xs
xsm
sm
md
lg

New China Insights&:จีนเที่ยวไทยลดวูบ!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดแคมเปญมากมายในจีน ชวนชาวจีนมาเที่ยวไทย --ภาพจากแพลตฟอร์มโซเชียลจีน เวยปั๋ว
โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล

หนึ่งในประเด็นสถานการณ์ในไทยที่เกี่ยวกับจีนในช่วงนี้ หนีไม่พ้นเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยลดน้อยลงอย่างมาก บางค่ายสื่อถึงกับระบุว่า “อยู่ในขั้นวิกฤติ” โดยมีการประเมินและคาดการณ์ว่าปีนี้ทั้งปีนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยน่าจะมีจำนวนราว 5 ล้านคน เทียบกับช่วงพีคสูงสุดปีละ 10 ล้านคน ประเด็นดังกล่าวเป็นที่จับตาเพราะเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวมาตลอด รัฐบาลแต่ละสมัยก็ยกภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยหลักสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ทำไมนักท่องเที่ยวจีนถึงมาไทยน้อยลง? ผู้เขียนได้ทดลองถาม Chatbot AI ของจีน ก็ได้คำตอบว่า “สถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทยปัจจุบันสะท้อนในสองด้านหลัก คือ หนึ่ง จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงและพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลง จำนวนของนักท่องเที่ยวจีนในประเทศไทยลดลงอย่างเห็นได้ชัดนี้อ้างอิงจากข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า เดือนเม.ย. 2025 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยเฉลี่ยต่อวัน 5,833 คน ซึ่งไม่ถึงหนึ่งในสามของช่วงพีคก่อนการระบาดของโควิด-19 สำหรับสถิติตลอดทั้งปี 2024 นักท่องเที่ยวจีนมาไทยไม่ถึงเป้า 7 ล้านคน

กระแสนักท่องเที่ยวจีนมาไทยที่ลดลงอย่างมากนี้ มีสาเหตุจาก หนึ่ง) ความเบื่อหน่ายในรูปแบบการท่องเที่ยวแบบเดิมๆและความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สอง) พฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนที่นิยมมาไทยเปลี่ยนแปลงไป นักท่องเที่ยวชาวจีนเจน Z มีแนวโน้มเลือกเดินทางไปยังจุดหมายใหม่ๆ เช่น เวียดนามหรือคาซัคสถาน แทนการไปยังสถานที่ยอดนิยมเดิมๆอย่างเส้นทางท่องเที่ยว “ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์” แนวโน้มนี้สะท้อนถึงความต้องการและรสนิยมใหม่ๆของนักท่องเที่ยวจีนในเรื่องประสบการณ์การเดินทาง” จะเห็นได้ว่าคำตอบที่ แซตบอตเอไอจีน ให้คำตอบมานั้นเน้นไปที่พฤติกรรมและเทรนด์ของนักท่องเที่ยวจีนยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนไป รวมไปถึงความกังวลเรื่องความปลอดภัยในการท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จากข้อมูลของการท่องเที่ยวไทย ระบุว่า “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ที่เดินทางมาไทยในเดือนมี.ค.ของปีนี้ ลดลง 9% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะตลาดประเทศเอเชียตะวันออกที่เงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นลดลง 36% นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้และฮ่องกงลดลง 23% แม้แต่ตลาดยุโรปที่ปกติแข็งแกร่งก็ยังลดลง 4-9%

บล็อกเกอร์จีนไปเจาะสถานการณ์การท่องเที่ยวในพัทยา ข้อความในภาพเขียนว่า “พัทยา ไร้เงานักท่องเที่ยวจีน เงียบเหงามาก” ซึ่งเงียบเหงาไร้นักท่องเที่ยวจีน -- ภาพจากแพลตฟอร์มโซเชียลจีน Bilibili
อีกปัจจัยสำคัญคือ เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไทยก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงด้วย ยิ่งมีภาพตึกถล่มในกรุงเทพฯเมืองหลวงของไทยก็ลดทอนความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวอย่างเช่นมีข่าวจากทางญี่ปุ่น ผู้จัดการบริษัททัวร์ในโตเกียวบอกว่า " สถานีโทรทัศน์ญี่ปุ่น NHK เผยแพร่ภาพแผนที่ความเสี่ยงทางธรณีวิทยาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามวันติดต่อกัน แม้ว่าไทยไม่ใช่ศูนย์กลางแผ่นดินไหวในวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ลูกค้าที่จองแพคเกจท่องเที่ยวไทยก็ยังขอยกเลิกทริป" ส่วนในด้านของจีนมีการเผยแพร่ภาพแผ่นดินไหวและตึกถล่มในกรุงเทพฯกันอย่างแพร่หลาย พร้อมข่าวด้านลบต่างๆของไทยที่เผยแพร่ในช่องสื่อจีนอย่างหนาตา

