โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล
ในบทความนี้ผู้เขียนอยากจะมาบอกเล่าสู่กันฟังในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับชีวิตสังคม ปากท้องของชาวจีน ที่อาจจะไม่ใช่ประเด็นที่แปลกใหม่เท่าใดนัก แต่เป็นประเด็นที่น่าติดตาม เพราะตัวเลขของกลุ่มคนทำงานอาชีพอิสระจีนมีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ณ ปัจจุบันประชากรแรงงานจีนทั่วประเทศจีนมีอยู่ 750 ล้านคน ในจำนวนนี้ประชากรแรงงานอาชีพอิสระมีอยู่ประมาณ 200 ล้านคนทั่วประเทศ
กลุ่มประชากรที่ประกอบอาชีพอิสระคือจะไม่สังกัดหน่วยงานไหน รายได้จะไม่แน่นอนคือทำงานก็มีรายได้ แต่เมื่อหยุดงานก็ไม่มีรายได้ งานประเภทนี้จะเป็นพวกลูกค้ารายวัน ฟรีแลนซ์ พนักงานพาร์ทไทม์ หรือเจ้าของร้านค้าเล็กๆ ปัจจุบันยังมีอาชีพอิสระเกิดใหม่อีกจำนวนมากทำให้คนที่ทำงานที่เข้าข่ายกลุ่มนี้มีมากขึ้น เช่น ไรเดอร์ นักไลฟ์สดขายของ นักรับจ้างทำงานต่างๆ เป็นต้น
ชาวเน็ตจีนมีการวิเคราะห์กันถึงจำนวนคนที่ประกอบอาชีพอิสระในจีนมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะ 3 ปัจจัยด้วยกัน คือ
-คนวัยทำงานยุคใหม่ไม่อยากเป็นพนักงานออฟฟิศมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะความไม่อิสระและต้องปฏิบัติตามกฎข้อบังคับของที่ทำงาน แต่สำหรับการรับงานเป็นจ็อบๆ มีความเป็นอิสระ เมื่อเวลาอยากทำงานหาเงินก็ออกไปทำ เมื่อตัวเองรู้สึกเหนื่อยก็พักผ่อน รูปแบบการทำงานแบบนี้เป็นสิ่งที่คนจีนรุ่นใหม่หลายคนปรารถนา
-สำหรับกลุ่มคนอายุ 40-50 ปีที่หางานประจำได้ยาก หันไปประกอบอาชีพอิสระ ไม่ว่าจะออกไปรับจ้างตามสิ่งที่ตนถนัดหรือเปิดร้านค้าเล็กๆ ของตัวเอง เพราะทุกวันนี้บริษัทจ้างพนักงานใหม่ส่วนใหญ่ต้องการจ้างคนอายุน้อย หลายๆ ที่ระบุอายุว่าต้องต่ำกว่า 35 ปี กอปรกับเศรษฐกิจไม่ดีคนตกงานมหาศาลลากยาวมาตั้งแต่ช่วงโควิด ทำให้กลุ่มคนทำงานบริษัทอายุ 40-50 ปีถูกปลดฟ้าผ่ากันเป็นจำนวนมากเพราะเป็นกลุ่มที่มีเงินเดือนสูง ทำงานมานาน สำหรับบริษัทคือกลุ่มคนพวกนี้คือต้นทุนมหาศาล
-หน่วยงานหรือบริษัทหลายแห่งมีแนวโน้มที่จะรับพนักงานชั่วคราวมากขึ้น ลดจำนวนพนักงานประจำลง เพราะเนื่องจากต้นทุนการดูแลพนักงานที่ต่างกัน โดยทั่วไปแล้วกลุ่มพนักงานชั่วคราวจะไม่ได้รับสวัสดิการที่เยอะเหมือนกับพนักงานประจำ เงินที่ได้รับก็ตามจำนวนวันที่ทำงาน เพราะความที่สามารถลดต้นทุนได้มากนี้ ทำให้บริษัทหลายแห่งในจีนหันมาจ้างพนักงานชั่วคราวกันมากขึ้น ปลดพนักงานประจำกันบ่อยขึ้น
อาชีพอิสระที่มีจำนวนมากขึ้นและหลากหลายขึ้นเป็นผลที่เกิดขึ้นจากเศรษฐกิจที่พัฒนาและการเปลี่ยนแปลงความต้องการของคนในสังคมที่มีความหลากหลายมากขึ้น ก่อให้เกิดอาชีพใหม่ๆ คนที่ประกอบอาชีพอิสระบางคนเห็นโอกาสและคว้าโอกาสเอาไว้ได้ ทำงานกันจนรวยหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำก็มีอยู่มากมาย แต่อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงด้านความไม่แน่นอนของรายได้ก็สูงด้วยเช่นกัน
