xs
xsm
sm
md
lg

New China Insights: “สัปดาห์ทองวันหยุด” ของจีน กับ การท่องเที่ยวไทย ?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล

อีกไม่กี่เดือนก็จะหมดปี 2025 แล้ว สำหรับชาวจีนมีวันหยุดยาวที่สุดช่วงท้ายปีก็คือช่วงวันชาติ (1 ต.ค.) โดยมากในแต่ละปีจะหยุดประมาณ 10 วันทำให้ช่วงเวลานี้คนจีนจำนวนมากเดินทางท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ จึงเป็นที่มาของคำว่า “สัปดาห์ทอง” (Golden Week) นั่นเอง ตลอดเกือบสิบปีที่ผ่านมาประเทศไทยถือเป็นเป้าหมายปลายทางระดับท็อปของชาวจีนที่เลือกเดินทางมาท่องเที่ยว การท่องเที่ยวของไทยเองก็พึ่งพานักท่องเที่ยวจีนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงก่อนโรคระบาดโควิด-19 ที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวไทยสูงสุดปีละ 10 ล้านคน หลังโควิด-19 ถึงแม้ว่ามีสัญญาณการฟื้นตัวเป็นช่วงๆอยู่บ้าง แต่โดยรวมจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยก็ยังไม่สูงเท่าระดับก่อนโควิด-19

ก่อนหน้ามีข่าวในประเทศเกี่ยวกับความกังวลของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ดูเหมือนจะมีแนวโน้มลดลงมากอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยหลักคือมีกรณีข่าวดังของนักแสดงจีนนาย หวังซิง ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกล่อมาไทยแล้วถูกส่งตัวไปยังเมียนมา หลังจากที่ข่าวลักพาตัวดาราชายจีนรายนี้นี้กลายเป็นข่าวดังในโซเชียลมีเดียและสื่อจีน หวังซิงก็ได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างรวดเร็ว ข่าวนี้เป็นข่าวดังมากในจีน และตอกย้ำซ้ำเติมถึงความปลอดภัยในการมาไทย โดยก่อนหน้าเกิดเหตุฯนี้ประเด็น “เที่ยวไทยไม่ปลอดภัย” ก็ถูกยกมาพูดในโซเซียลจีนบ่อยๆอยู่แล้ว

ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งประเทศไทยระบุว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2025 นี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 7.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน เหลือ 21.9 ล้านคน ในส่วนของนักท่องเที่ยวจีน จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าไทยในปีนี้ทั้งปีคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านคน ซึ่งต่ำกว่าปี 2024 ที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนมายังไทย 6.7 ล้านคน โดยตลาดนักท่องเที่ยวจีนได้ลดลงถึง 34.13% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ประเด็นหลักที่สื่อไทยวิเคราะห์คือมาจากปัจจัยด้านความปลอดภัย ความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง และเศรษฐกิจในประเทศจีนอยู่ในช่วงชะลอตัว

ในปี 2025 ญี่ปุ่นยังเป็นเป้าหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวจีน  (ภาพจาก  เวยปั๋ว)
สื่อจีนมีรายงานข่าวว่า ในเดือนต.ค.ที่จะถึงนี้ ไทยจะจัดงาน BLACKPINK WORLD TOUR ระหว่างวันที่ 24-26 ต.ค. ซึ่งก็อยู่ในช่วงใกล้ๆสัปดาห์ทองวันหยุดยาวของจีน อาจจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนให้มาไทยกันได้บ้าง แต่มีความเห็นจากชาวจีนที่ทำงานในโรงแรมแห่งหนึ่งของไทยบอกว่า จำนวนการจองห้องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนในช่วงเทศกาลวันชาติจีนก็ยังน้อยจนน่าใจหาย ทำให้โรงแรมหลายที่ที่รับนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลักต้องปรับลดราคาที่พักลง ตามประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่โรงแรมคนดังกล่าวบอกเพิ่มเติมว่า ในปีก่อนๆ ช่วง 1-2 เดือนก่อนวันชาติจีนจะมีคำสั่งจองจากนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ปีนี้ไม่เพียงแต่ไม่มีการจองตามที่คาดหวัง กลุ่มลูกค้าที่มาเป็นครอบครัวก็ลดน้อยลงอีกด้วย ธุรกิจโรงแรมที่ซบเซาก็มาจากการท่องเที่ยวไทยตั้งแต่ต้นปีที่เริ่มมีสัญญาณซบเซา