ข้อมูลจาก Ctrip แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวครบวงจรของจีน เคยให้ข้อมูลไว้ว่าช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 ยอดการค้นหาการท่องเที่ยวไทยลดลง 19% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่จุดหมายปลายทางแหล่งท่องเที่ยวเกิดใหม่อย่างเวียดนาม คาซัคสถาน และญี่ปุ่นมียอดค้นหาเพิ่มขึ้นมากกว่า 35%

มีบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวจีนเคยออกมาบอกว่า "แหล่งท่องเที่ยวเดิม อย่างวัดพระแก้ว โชว์สาวประเภทสอง และตลาดอาหารทะเล เหมือนจะไม่ดึงดูดใจเท่าไหร่แล้ว" อีกประการสำคัญคือ “ต้นทุนเที่ยวไทยแพงขึ้นไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ที่พักในแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงค่าเงินหยวนเทียบกับเงินไทยที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง”

ผู้เขียนมีเพื่อนคนจีนที่ไปเที่ยวไทยบ่อยๆ เล่าว่าตอนนี้เงินหยวนแลกเงินไทยได้น้อยลงประมาณ 1 หยวนต่อ 4.5 บาท เทียบกับเมื่อก่อน 1 หยวนต่อ 5 บาท ทำให้ต้นทุนในการเที่ยวไทยแพงมากขึ้น จึงหันมาเลือกเที่ยวในประเทศหรือไปประเทศอื่นๆแทน นอกจากนี้ค่าที่พักและอาหารในแหล่งท่องเที่ยวไทยก็มีราคาแพง ผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายย่อยหลอกลวงนักท่องเที่ยวก็ยังมีอยู่มาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนจะโดนหลอกอยู่บ่อยๆ ทั้งกรณี “จีนต้มจีน” “ไทยต้มจีน”

คนจีนอีกรายหนึ่งเป็นนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทยก็บอกกับผู้เขียนว่าตอนนี้เขาชะลอการซื้อห้องชุดคอนโดฯเพราะค่าเงินที่แพงขึ้นและการโอนเงินเข้ามาไทยเพื่อซื้อคอนโดฯมีขั้นตอนซับซ้อนมากขึ้น กรมที่ดินไทยตรวจสอบเข้มมากขึ้นกับเงินที่โอนเข้ามาจากต่างประเทศ จะใช้เงินที่มีอยู่ในไทยจ่ายโอนคอนโดฯก็ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน (อาจจะมีวิธีซิกแซกจ่ายเงินใต้โต๊ะให้เจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการฯ แต่คนจีนที่เล่าให้ผู้เขียนฟังรายนี้ไม่ได้เปิดเผยขั้นตอนอย่างละเอียด)

ประเด็นที่น่าตั้งข้อสังเกตและถกเถียงกันคือ ไทยมีความล่าช้าในการปรับตัวกับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนหรือไม่? เมื่อพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนไปเนื่องจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะด้านของเศรษฐกิจที่คนจีนใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวังมากขึ้น จากแต่ก่อนท่องเที่ยวชอปกระหน่ำ ร้านสินค้าปลอดภาษีไทยมีนักท่องเที่ยวมาซื้อของจำนวนมาก แต่ตอนนี้กลับเงียบเหงา