กลุ่มคนทำงานอาชีพอิสระในจีนประสบปัญหาต่างๆ ดังต่อไปนี้
-ปัญหาด้านประกันสังคม เพราะพนักงานจ้างชั่วคราวส่วนใหญ่ไม่ได้เซ็นสัญญาการทำงานกับนายจ้างเหมือนกับพนักงานประจำ และบริษัทส่วนมากเลือกที่จะไม่จ่ายประกันสังคมให้พนักงานชั่วคราว และหากว่าพนักงานชั่วคราวอยากที่จะจ่ายประกันสังคมต้องควักกระเป๋าจ่ายเอง ไม่มีส่วนที่ได้รับการสมทบจากบริษัทหรือหน่วยงาน ในจีนนั้นการจ่ายประกันสังคมจีนในแต่ละเดือนมีสัดส่วนที่สูงและใช้ต้นทุนที่มาก สำหรับกลุ่มคนอาชีพอิสระแล้วไม่มีหน่วยงานช่วยจ่ายให้ก็ต้องรับผิดชอบจ่ายเองในทุกๆ เดือน โดยเฉลี่ยแล้วการจ่ายประกันสังคมให้ตัวเองสำหรับกลุ่มคนอาชีพอิสระแต่ละเมืองจะมาตรฐานจะต่างกัน แต่โดยเฉลี่ยเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ กลุ่มคนอาชีพอิสระที่อยากจะมีประกันสังคมพื้นฐานจะต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมเดือนละประมาณ 500-800 หยวนต่อเดือน หรือประมาณ 2,500-4,000 บาทต่อเดือน สำหรับกลุ่มคนอาชีพอิสระแล้วไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความสามารถในการจ่ายตรงนี้ได้
-งานไม่มั่นคงเพราะรายได้ไม่แน่นอน คนที่ประกอบอาชีพอิสระน่าจะทราบกันดี งานอาจจะมีมากเป็นช่วงๆ ไม่มีเวลาพัก หรือหากไม่มีงานอาจจะได้หยุดกันยาวๆทนั่นหมายถึงว่าจะไม่มีรายได้ ดังนั้นคนกลุ่มนี้หากไม่มีการจัดการบริหารการเงินที่ดีมักจะมีปัญหา และจีนเป็นประเทศที่ต้นทุนการใช้ชีวิตสูงไปทุกอย่างหากว่ามีครอบครัวและไม่มีรายได้สม่ำเสมอก็ยากมากที่จะมีชีวิตรอดได้
สำหรับตลาดแรงงานจีนมีข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ปัจจุบันถึงแม้จะมีแรงงาน 750 ล้านคนคิดเป็นครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศ แต่ตลาดงานกลับไม่สมดุล เช่น บางอุตสาหกรรมขาดงานแรงงานมาตลอด (แรงงานทักษะขั้นสูงที่เป็นเทรนด์พัฒนา) แต่มีงานที่ใช้แรงงานประเภทใดประเภทหนึ่งที่จำนวนคนใช้แรงงานพุ่งสูงขึ้นจนโอเวอร์ซัปพลาย เช่น ไรเดอร์ คนเอารถส่วนตัวออกมารับจ้าง จํานวนแรงงานจีนในตลาดโดยรวมยังอยู่ในภาวะปกติ แต่ไม่สามารถรับประกันได้ว่าแรงงานจีนจะเพียงพออยู่เช่นนี้ในอนาคต มีคนพูดถึงว่า อีกไม่กี่สิบปีข้างหน้าแรงงานจีนอาจมีปัญหารอยเลื่อนคือความต่างของชนชั้นแรงงานมีสูงขึ้น
เนื่องจากสังคมทุกวันนี้ คนรุ่นใหม่ปฏิเสธการแต่งงานและไม่อยากมีลูกมากขึ้นเรื่อยๆ และมีการคาดการณ์ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วว่าจีนในปี 2023 จะมีอัตราเด็กเกิดใหม่ที่ลดลงกว่าปี 2022 โดยอัตราการเกิดใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 700-800 ล้านคน แนวโน้มการลดลงของอัตราการเกิดใหม่ของประชากรจีนทวีความรุนแรงมากขึ้น ดังนั้น ในอนาคตจำนวนแรงงานของจีนจะลดลงอย่างต่อเนื่องและประชากรผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้น โครงสร้างทางสังคม แรงงานจีนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