บางสื่อของจีนรายงานถึงขนาดว่า “ตลาดนักท่องเที่ยวจีนในไทยซึ่งเคยเป็นตลาดสำคัญที่สุดกำลังหยุดชะงักลงอย่างสิ้นเชิง” เพราะแม้ว่านักท่องเที่ยวยุโรปจะเริ่มเข้าไทยเป็นจำนวนมากช่วยพยุงตัวเลขระยะสั้นได้บ้าง แต่หากขาดนักท่องเที่ยวจีนแล้วการท่องเที่ยวไทยก็เหมือนหมดพลังที่จะเติบโตในระยะยาว


ด้านรัฐบาลไทยเองได้ออกมาตรการหลายอย่างเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนกลับมา ทั้งฟรีวีซ่าและไม่นานมานี้กระทรวงการท่องเที่ยวไทยยังเตรียมจัดงบประมาณ 700 ล้านบาท แจกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศฟรีให้แก่นักท่องเที่ยว โดยเป็นตั๋วเที่ยวเดียวมูลค่า 1,750 บาท ไป-กลับ 3,500 บาท เพื่อกระตุ้นการเดินทางไปเที่ยวเมืองต่างๆในไทย มีการตั้งคำถามว่าการที่รัฐบาลไทยพยายามใช้มาตรการมากมายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาเที่ยว แต่อาจจะเป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด! เพราะสถานการณ์ซับซ้อนกว่าที่คาดไว้มาก

รายการไลฟ์สดในจีน เสนอขาย “แพจเกจท่องเที่ยวในไทย”  มีคอมเมนท์จำนวนมาก ชี้ว่า “ไทยไม่ปลอดภัย” (ภาพจาก  เวยปั๋ว)
ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนของจีนปีนี้ครอบครัวชาวจีนจำนวนไม่น้อยที่เดิมตั้งใจจะพาเด็กๆ และพ่อแม่มาเที่ยวไทย กลับเปลี่ยนแผนกะทันหันไปญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย หรือแม้แต่เวียดนามแทน เหตุผลคือ ความปลอดภัยต้องมาก่อนอันดับหนึ่ง แม้แหล่งท่องเที่ยวในประเทศอื่นค่าตั๋วเครื่องบินและค่าใช้จ่ายที่พักโรงแรมจะแพงกว่า ก็ยังดีกว่าต้องเที่ยวแบบกังวลใจ ว่ากันว่าหลังเหตุการณ์ดาราจีนหวังซิงถูกแก๊งค้ามนุษย์หลอกไปเมียนมา ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจีนถูกกระทบยาวนานอย่างน้อยห้าเดือนขึ้นไป บริษัทนำเที่ยวที่ทำตลาดจีนโดยเฉพาะแทบไม่มีงานทำกัน ไม่มีกรุ๊ปทัวร์ใหม่เข้ามา จนบริษัทท่องเที่ยวหลายแห่งเลิกจ้างพนักงานหรือต้องปิดกิจการชั่วคราว คนจีนเองก็หันไปท่องเที่ยวในประเทศกันมากขึ้น เพราะมองว่าปลอดภัย สะดวกกว่าไปต่างประเทศ

ตามคาดการณ์ในปี 2025 ตลอดทั้งปีนี้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวไทย อาจมีเพียง 5 ล้านคนและส่วนใหญ่เป็นการเดินทางมาทำงานหรือธุรกิจ นักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนจริงๆ อาจไม่ถึง 1 ล้านคนหรือคิดเป็นสัดส่วนเพียง 20% เท่านั้น

ในขณะเดียวกันข้อมูลทางการของการท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ ที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน ก็พบว่าตลาดนักท่องเที่ยวจีนของประเทศรอบข้างขยายตัวอย่างรวดเร็ว ยกตัวอย่างเช่น ญี่ปุ่น ช่วงเดือนม.ค.-ก.ค.ปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปญี่ปุ่นสะสมเกิน 5.69 ล้านคนแล้ว มากกว่าจำนวน 2.64 ล้านคนที่มาไทยในช่วงเวลาเดียวกันมากกว่าเท่าตัว ในกลุ่มคนจีนมีคนแซวกันว่าการท่องเที่ยวญี่ปุ่นนั้นเหมือนตายยาก ต่อให้มีข่าวภัยธรรมชาติออกมาบ่อยๆก็ยังคงได้รับความนิยมถล่มทลายเหมือนเดิม