ข่าวบนหน้าสื่อจีน ระบุว่า “เจ้าของร้านทำผมชาวจีนในพัทยาถูกจับ” ขณะนี้ชาวจีนที่เดินทางมาไทยเพื่อทำงาน หาช่องทางทำธุรกิจ ดูจะเป็นกระแสหนาตามากกว่ากลุ่มชาวจีนที่มาเที่ยว --ภาพจากแพลตฟอร์มโซเชียลจีน เวยปั๋ว
นักท่องเที่ยวจีนสมัยนี้แสวงหาประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงลึกที่ราคาคุ้มค่ามากขึ้น ตอนนี้การท่องเที่ยวไทยคุณภาพดีราคาค่อนข้างแพง คนไทยยังจะเที่ยวกันไม่ไหว นักท่องเที่ยวจีนกลุ่มใหญ่ก็อ่อนไหวกับราคา ทำให้ประเด็นความคุ้มค่าในการท่องเที่ยวไทยไม่เป็นที่ดึงดูดสักเท่าไหร่นัก มีบล็อกเกอร์จีนรายหนึ่งกล่าวถึงสาเหตุหลักที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนในไทยลดลง คือ ความไม่พอใจของนักท่องเที่ยวจีนต่อค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวไทยที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวที่น่าสนใจกว่า ความกังวลของนักท่องเที่ยวจีนเกี่ยวกับความปลอดภัยในไทย โดยก่อนหน้าข่าวเรื่องหวังซิงดาราจีนที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกมาไทยและถูกส่งไปชายแดนเมียนมายังเป็นข่าวในจีนอยู่

คนจีนจำนวนมากให้ความเห็นเรื่องการท่องเที่ยวต่างประเทศว่า ช่วงนี้ต้องลดค่าใช้จ่ายเพราะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอีกทั้งทรัพย์สินอย่างอสังหาฯมีมูลค่าลดลง ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยเหมือนแต่ก่อน กอปรกับรัฐบาลจีนเองโหมกระหน่ำรณรงค์ให้ประชาชนท่องเที่ยวในประเทศในช่วง 2-3 ปีมานี้ก็เริ่มเห็นผล คนจีนบางคนเขียนในคอมเมนต์ว่า “ท่องเที่ยวในประเทศดีกว่าไปเที่ยวประเทศไทย ทั้งเรื่องของราคา ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย” บางคนบอกว่า “การท่องเที่ยวในจีนเจริญกว่าที่ไทยมาก” เรื่องของตลาดท่องเที่ยวใหม่ที่พยายามดึงดูดชาวจีนก็มีอีกมาก ไม่ใช่แค่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกาหลีใต้และญี่ปุ่นก็เป็นประเทศที่ดึงดูดคนจีนไปเที่ยวมาก เพราะใกล้ ราคาไม่แพงและอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดีกว่ามาท่องเที่ยวไทย เป็นต้น

ถึงแม้การท่องเที่ยวไทยกำลังซบเซาเพราะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนลดฮวบ หน่วยงานรัฐของไทยก็ยังพยายามทำแคมเปญท่องเที่ยวในประเทศจีนอย่างหนักหน่วง อย่างการทำโรดโชว์แนะนำการท่องเที่ยวไทยและอาหารไทยในเมืองชั้นสองชั้นสาม ประชาสัมพันธ์ให้ชาวจีนในเมืองรองรู้จักประเทศไทยและมาท่องเที่ยวไทยกันมากขึ้น การทำการตลาดแบบ "เจาะลึกเมืองรอง" นี้ เคยเป็นกลยุทธ์ที่เกาหลีใต้ทำเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวไปยังเกาะเซจูและประสบความสำเร็จดี ทำให้นักท่องเที่ยวบนเกาะเซจูเพิ่มขึ้น 18% ในปี 2019 การปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ๆอาจเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ไทยเปิดประตูรับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ได้บ้าง

สุดท้ายแล้ว ผู้เขียนมองว่ามาตรการให้ฟรีวีซ่ากับจีนอาจจะกระตุ้นการท่องเที่ยวได้บ้างแต่ไม่ยั่งยืน และยังกลับกลายเป็นว่าฟรีวีซ่าเป็นช่องทางให้คนจีนมาทำงานหาเงินมากกว่ามาเที่ยว การตัดสินใจของคนจีนที่จะมาเที่ยวไทยหรือไม่นั้นมีหลากหลายปัจจัย ต้องพิจารณาโดยองค์รวม เรื่องของการเปิดเสรีกัญชาในไทย ก็เป็นประเด็นที่นักท่องเที่ยวจีนคุณภาพดีกังวล นักท่องเที่ยวคุณภาพดีเป็นสิ่งที่การท่องเที่ยวไทยต้องการ แต่การจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนคุณภาพดีได้นั้น สภาพแวดล้อมด้านสังคมและการท่องเที่ยวไทยอาจจะต้องยกระดับและจัดการให้ดีกว่านี้ก่อน ไทยยังเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ แหล่งท่องเที่ยวและอาหารหลากหลาย หากว่ามีการปรับปรุงการบริหารจัดการก็สามารถดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนชั้นดีได้มากกว่านี้ได้แน่นอน.


กำลังโหลดความคิดเห็น