ในจีนเองก่อนหน้านี้เกิดดรามาจากจำนวนผู้ว่างงานในกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 16-24 ปีสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทำให้อาชีพอิสระต่างๆ รัฐบาลมองเห็นความสำคัญและเริ่มที่จะสนับสนุน เพราะเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ทำให้อัตราการว่างงานของประชากรในประเทศลดลง
กลุ่มคนที่มีงานอิสระทำไม่ได้ถูกเรียกว่า "คนว่างงาน" สถานการณ์การจ้างงานในปัจจุบันและอนาคตมีความหลากหลายมากขึ้น งานที่ไม่มั่นคงไม่ได้หมายความว่าจะหาเงินไม่ได้ และอาชีพอิสระในยุคนี้สามารถทำงานได้ง่ายเพราะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ การทำงานผ่านออนไลน์ก็มีมาก ในจีนเองนักศึกษามหาวิทยาลัยมีแนวโน้มที่จะทำอาชีพอิสระกันมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่เกิดในช่วงปี 1995-2000 จากการสํารวจที่ผ่านมา นายจาง เฉิงกัง ผู้อํานวยการศูนย์วิจัยรูปแบบการจ้างงานใหม่แห่งประเทศจีน ได้กล่าวว่า กลุ่มเด็กรุ่นใหม่พวกเขามีความเป็นอิสระทางความคิดที่สร้างสรรค์ สามารถตอบสนองและเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วตามความต้องการของตลาด
ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดแรงงานจีนกล่าวว่า จำนวนผู้สําเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยเลือกอาชีพอิสระที่มีความยืดหยุ่นกันมากขึ้น ในบางมณฑล เช่น มณฑลเจียงซู ในปี 2017 และ 2019 จํานวนผู้สำเร็จการศึกษาทั้งหมดของมณฑลอยู่ที่ 556,000 คน และ 562,000 คนตามลําดับ และจำนวนของนักศึกษาจบใหม่เลือกประกอบอาชีพอิสระอยู่ที่ 2.5% และ 2.9% ตาม ปัจจุบันสัดส่วนของนักศึกษาจบใหม่ไปประกอบอาชีพอิสระมีจำนวนพุ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง
เมื่อพิจารณาจากความต้องการของนายจ้าง มีรายงานการพัฒนาแรงงานอิสระจีน (2021) ที่เผยแพร่โดยคณะแรงงานและบุคลากร มหาวิทยาลัยเหรินหมิน แสดงให้เห็นว่าในปี 2020 สัดส่วนการจ้างแรงงานชั่วคราวของวิสาหกิจจีนมีประมาณ 55.7% เพิ่มขึ้นประมาณ 11% จากปี 2019 และเกือบ 30% ของรัฐวิสาหกิจจีนตั้งใจที่จะขยายขนาดแรงงานชั่วคราวเพิ่มอีก ดังนั้น ไม่ใช่แค่บริษัทเอกชนจีนเท่านั้นที่ต้องการลดพนักงานประจำเพิ่มพนักงานชั่วคราว ในมุมของหน่วยงานรัฐมีแผนที่จะทำแบบนี้เช่นกัน (ลดต้นทุนภาระของหน่วยงาน แต่อาจจะไม่เป็นผลดีต่อแรงงานในตลาด)
สุดท้ายแล้ว กลุ่มอาชีพอิสระจีนที่มีจำนวนพุ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง อาจจะเป็นกระจกสะท้อนความเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานจีนในด้านบวกคือโอกาสในการทำงานหลากหลายมากกว่าแต่ก่อน คนรุ่นใหม่มีทางเลือกมากขึ้น อีกมุมหนึ่งสะท้อนได้ว่างานประจำที่มั่นคงหายากขึ้น ตำแหน่งงานน้อยลง สาเหตุมาจากเศรษฐกิจที่ซบเซาของจีน และไม่รู้ว่าความซบเซาของเศรษฐกิจจีนจะรุนแรงมากกว่านี้อีกหรือไม่