ความลับใน “แฟ้มแดง” กับ “หูจิ่นเทา” ความมโนของคนที่ไม่เข้าใจจีน

สื่อตะวันตกมโนไม่หยุด อ้าง “หูจิ่นเทา” เปิดดูแฟ้มสีแดงบนโต๊ะประชุม “สมัชชา 20” ที่มีชื่อ 7 โปลิตบูโร และไม่พอใจที่ไม่มีคนสนิทของตนจึงถูกนำตัวออกจากที่ประชุม ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการคัดเลือกในวันเกิดเหตุ

การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ปิดฉากไปแล้วหนึ่งสัปดาห์ แต่สื่อหลายรายยังคงนำ “เสียงลือเสียงเล่าอ้าง” เรื่องที่อดีตประธานาธิบดีหูจิ่นเทา ออกจากที่ประชุมกลางคันมาขยายผลว่า เป็นการแสดงอำนาจของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ตอกลิ่มความขัดแย้งภายในพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ถึงแม้จะมีสำนักข่าวของทางการจีนจะรายงานว่า การออกจากที่ประชุมของอดีตประธานาธิบดีหูจิ่นเทา เป็นเพราะปัญหาสุขภาพ และผู้สื่อข่าว MGR Online ที่อยู่ในเหตุการณ์จริงก็ได้รายงานที่ได้พบเห็นและรับรู้

ย้อนอ่าน : บันทึกจากผู้สื่อข่าวในเหตุการณ์ “หูจิ่นเทา” ออกจากที่ประชุม “สมัชชา 20”

แต่สื่อจำนวนหนึ่งก็ยังตีข่าวว่ามี “คลิปใหม่” เป็นภาพที่หูจิ่นเทาเปิดดูแฟ้มสีแดงที่วางอยู่บนโต๊ะประชุม และอ้างว่าในแฟ้มสีแดงมีชื่อ “7 อรหันต์” สมาชิกประจำกรมการเมือง เมื่อหูจิ่นเทา เห็นว่าไม่มีคนสนิทของตนจึงไม่พอใจ และถูกประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เรียกเจ้าหน้าที่ให้นำตัวออกจากที่ประชุมไป


ไทม์ไลน์การประชุม และคัดเลือกโปลิตบูโร

การอ้างเรื่องแฟ้มสีแดงเป็น “ดรามา” ของคนที่ไม่เข้าใจกระบวนการทำงานของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ความจริงก็คือ เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคม ซึ่งเป็นพิธีปิดการประชุมสมัชชา 20 และ ในแฟ้มสีแดงนั้นยังไม่มีชื่อของสมาชิกโปลิตบูโรชุดใหม่ เพราะยังไม่มีการคัดเลือกในวันนั้น

ที่มาของ “7 อรหันต์” สมาชิกประจำกรมการเมือง มาจากคณะกรรมการศูนย์กลางพรรค ชุดที่ 20 (มี 205 คน) จากนั้นจะคัดเลือกสมาชิกกรมการเมืองชุดใหญ่ (24 คน) จากนั้นจึงคัดเลือกสมาชิกประจำกรมการเมือง 7 คน การคัดเลือกนี้มีขึ้นหลังปิดการประชุมวันที่เกิดเหตุหูจิ่นเทา ออกจากที่ประชุม

ในวันที่ 22 ตุลาคม วันเกิดเหตุ เป็นพิธีปิดการประชุมผู้แทนของสมัชชา 20 หลังจากเสร็จสิ้นแล้ว จะมีการเปิดประชุมอีกครั้ง คือ การประชุมคณะกรรมการศูนย์กลางพรรค สมัชชา 20 ครั้งที่ 1 เพื่อคัดเลือกผู้บริหาร โดยรายชื่อสมาชิกกรมการเมืองชุดใหญ่ประกาศออกมาในช่วงเย็นวันที่ 22 ต.ค. และในช่วงเที่ยงวันที่ 23 ต.ค. จึงมีการเปิดตัว 7 อรหันต์กรมการเมืองประจำ

ดังนั้น แฟ้มสีแดงบนโต๊ะจึงไม่มีรายชื่อกรมการเมือง เพราะในวันที่ 22 ต.ค. ยังไม่มีการคัดเลือกในที่ประชุมนั้น


ผู้สื่อข่าว MGR Online ได้รับเชิญให้เข้าร่วมทั้งในพิธีปิดการประชุมในวันที่ 22 ต.ค. และการเปิดตัว 7 อรหันต์กรมการเมืองประจำในวันที่ 23 ต.ค. และได้รับเอกสารที่เกี่ยวข้องด้วย

เอกสารที่ได้รับหลังการประชุมวันที่ 22 ต.ค. (วันเกิดเหตุ) คาดว่าจะเป็นสิ่งที่อยู่ในแฟ้มสีแดง คือ วาระการประชุม ที่ประกอบด้วย
1.การรับรองรายงานการทำงานของคณะกรรมการศูนย์กลางพรรค ชุดที่ 19
2.การรับรองรายงานการทำงานของคณะกรรมการตรวจวินัยพรรค ชุดที่ 19
3.การรับรองรายงานการแก้ไขธรรมนูญแห่งพรรคคอมมิวนิสต์
4.คำแถลงของปิดการประชุมผู้แทนสมัชชา 20 โดยนายสีจิ้นผิง

หลังจากอดีตประธานาธิบดีหูจิ่นเทาออกจากที่ประชุมไป ที่ประชุมมีการลงมติรับรองวาระการประชุมข้างต้น โดย ณ ที่ประชุมใหญ่นั้นยังไม่มีการคัดเลือกคณะผู้นำชุดใหม่ เพราะการคัดเลือกเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการศูนย์กลางพรรค ที่ประชุมกันครั้งที่ 1 ในเย็นวันที่ 22 ต.ค. ผู้สื่อข่าวทุกคนที่อยู่ในศูนย์ข่าวและได้เข้าร่วมในสถานที่จริงต่างเข้าใจไทม์ไลน์และกระบวนการนี้ แต่คนข้างนอกกลับเล่าเรื่องได้ “สมจริง” ยิ่งกว่า

ถึงแม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าภายในพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีกลุ่มขั้วอำนาจต่างๆ และอาจมีความขัดแย้งกัน แต่การแต่งเติมเสริมเรื่องโดยใช้จินตนาการ ไม่เข้าใจข้อมูลที่แท้จริงนั้นทำให้สื่อจำนวนหนึ่งกลายเป็น “นักเล่านิทาน” มิใช่ “ผู้นำเสนอข่าวจริง”.