xs
xsm
sm
md
lg

โวยบอลลูนสอดแนมถึงแผนส่งอาวุธช่วยรัสเซีย เมกายั่วตบะพญามังกร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แฟ้มภาพนายหวังอี้ ขณะดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศของจีน พบปะกับนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ที่สำนักงานคณะผู้แทนถาวรจีนประจำสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 23 ก.ย.2565 - ภาพ ซินหัว
ร้าวฉานหนัก! ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน เมกาหวังได้ยินคำขอโทษจากปากพญามังกร กรณีบอลลูนเจ้าปัญหา แต่แห้ว ครั้นเปิดประเด็นใหม่เตือนห้ามล้ำเส้นสีแดง ส่งอาวุธช่วยรัสเซียทำสงครามในยูเครนเด็ดขาด กลับถูกพญามังกรตะเพิดลั่น อย่ามาชี้นิ้วสั่ง

หลังจากเครื่องบินขับไล่เอฟ-22 ของสหรัฐฯ สอยบอลลูนจีน ซึ่งถูกกล่าวหาว่า เป็นบอลลูนสอดแนมร่วงนอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนา เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ทั้งสองฝ่ายได้มีโอกาสคุยกันซึ่งๆ หน้าเป็นครั้งแรกนอกรอบการประชุมด้านความมั่นคงที่เมืองมิวนิก ของเยอรมนีเมื่อวันเสาร์ (18 ก.พ.)

นายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงสรุปการพบกันครั้งนี้ว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศพูดตรงๆ กับอีกฝ่ายว่า บอลลูนสอดแนมซึ่งบินในระดับสูงของจีนลอยเข้ามาในน่านฟ้าสหรัฐฯ เป็นการละเมิดอธิปไตยของสหรัฐฯ และหลักกฎหมายสากล พร้อมกับเน้นย้ำว่า การกระทำที่ปราศจากความรับผิดชอบเช่นนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก

ขณะที่กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงในเว็บไซต์ว่า นายหวังอี้ ผู้อำนวยการสำนักงานการต่างประเทศของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (ซีพีซี) บอสใหญ่สุดด้านการต่างประเทศ ร่ายยาวกับอีกฝ่ายว่า จีนมีความจริงใจต่อสหรัฐฯ กรณีบอลลูนดังกล่าว แต่การที่สหรัฐฯ ยิงบอลลูนพลเรือนไร้คนขับของจีน ซึ่งพลัดหลงเข้ามาในน่านฟ้าสหรัฐฯ ด้วยเหตุสุดวิสัย เป็นการใช้กำลังโดยมิชอบ ฉะนั้น สหรัฐฯ จึงควรหันมาปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างกันที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำนี้

ทั้งนี้ หวังอี้แสดงความเห็นในที่สาธารณะเรื่องสหรัฐฯ ยิงบอลลูนจีนอย่างน้อย 3 ครั้ง ระหว่างการประชุมความมั่นคงที่มิวนิก โดยระบุว่า เป็นเรื่องเหลือเชื่อ ละเมิดบรรทัดฐานสากล และเกือบจะเป็นการตีโพยตีพายเกินกว่าเหตุ เขายังตั้งคำถามว่า “มีบอลลูนมากมายลอยเหนือโลกทุกวัน สหรัฐฯ จะยิงทุกลำตกรึเปล่า”

จบการพูดคุยงานนี้ นายบลิงเคน ได้แต่กล่าวสั้นๆ ในรายการ “มีต เดอะ เพรส” (Meet the Press) ของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี ซึ่งออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า จีนไม่มีการขอโทษแต่อย่างใด นายบลิงเคน ยังออกตัวว่า เขาไม่อยากบรรยายสิ่งที่นายหวังอี้ พูด เพราะคิดว่าเป็นการไม่เหมาะสม แต่ขอยืนยันว่า การยิงบอลลูนจีนตกมิใช่การกระทำที่เกินกว่าเหตุ เพราะเป็นบอลลูนสอดแนมอย่างไม่ต้องสงสัย

