ความจริงคนหลายคนเข้าใจผิดคิดว่า มีแต่พันธมิตรประชาธิปไตยเท่านั้นที่ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ความเป็นจริงแล้วองค์กรอิสระ และนักวิชาการเกือบทุกสถาบัน รวมทั้งปัญญาชนอิสระต่างก็เห็นว่าพรรคพลังประชาชนมีวาระซ่อนเร้น และมุ่งประเด็นในเรื่องส่วนตัว และเอาประโยชน์ของพรรคเป็นตัวตั้งทั้งสิ้น
ที่น่าสนใจคือ ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ บรรดา ส.ส.ทุกคนต่างก็ยอมรับต่อกติกาลงสมัครรับเลือกตั้งเข้ามาทุกคน
และเมื่อเข้ามาจนตั้งรัฐบาลได้แล้ว
ก็หาได้มีการบอกว่าจะมาแก้รัฐธรรมนูญกันเป็นเรื่องเร่งด่วนแต่อย่างไร
นี่คือบทพิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลนี้มาคิดแก้กติกาบ้านเมืองต่อเมื่อมันมีปัญหาต่อพรรคและบุคคลของพรรคเท่านั้นเอง
แสดงให้เราเห็นกันชัดๆ ว่า เมื่อพวกเขาไม่ได้ประโยชน์ก็อยากแก้ไขเพื่อให้พวกพ้องได้ประโยชน์
อำนาจมีอยู่แล้ว ก็ใช้ได้ ปกครองได้
จะอ้างว่าปกครองไม่ได้ เพราะมันมีรัฐธรรมนูญ คอยบังคับไม่ให้ทำอะไรได้นั้น มันไม่ถูกต้องหรอกครับ
แม่บททางกฎหมายคือกติกา มันไม่ใช่เรื่องจุกจิกหยิมหยอยเกี่ยวกับการบริหารแต่ประการใด
ทุกวันนี้ก็เห็นบริหารกันได้ ไม่มีปัญหาอะไรนี่หว่า
มันเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น
ผมอยากจะบอกว่า รัฐบาลที่ปกครองที่ดีที่สุดนั้น จะเป็นรัฐบาลที่ใช้อำนาจน้อยที่สุด
รัฐบาลที่ใช้อำนาจมากที่สุด ก็เป็นรัฐบาลที่เลวที่สุด
มีตัวอย่างมากมาย อย่างเผด็จการนั่นเป็นรัฐบาลที่ผูกขาดอำนาจ และใช้อำนาจโดยคนๆ เดียว ตามอำเภอใจ
เคยมีหรือไม่ที่ปกครองแล้วมันดี
อาจมีการเถียงว่า เผด็จการแบบคุณธรรมก็มี
ผมว่ามันไม่มีหรอก เพราะถ้ามีคุณธรรมจริงๆ เขาจะไม่เป็นเผด็จการกันหรอก ใช้วิธีการอื่นก็ได้ครับ
การปกครองที่ดีที่สุด อำนาจต้องอยู่กับประชาชน
แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งควรจะลงประชามาติเพราะเป็นเรื่องใหญ่
รัฐบาลมาพูดว่า พวกตนเป็นผู้แทนประชาชนแล้ว ถือว่าได้มติจากประชาชนมาแล้ว
แต่ขอโทษนะ พรรคของตัวเองนั้น จะโดนยุบพรรคอยู่รอมร่อ อย่างนี้แล้วมันคิดกันหรือเปล่า
แน่นอน แม้ไม่โดนยุบพรรคก็เถอะ
การเป็นตัวแทนในสภา เขาให้ออกให้แก้กฎหมาย
แต่แม่บทกฎหมายสำคัญอย่างรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ
ต้องให้ประชาชนมีเสียงมีสิทธิมีส่วนครับ
หาใช่จะกีดกันประชาชนออกไปไม่
จะอ้างว่าใช้เงินมากไม่ได้
ทีพวกรัฐบาลใช้งบประมาณปีละมากๆ หรือโครงการบางโครงการเดียวเป็นหมื่นๆ ล้าน ยังทำได้
กับแค่พันกว่าล้าน กับประชามตินั้น ผมว่าไม่มาก
แต่คุ้มค่าแน่นอน
ความจริงแล้ว วิธีการที่จะเอารัฐธรรมนูญฉบับเก่ามาใช้ก็ดีอยู่
แต่ตอนที่เขาร่างรัฐธรรมนูญกัน เวลานั้น ส.ส.ไม่เห็นออกมาตีโพยตีพายเลยว่า มันจะทำให้การบริหารงานลำบาก
