xs
xsm
sm
md
lg

Exclusive! บันทึกจากผู้สื่อข่าวในเหตุการณ์ “หูจิ่นเทา” ออกจากที่ประชุม “สมัชชา 20”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ภาพอดีตประธานาธิบดีหูจิ่นเทาออกจากที่ประชุม “สมัชชา 20” กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ทั่วโลก เชื่อมโยงไปถึงอำนาจของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ทั้งๆ ที่แม้แต่ผู้สื่อข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่สามารถอธิบายได้อย่างแน่ชัด

ในพิธีปิดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ผู้สื่อข่าว MGR Online และผู้สื่อข่าวต่างชาตินับร้อยคนได้รับเชิญให้เข้าร่วมงาน ณ มหาศาลประชาชน ผู้สื่อข่าวในงานแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มช่างภาพที่บันทึกภาพบริเวณชั้น 1 ที่ได้เข้าไปในงานตั้งแต่ช่วงเช้า และกลุ่มผู้สื่อข่าวอื่นๆ ที่จะนั่งบนชั้นที่ 2 และได้เข้าไปในช่วงก่อนเที่ยง

เหตุการณ์ที่อดีตประธานาธิบดีหูจิ่นเทาออกจากที่ประชุมเกิดขึ้นก่อนที่คณะผู้สื่อข่าวที่นั่งบนชั้น 2 เข้าสู่หอประชุม ดังนั้น ภาพที่ผู้สื่อข่าวเห็นคือ เก้าอี้ว่างข้างประธานาธิบดีสีจิ้นผิง


ผู้สื่อข่าวรู้ว่าที่นั่งว่างนั้นเป็นของอดีตประธานาธิบดีหูจิ่นเทา แต่ยังไม่รู้ว่าอดีตประธานาธิบดีออกจากที่ประชุมกลางคัน มีการพูดคุยกันในหมู่ผู้สื่อข่าวถึงความ “ไม่ปกติ” นี้ แต่สถานการณ์หน้างานถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

จนกระทั่งหลังออกที่จากประชุม ผู้สื่อข่าวหลายคนได้รับการติดต่อจากต้นสังกัด และได้เห็นภาพของอดีตประธานาธิบดีหูจิ่นเทาจากสำนักข่าวต่างชาติ ความสับสนเกิดขึ้นตลอดทั้งช่วงบ่าย-ค่ำวันนั้น ผู้สื่อข่าวเกือบทุกคนถูกต้นสังกัดขอให้เช็กข่าว และได้รับการสอบถามข้ามประเทศมากมาย แต่ไม่มีใครบอกได้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น

ผู้สื่อข่าว MGR Online สอบถามกับผู้สื่อข่าวจีนจากหนังสือพิมพ์ “ถวนเจี๋ย” ซึ่งเป็นสื่อของกลุ่มการเมืองแนวร่วม และเป็นสื่อเพียงไม่กี่รายที่ไม่ได้อยู่ในกำกับของพรรคคอมมิวนิสต์ ผู้สื่อข่าวจีนให้ความเห็นว่า “ประธานาธิบดีหูจิ่นเทาอายุมากแล้ว และมีสุขภาพไม่ดีจึงออกไปพักผ่อน เรื่องนี้ไม่ควรตีความให้เกินเลยไป”


ผู้สื่อข่าว MGR Online ได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับประธานาธิบดีหูจิ่นเทา ซึ่งในขณะนั้นเป็นผู้นำจีนมาอย่างต่อเนื่อง จึงถือว่าคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่ภาพที่ได้เห็นในวันเปิดประชุมสมัชชา 20 เมื่อ 16 ต.ค.พบว่า ท่านเปลี่ยนไปอย่างมาก และสุขภาพอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด ต้องมีคนคอยประคองอยู่ตลอด เพื่อนผู้สื่อข่าวชาวจีนยืนยันว่าท่านมีปัญหาสุขภาพจริง แต่ไม่เปิดเผยว่าเป็นอาการอะไร

น้ำขุ่นไว้ใน น้ำใสไว้นอก

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเมืองจีนมีความขัดแย้งเหมือนกับในทุกประเทศ แต่โดยธรรมเนียมของจีนแล้ว พรรคต้องแสดงออกถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ผู้นำพรรคแสดงความขัดแย้งออกมาต่อหน้าช่างภาพมากมายทั่วโลกเช่นนี้

ผู้นำจีนในอดีตที่เคยประสบ “วิบากกรมทางอำนาจ” มักจะหายไปอย่างเงียบๆ จนเหมือนไม่มีตัวตน ไม่ใช่ประเจิดประเจ้อเช่นนี้

จ้าวจื่อหยาง อดีตนายกรัฐมนตรีจีน และอดีตเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ ที่แสดงจุดยืนคัดค้านการประกาศกฎอัยการศึก และการใช้กำลังทหารปราบปรามผู้ประท้วง ณ จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 1989 ต้องใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ภายใต้การกักบริเวณเป็นเวลานานกว่า 15 ปี จนวาระสุดท้ายของชีวิต

ในยุคของสีจิ้นผิง ที่มีการดำเนินคดีกับผู้นำระดับสูงอย่าง นายป๋อซีไหล นายโจวหย่งคัง และนายพลอีกหลายคน คนเหล่านี้ก็หายไปอย่างเงียบๆ นานหลายสัปดาห์ จึงมีข่าวประกาศว่า ถูกปลดจากทุกตำแหน่งและถูกดำเนินคดี

ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงประคองอดีตประธานาธิบดีหูจิ่นเทาในวันเปิดประชุม 16 ต.ค.
สิ่งที่ผู้สื่อข่าวสังเกตได้คือ ในวันเปิดประชุม 16 ตุลาคม สีจิ้นผิงได้เข้าไปทักทายและเลื่อนเก้าอี้ให้อดีตประธานาธิบดีหูจิ่นเทา นอกจากนี้ ที่นั่งของหูจิ่นเทายังอยู่ซ้ายมือของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ซึ่งตามธรรมเนียมจีนถือว่าสูงกว่าด้านขวามือ ซึ่งนายกฯ หลี่เค่อเฉียงนั่งอยู่ ทั้งๆ ที่หูจิ่นเทาเป็นอดีตผู้นำ และไม่ได้อยู่ในกรมการเมืองแล้ว

ในช่วงเย็นวันที่ 22 ต.ค. และหลังจากนั้น ข่าวจากสถานีโทรทัศน์ CCTV ก็มีกล่าวถึงชื่อและมีภาพอดีตประธานาธิบดีหูจิ่นเทาหย่อนบัตรลงมติ ไม่ได้มีการปิดกั้นใดๆ และในเวลาต่อมาสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน ก็รายงานว่า อดีตประธานาธิบดีหูจิ่นเทา วัย 80 ปีต้องถูกพยุงออกจากห้องประชุมกะทันหัน เนื่องจากปัญหาสุขภาพ รายงานบอกด้วยว่า อดีตผู้นำยืนหยัดต้องร่วมประชุมให้ได้ แม้อยู่ในช่วงวัยที่ต้องดูแลร่างกายก็ตาม

ผู้สื่อข่าวที่คุ้นเคยกับพรรคคอมมิวนิสต์หลายคนให้ความเห็นว่า หากมีความขัดแย้งกันจริงๆ น่าจะมีการ “จัดการ” ให้อดีตประธานาธิบดีไม่มาร่วมงานตั้งแต่ต้น ไม่ใช่ให้ออกจากงานกลางคัน จนมีภาพเก้าอี้ว่างให้เป็นที่ร่ำลือ และยิ่งจะเป็นการ “ยื่นดาบ” ให้ฝ่ายที่ต้องการหาประเด็นต่อต้านจีนอยู่แล้ว

สำนักข่าวมาตรฐานส่วนใหญ่รายงานเรื่องนี้โดยใช้คำว่า “ไม่ทราบสาเหตุ” “ดูเหมือนจะถูกให้ออกจากที่ประชุม” แต่สื่อสังคมออนไลน์กลับปั่นกระแสว่า “ถูกเชิญออก” “หิ้วตัวออกไป” บางที่ใช้คำว่า “จับตัวประกัน” ซึ่งเกินเลยไปมาก

สื่อส่วนใหญ่ตีความจากภาพวิดีโอโดยไม่รู้เรื่องราวเบื้องหลัง ขยายความไปไกลโดยใช้เสียงลือเสียงเล่าอ้าง ขณะที่ผู้สื่อข่าวที่อยู่ในสถานที่จริงแทบทุกคนไม่มีใครกล้าฟันธงว่าเรื่องที่แท้จริงเป็นอย่างไร บอกได้เฉพาะสิ่งที่ตนเองเห็นและรับรู้เท่านั้น

โทรทัศน์ของทางการจีนรายงานข่าวอดีตประธานาธิบดีหูจิ่นเทาลงมติใน สมัชชา 20
บุตรชายอดีตผู้นำยังเติบโตในพรรค

หลายคนอาจไม่รู้ว่า ในมหาศาลาประชาชนนั้น “หูไห่เฟิง” บุตรชายของอดีตประธานาธิบดีหูจิ่นเทา ก็นั่งร่วมประชุมด้วย

หูไห่เฟิง วัย 50 ปี ขณะนี้มีตำแหน่งเลขาธิการพรรคเมืองลี่สุ่ย มณฑลเจ้อเจียง ในปีนี้เขายังได้รับเลือกให้เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมสมัชชา 20 และแน่นอนว่าเขาต้องได้เห็นเหตุการณ์ที่บิดาของตนออกจากการประชุมกลางคัน 

หูไห่เฟิงเข้าร่วมการประชุมแบบสงบเสงี่ยม ไม่รับการสัมภาษณ์ใดๆ มีเพียงหนังสือพิมพ์ “เจ้อเจียงรื่อเป้า” ที่ระบุคำกล่าวของเขาที่สนับสนุนการประชุมว่าจะนำพาประเทศไปสู่ยุคใหม่ และเขารู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง

สังคมจีนให้ความสำคัญกับ “อาวุโส” และ “ความสมานฉันท์” อย่างยิ่ง และแน่นอนว่าอำนาจย่อมคู่กับความขัดแย้ง แต่หากเข้าใจจีนจะรู้ว่าการจัดการความขัดแย้งไม่ใช่รูปแบบที่หลายคน “มโน” จนเหมือนกับภาพยนตร์แนว “หักเหลี่ยมโหด”.


กำลังโหลดความคิดเห็น