย่างไรต่อ
จะดึงจุดเด่นความเป็นเสื้อแดงอันธพาลออกมาให้ถึงที่สุด
หรือเป็นเสื้อแดงรักความสงบแบบที่ทักษิณ ชินวัตรเยินยอเอาไว้
เพราะเวลานี้ขั้วอำนาจเดิมเหลือแค่พลพรรคเสื้อแดงเท่านั้นที่เป็นทัพหลัก .
ที่จริงวงการเชื่อว่างานนี้ไม่พลิกตั้งแต่คืนที่ทักษิณโฟนอิน ต่อมาก็มีการยกเลิกกำหนดนัดชุมนุมปิดสภาของเสื้อแดง มีการโทรฯสั่งยกเลิกพลพรรคเสื้อแดงที่เชียงใหม่-อีสานกะทันหัน ส่งผลให้เสื้อแดงที่หน้าสภาที่ไม่มาก
ทักษิณ ยกเลิกโฟนอินสด – ไม่น่าใช่แค่เรื่องเทคนิคการสื่อสารที่เป็นข้ออ้าง เพราะสำหรับทักษิณนั้นถ้าไม่มั่นใจย่อมไม่ชักดาบลงกระบี่
ก่อนวันงานที่สนามศุภชลาศัย คนทั้งสังคมจับจ้องคำพูดของทักษิณมีน้ำหนักถึงขั้นพลิกขั้วการเมืองได้ตามคำโวของคนบางคนได้หรือไม่ ... คนเสื้อแดงตั้งคาดหวังเรื่องนี้ไว้สูง .. สื่อน้อยใหญ่เงี่ยหูฟัง – แต่ที่สุดมีแค่เทปหมาจนตรอก หลอกด่าพวกเนรคุณ เท่านั้น
ถ้าโฟนอินสดแล้วไม่มีอะไรพลิก- น้ำหนักของทักษิณจะถดถอยลงไปกว่าที่เป็นอยู่
พูดแล้วไม่เกิดอะไรขึ้น ขั้วไม่พลิก ทักษิณจะเสียสุนัขอย่างยิ่ง
ดังนั้นไม่พูดเป็นทางออกที่สวยที่สุด !!!
ส่วนการเตรียมพลพรรคเสื้อแดงไปล้อมสภาก็เหมือนกัน ปากบอกว่ามีความมั่นใจไม่ต้องไปล้อมแล้วทางหนึ่งส่งสัญญาณไปยังกลุ่มส.ส.เป้าหมายที่หวังจะพลิกสถานการณ์ แต่อีกทางหนึ่งไม่มั่นใจว่าล้อมแล้วได้อะไร !!?
แพ้เกมในสภาแล้ว ยังอาจจะแพ้เกมบนถนนอู่ทองในซ้ำไปอีก เพราะคนเสื้อแดงที่เกณฑ์ไปนั้นไม่ได้เตรียมเพื่อการปักหลักพักค้าง
ล้อมแล้วยังแพ้ แพ้แล้วจะทำอย่างไร ?
ที่สุดสถานการณ์บังคับให้กลับบ้านเร็วแบบตัวใครตัวมันอยู่ดี
.................
เกมก่อนจะมีการลงคะแนนพลพรรคของ เนวิน ชิดชอบ มีน้ำหนักสูงยิ่ง เพราะเป็นกุญแจความสำเร็จของทั้ง 2 ขั้ว วิ่งไปทางไหนน้ำหนักจะตกไปที่ข้างนั้น มิหนำซ้ำยังมีพ่อชัย ชิดชอบนั่งบัลลังก์ประธานสภาฯ ค้ำอีกชั้น เผื่อเหลือเผื่อขาดขึ้นมาพ่อชัยยังเป็นไพ่อีกใบที่ตีได้
ก่อนลงคะแนนในสภาฯ น้ำหนักของเนวิน ชั่งแล้วยังหนักกว่า สุเทพ เทือกสุบรรณ บวกกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมกันเสียอีก
แม้กลุ่ม 16 จะแยกย้ายไปแล้วแต่ครั้งนี้เป็นเกมการเมืองภายในกลุ่ม 16 ที่น่าสนใจอีกรอบ เนวินจับมือกับกลุ่ม 16 อีสาน-กลาง หักหัวหน้ากลุ่ม สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ – วราเทพ รัตนากร เปลี่ยนขั้วอำนาจสำเร็จ
เกมการตั้งรัฐบาล( ก่อนและในสภา) ครั้งนี้หากไม่พูดถึง เนวิน ย่อมไม่ได้
จำเป็นต้องให้เครดิตเนวินจึงขอตั้งชื่อเกมการตั้งรัฐบาลรอบนี้ว่า ‘รัฐบาลอภิเนวิน’ ความหมายว่าอย่างไรลองแปลกันดู !