เห็นมีแต่ชมว่าเป็นฉบับที่ดีมากเท่านั้น
พอไม่ได้ประโยชน์แบบต้องการ
กลายเป็นว่า ต้องแก้เสียแล้ว อะไรไม่ดีโทษที่อื่น ไม่ดูตัวเองเลย อย่างงี้มันเลวชาติสิ้นดี
ที่น่าสนใจคือ ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ บรรดา ส.ส.ทุกคนต่างก็ยอมรับต่อกติกาลงสมัครรับเลือกตั้งเข้ามาทุกคน
และเมื่อเข้ามาจนตั้งรัฐบาลได้แล้ว
ก็หาได้มีการบอกว่าจะมาแก้รัฐธรรมนูญกันเป็นเรื่องเร่งด่วนแต่อย่างไร
นี่คือบทพิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลนี้มาคิดแก้กติกาบ้านเมืองต่อเมื่อมันมีปัญหาต่อพรรคและบุคคลของพรรคเท่านั้นเอง
แสดงให้เราเห็นกันชัดๆ ว่า เมื่อพวกเขาไม่ได้ประโยชน์ก็อยากแก้ไขเพื่อให้พวกพ้องได้ประโยชน์
อำนาจมีอยู่แล้ว ก็ใช้ได้ ปกครองได้
จะอ้างว่าปกครองไม่ได้ เพราะมันมีรัฐธรรมนูญ คอยบังคับไม่ให้ทำอะไรได้นั้น มันไม่ถูกต้องหรอกครับ
แม่บททางกฎหมายคือกติกา มันไม่ใช่เรื่องจุกจิกหยิมหยอยเกี่ยวกับการบริหารแต่ประการใด
ทุกวันนี้ก็เห็นบริหารกันได้ ไม่มีปัญหาอะไรนี่หว่า
มันเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น
ผมอยากจะบอกว่า รัฐบาลที่ปกครองที่ดีที่สุดนั้น จะเป็นรัฐบาลที่ใช้อำนาจน้อยที่สุด
รัฐบาลที่ใช้อำนาจมากที่สุด ก็เป็นรัฐบาลที่เลวที่สุด
มีตัวอย่างมากมาย อย่างเผด็จการนั่นเป็นรัฐบาลที่ผูกขาดอำนาจ และใช้อำนาจโดยคนๆ เดียว ตามอำเภอใจ
เคยมีหรือไม่ที่ปกครองแล้วมันดี
อาจมีการเถียงว่า เผด็จการแบบคุณธรรมก็มี
ผมว่ามันไม่มีหรอก เพราะถ้ามีคุณธรรมจริงๆ เขาจะไม่เป็นเผด็จการกันหรอก ใช้วิธีการอื่นก็ได้ครับ
การปกครองที่ดีที่สุด อำนาจต้องอยู่กับประชาชน
แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งควรจะลงประชามาติเพราะเป็นเรื่องใหญ่
รัฐบาลมาพูดว่า พวกตนเป็นผู้แทนประชาชนแล้ว ถือว่าได้มติจากประชาชนมาแล้ว
แต่ขอโทษนะ พรรคของตัวเองนั้น จะโดนยุบพรรคอยู่รอมร่อ อย่างนี้แล้วมันคิดกันหรือเปล่า
แน่นอน แม้ไม่โดนยุบพรรคก็เถอะ
การเป็นตัวแทนในสภา เขาให้ออกให้แก้กฎหมาย
แต่แม่บทกฎหมายสำคัญอย่างรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ
ต้องให้ประชาชนมีเสียงมีสิทธิมีส่วนครับ
หาใช่จะกีดกันประชาชนออกไปไม่
จะอ้างว่าใช้เงินมากไม่ได้
ทีพวกรัฐบาลใช้งบประมาณปีละมากๆ หรือโครงการบางโครงการเดียวเป็นหมื่นๆ ล้าน ยังทำได้
กับแค่พันกว่าล้าน กับประชามตินั้น ผมว่าไม่มาก
แต่คุ้มค่าแน่นอน
ความจริงแล้ว วิธีการที่จะเอารัฐธรรมนูญฉบับเก่ามาใช้ก็ดีอยู่
แต่ตอนที่เขาร่างรัฐธรรมนูญกัน เวลานั้น ส.ส.ไม่เห็นออกมาตีโพยตีพายเลยว่า มันจะทำให้การบริหารงานลำบาก
เห็นมีแต่ชมว่าเป็นฉบับที่ดีมากเท่านั้น
พอไม่ได้ประโยชน์แบบต้องการ
กลายเป็นว่า ต้องแก้เสียแล้ว อะไรไม่ดีโทษที่อื่น ไม่ดูตัวเองเลย อย่างงี้มันเลวชาติสิ้นดี