ในประเด็นการท่องเที่ยวญี่ปุ่นนี้ ผู้เขียนได้คุยกับเพื่อนคนจีนบางคนมองว่า ท่องเที่ยวญี่ปุ่นมีความคุ้มค่า ทั้งประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ดี บ้านเมืองปลอดภัย ราคาตั๋วเครื่องบินไม่แพงเพราะไม่ไกลจีน ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าทำให้การเที่ยวญี่ปุ่นถูกลง อาหารอร่อย เมืองเรียบร้อยสะอาด สินค้าญี่ปุ่นก็คุณภาพดี ที่สำคัญคือที่ญี่ปุ่นมีตัวอักษรภาษาจีนให้เห็นได้ทั่วไป คนจีนที่ไปเที่ยวแม้สื่อสารภาษาญี่ปุ่นไม่ได้แต่สามารถอ่านรู้เรื่องได้ โดยรวมแล้วสะดวกสบายและคุ้มค่ากับการไปเที่ยว

นอกจากนี้ประเทศเพื่อนบ้านจีนอย่างเกาหลีใต้ก็ดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนได้มาก เดือนม.ค.-ก.ค. ปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าเกาหลีใต้สูงถึง 3.13 ล้านคน ในช่วงครึ่งปีแรกจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น 13.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน หันมามองประเทศเพื่อนบ้านของไทย ช่วง 8 เดือนแรกของปี 2025 เวียดนามต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนถึง 3.53 ล้านคน คิดเป็นหนึ่งในสี่ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นราว 44.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เวียดนามกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตแห่งใหม่ในโซเชียลมีเดียจีน

“ไปเที่ยวไทย ปลอดภัยไหม?”  ทุกวันนี้ชาวจีนยังตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในการเดินทางมาไทย (ภาพจากเวยปั๋ว)
ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่มาไทยไม่เพียงถูกญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเวียดนาม แซงหน้าไปแล้ว สิงคโปร์ มาเลเซีย และลาวก็กำลังไล่ตามมาติดๆ ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ มาเลเซียมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศ 2.17 ล้านคน เพิ่มขึ้น 35.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน สิงคโปร์ก็ต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนราว 1.48 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 2% และนักท่องเที่ยวจีนยังเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์อีกด้วย

หลังจากเปิดใช้งานเส้นทางรถไฟจีน-ลาว นักท่องเที่ยวจีนก็เริ่มสนใจลองประสบการณ์ข้ามพรมแดนไปเที่ยวลาวกันมากขึ้น ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าประเทศลาวมี 602,000 คน เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีก่อน ดังนั้นเมื่อสำรวจคู่แข่งของการท่องเที่ยวไทยแล้ว นักท่องเที่ยวจีนในเกือบทุกประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน มีเพียงไทยประเทศเดียวที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวลดลง

มีสื่อจีนประเมินสภาพการณ์ท่องเที่ยวไทยว่า หากหลังสัปดาห์หยุดยาวเทศกาลวันชาติของจีนปีนี้ (1-8 ต.ต.) นักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับมาเที่ยวไทยอย่างชัดเจน นั่นหมายความว่า “แนวโน้มการเดินทางออกนอกประเทศของนักท่องเที่ยวจีนได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว”

ก่อนหน้าหลายคนมองว่าเหตุการณ์ลักพาตัวดาราจีนหวังซิงเป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น แต่ตอนนี้กลับดูเหมือนกำลังสร้างความเชื่อและตรรกะการท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนขึ้นมาใหม่   

ตอนนี้ประเทศไทยเหมือนยืนอยู่ตรงทางแยกที่สำคัญ ดังนั้นสำหรับการท่องเที่ยวไทยแล้ว ช่วงสัปดาห์ทองวันหยุดยาวของจีนปีนี้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ แต่ที่ยืนยันได้คือการท่องเที่ยวขาออกของชาวจีนได้ค่อยๆ เปลี่ยนทิศทางไป ไทยกับการรอคอยนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมานั้น อาจจะต้องกลับไปอยู่หลังเส้นสตาร์ทอีกครั้งหนึ่ง.



กำลังโหลดความคิดเห็น