อย่างไรก็ตาม การแถลงของกระทรวงต่างประเทศจีนอาจอธิบายเหตุผลที่จีนไม่ขอโทษได้บ้าง โดยกระทรวงระบุว่า วอชิงตันไม่อยู่ในฐานะที่จะมาใส่ร้ายป้ายสีจีนได้ เพราะสหรัฐฯ เองนั้นคือชาตินัมเบอร์วันในด้านการสอดแนม และบอลลูนของสหรัฐฯ ซึ่งบินระดับสูงก็ละเมิดน่านฟ้าจีนอย่างผิดกฎหมายมาแล้วหลายครั้งหลายหน สหรัฐฯ จะได้รับผลตามมา หากยังขืนใช้ประเด็นบอลลูนโหมกระพือให้เกิดความตึงเครียดไปกันใหญ่

ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียยังเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่นายบลิงเคน ตักเตือนนายหวังอี้ ระหว่างการพูดคุยกันว่า จีนจะได้รับผลกระทบตามมาแน่นอน หากให้การสนับสนุนอาวุธแก่รัสเซียในสงครามยูเครน หรือช่วยรัสเซียหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกทั่วทั้งระบบ บลิงเคนยืนยันกับเอ็นบีซีว่า รัฐบาลวอชิงตันมีข้อมูลว่าจีนอาจให้การช่วยเหลือรัสเซียทำสงครามยูเครน

นายหวังอี้ ตอบกลับว่า สำหรับประเด็นยูเครน จีนยังคงยึดมั่นต่อหลักการส่งเสริมให้มีการเจรจาสันติภาพและดำเนินบทบาทอย่างสร้างสรรค์ การเป็นหุ้นส่วนความร่วมมืออย่างครอบคลุมระหว่างจีนกับรัสเซียนั้นอยู่บนพื้นฐานของการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด การไม่เผชิญหน้า และการไม่มุ่งเป้าหมายชาติที่ 3 โดยกระทำภายในขอบเขตสิทธิของชาติที่มีเอกราชและอธิปไตย

“เราไม่เคยยอมรับการชี้นิ้วของสหรัฐฯ หรือแม้แต่การบีบบังคับ ซึ่งมุ่งเป้าหมายความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับจีน สหรัฐฯ ในฐานะเป็นประเทศใหญ่ควรทำงานเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ด้วยการหาข้อยุติทางการเมือง มิใช่การโหมเชื้อไฟ หรือตักตวงผลประโยชน์จากสถานการณ์” หวังอี้ บอกกับบลิงเคน ตามการแถลงของโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน

นอกจากนั้น ยังเตือนสหรัฐฯ ด้วยว่า ให้ปฏิบัติตามหลักการที่สหรัฐฯ เคยประกาศว่า จะไม่สนับสนุนให้ไต้หวัน ซึ่งเป็นดินแดนของจีนประกาศเอกราช

จากรายงานของโกลบอลไทมส์ สื่อของทางการจีน การพูดคุยครั้งนี้มีขึ้นตามคำขอของฝ่ายสหรัฐฯ แต่เป็นการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการในเวลาสั้นๆ ทำให้นักวิเคราะห์ของจีนมองว่า ความบาดหมางระหว่างชาติมหาอำนาจทั้งสองคลี่คลายไม่ได้ในเร็ววัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่วัฏจักรการเลือกตั้งอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ในความเห็นของนายลี่ว์ เซียง แห่งสถาบันสังคมศาสตร์จีน การแสวงหาการเจรจากับจีนเป็นการเล่นบทบาทเชิงรุกของสหรัฐฯ แต่สหรัฐฯ กลับไม่แสดงความจริงใจ หรือทำให้เห็นว่ามีทางออกสำหรับประเด็นบอลลูนนี้เลย

นายหลี่ ไห่ตง แห่งสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยการต่างประเทศจีน ระบุว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน อาจคิดไตร่ตรองมากขึ้นว่าจะดำเนินความสัมพันธ์กับจีนอย่างไร เพื่อส่งผลดีต่อคะแนนของพรรคเดโมแครต ฉะนั้น ความผันผวนรอบใหม่ของความสัมพันธ์ยังมีสิทธิเกิดขึ้นได้อีกในระหว่างนี้

ข้อมูล : โกลบอลไทมส์, รอยเตอร์, อาร์ที


กำลังโหลดความคิดเห็น