เผยตัวเลขสุดตะลึง หลังผ่อนปรนมาตรการ “ซีโร่โควิด” จีนมีผู้ป่วยโควิดที่ได้รับการรักษามากกว่า 200 ล้านคน ผู้ป่วยอาการหนักเกือบ 8 แสนคน ผู้เสียชีวิตน้อยมากเมื่อเทียบกับประชากร 1,400 ล้านคน
คณะกรรมการประจำกรมการเมืองของจีนประชุมร่วมกันถึงมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบุว่า ช่วงเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา ประเทศจีนได้ต่อสู้กับโรคโควิด-19 โดยให้ความสำคัญกับประชาชนและชีวิตเป็นลำดับแรก ประชาชนทุกชาติพันธุ์ได้ร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน ทางการจีนได้ปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และสมดุลระหว่างการควบคุมโรคกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 จีนได้ปรับมาตรการครั้งสำคัญ โดยมุ่งเน้นการป้องกันผู้ป่วยอาการหนัก ซึ่งถูกมองว่าเป็นการยกเลิกนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” ที่ใช้อย่างเคร่งครัดมานานกว่า 3 ปี ซึ่งทำให้ในช่วงแรกมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก
ในที่ประชุมได้ระบุว่า มีผู้ป่วยที่ได้รับการรักษามากกว่า 200 ล้านคน และผู้ป่วยอาการหนักเกือบ 800,000 คน ส่วนผู้เสียชีวิตมีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับทั่วโลก ทางการจีนระบุว่านี่เป็นชัยชนะอย่างสำคัญในการรับมือโรคโควิด เมื่อคำนึงถึงประชากรที่มากกว่า 1,400 ล้านคน และเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติในการก้าวข้ามโรคระบาด
หากจับความระหว่างบรรทัดจะพบว่า การประชุมครั้งนี้ไม่ได้ระบุถึงจำนวน “ผู้ติดเชื้อ” และ “ผู้ติดเชื้อที่อาการน้อย” คนเหล่านี้รักษาตัวเองและไม่ได้แจ้งให้ทางการรับรู้ จึงยากที่จะประเมินว่ามีผู้ติดเชื้อทั้งหมดเท่าไหร่ แต่ก่อนหน้านี้ มีนักวิชาการของจีนระบุว่า ประชาชนจีนในเมืองสำคัญหลายแห่งมากกว่าร้อยละ 50 ติดเชื้อโควิด จนเกิด “ภูมิคุ้มกันหมู่” ขึ้นแล้ว
นอกจากนี้ ตัวเลข "ทางการ" ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ แน่นอนว่าแตกต่างกว่าสภาพจริงพอสมควร
สถานการณ์ทั่วประเทศดีขึ้น เปลี่ยนการควบคุมแบบ “โรคประจำถิ่น”
คณะกรรมการประจำกรมการเมืองของจีนระบุว่า สถานการณ์โควิดทั่วประเทศดีขึ้น และได้ปรับการควบคุมโดยลดระดับเป็นโรคติดเชื้อประจำถิ่น แต่ยังคงเฝ้าระวังการะบาดที่ยังคงดำเนินอยู่ทั่วโลก และการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส
ที่ประชุมเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนทบทวนประสบการณ์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงการป้องกันและควบคุมโรคในระยะใหม่ และสร้างระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามและรายงานข้อมูล เพื่อให้ออกคำเตือนและมาตรการควบคุมฉุกเฉินได้ทันท่วงที
นอกจากนี้ ให้เร่งการฉีดวัคซีนตามการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสและประสิทธิภาพของวัคซีน โดยกลุ่มผู้สูงอายุควรได้รับวัคซีนให้มากขึ้น
ทางการจีนจะเน้นการคัดกรองโรค การป้องกันและรักษากลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง จะจัดสรรทรัพยากรที่เพียงพอให้หน่วยงานสาธารณสุขระดับต่างๆ สร้างความมั่นคงให้ระบบการผลิตและจัดสรรเวชภัณฑ์ นอกจากนี้ จะพัฒนาการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับสุขภาพ รวมทั้งจะบอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนในการก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ และมุ่งหน้าสู่เส้นทางใหม่.