อภิเนวิน- เรียกเสียงโห่ เสียงตำหนิจากกองเชียร์ไปพอหอมปากหอมคอก่อนหน้า และมีแนวโน้มจะเป็นเป้าของก้อนอิฐจากทั้งฝ่ายเสื้อแดง และ เสื้อเหลืองบางส่วนไปยังรัฐบาลในอนาคต
จากจุดแข็งในช่วงก่อนเปิดสภาและระหว่างประชุมสภา สามารถแปรเป็นจุดอ่อนหากไม่ระวัง
นี่เป็นความโหดร้ายของการเมืองที่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จำเป็นต้องแบกรับไป
....................
สถานการณ์บ้านเมืองปี 2552 หนักหนาสาหัส ดูเหมือนประชาธิปัตย์ถูกจับให้มาบริหารประเทศช่วงวิกฤตเศรษฐกิจอีกครั้ง แต่ปัญหาเฉพาะหน้าคือการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้แรงกดดันรอบด้าน
จากเสื้อแดง-ฝ่ายค้าน ที่จ้องหาช่องประกาศเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ทันทีที่มีโอกาส จากภาคธุรกิจที่ตั้งความหวังไว้ จากชาวพันธมิตรทั่วประเทศที่อยากจะเห็นการเมืองที่หลุดจากการเมืองแบบเก่า พร้อม ๆ กับแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก
เอาแค่หน้าตาของคณะรัฐบาลสามารถจะบอกได้ว่ารัฐบาลนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน !
การเมืองหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ น้ำหนักของ อภิสิทธิ์-สุเทพ จะกลับมาอีกรอบ ขณะที่เนวิน ที่มีน้ำหนักมากสุดก่อนลงคะแนนจะถูกสภาพแวดล้อมลดน้ำหนักลงไปอยู่ในระนาบเดียวกับ เสธฯหนั่น ลำตะคอง พญานาค ริมน้ำ และอื่น ๆ
เพราะการเมืองยุคหลังพันธมิตร เป็นการเมืองที่ไม่เหมือนเดิม สภาพแวดล้อมทางการเมืองเปลี่ยนไป
กลุ่มการเมืองร่วมรัฐบาลมีน้ำหนัก - แรงกดดันของมวลชนและสังคมก็มีน้ำหนักเช่นกัน
ระยะสั้นรอดูหน้าตารัฐบาล ระยะเลยกว่านั้นไปหน่อยรอดูนโยบายรัฐบาล
ดูว่าประชาธิปัตย์เข้าใจเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด !?
......................
ระหว่างการปิดต้นฉบับ มีเหตุวุ่นวายที่หน้ารัฐสภาเล็กน้อย มีการฮือไปทุบรถ มีคนหัวแตกถึงเลือด และที่สุดม็อบเสื้อแดงอันธพาลยกกลับสนามหลวงเรียบร้อย
ระหว่างนั้นได้ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของพลพรรคเสื้อแดงต่างจังหวัดพบว่า สับสนอลหม่านพอสมควรเพราะระหว่างที่จตุพร พรหมพันธ์ ออกโทรทัศน์NBTขอไม่ให้เสื้อแดงมาสมทบที่หน้ารัฐสภา ปรากฏว่าวิทยุชุมชนของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ระดมคนเตรียมเข้ากรุงเทพฯ กันยกใหญ่ ‘เป่ คลองเตย’ ที่ไปปักหลักเมืองเหนือหลายวันแล้วถึงกับสั่งให้เตรียมข้าวปลาอาหารไปปักหลักอยู่ยาว
แต่ที่สุด เมื่อเวลาประมาณเที่ยงวันแกนนำของพวกเขาประสานงานกันเพิ่งจะทราบว่าไม่ให้เข้ากรุงฯ ให้ชะลอการเข้ากรุงฯ ออกไปก่อน
นี่เป็นเหตุการณ์เล็ก ๆ สะท้อนว่าแกนนำที่กุมยุทธศาสตร์มวลชนเสื้อแดงไม่ได้เตรียมการรับเรื่องนี้ไว้ อีกทั้งมีระบบการประสานงาน สั่งการม็อบหน้าสภา และ ม็อบอีสาน-เหนือ ที่ยังมีช่องโหว่
ตลอด 6 เดือนมานี้ ขั้วอำนาจเดิมได้สร้างพลังมวลชนอันธพาลเอาไว้จำนวนหนึ่ง เหตุการณ์ทำร้ายร่างกาย เหตุการณ์ลอบฆ่า ลอบระเบิด การปลุกระดมคนให้เกลียดให้ฆ่าฟันเกิดขึ้นทั่วไป
การลุกฮือเล็ก ๆของ ‘เสื้อแดงไร้หัว’ ที่หน้ารัฐสภาฯ เป็นสัญญาณเตือนภัยที่ไม่ควรมองข้าม
เป็นเรื่องที่น่าสนใจพอสมควรว่าแกนนำ 3 เกลอหัวขวดจะทำอย่างไรต่อ
จะดึงจุดเด่นความเป็นเสื้อแดงอันธพาลออกมาให้ถึงที่สุด
หรือเป็นเสื้อแดงรักความสงบแบบที่ทักษิณ ชินวัตรเยินยอเอาไว้
เพราะเวลานี้ขั้วอำนาจเดิมเหลือแค่พลพรรคเสื้อแดงเท่านั้นที่เป็นทัพหลัก .