รอยเตอร์ส—อดีตหัวหน้าฝ่ายซอฟต์แวร์ของเพนทากอน ชี้ว่า สหรัฐฯแพ้จีนแล้วในสนามรบปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (AI) โดยขณะนี้จีนกำลังก้าวขึ้นมาครอบงำโลกในด้านนี้ด้วยขีดความสามารถด้านไซเบอร์
นิโคลัส เชลแลน (Nicolas Chaillan) หัวหน้าเจ้าหน้าที่คนที่หนึ่งฝ่ายซอฟต์แวร์ (first chief software officer) ของเพนทากอนหรือกระทรวงกลาโหมแห่งสหรัฐฯ เผยถึงความเชื่องช้าของสหรัฐฯในการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีการทหาร และความล้มเหลวในการต่อกรกับจีนทำให้สหรัฐฯตกอยู่ในความเสี่ยง
“เรา (สหรัฐฯ) ไม่อาจสู้จีนได้ในช่วง 15 ถึง 20 ปีข้างหน้านี้ ในความเห็นของผมตอนนี้เราแพ้แล้ว...มันจบแล้ว” อดีตหัวหน้าทีมเจ้าหน้าที่ฝ่ายซอฟต์แวร์ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษ หนังสือพิมพ์ไฟแนลเชียลไทม์ส (Financial Times)
เชลแลน ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายซอฟต์แวร์ในโซเชียล มีเดีย Linkedin เมื่อต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา และว่าเจ้าหน้าที่ทหารมักได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบริเริ่มด้านไซเบอร์ครั้งแล้วครั้งเล่าในขณะที่พวกเขาขาดประสบการณ์ด้านนี้
เชลแลน กล่าวว่าเขาลาออกเพื่อประท้วงความล่าช้าในการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีในกองทัพสหรัฐฯ จีนที่ขณะนี้เป็นชาติอำนาจเศรษฐกิจอันดับที่สอง ได้ชนะสหรัฐฯแล้วในการต่อสู้สงคราม เอไอ และกำลังก้าวขึ้นกุมอำนาจครอบงำโลกในด้านเอไอ เนื่องจากความก้าวล้ำในการพัฒนาเอไอ ขีดความสามารถด้านการเรียนรู้ของเครื่อง (คอมพิวเตอร์) และทางไซเบอร์
อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายซอฟต์แวร์ของทัพอากาศมะกันได้เปรียบเทียบความก้าวหน้าของจีนว่า การป้องกันทางไซเบอร์ของสหรัฐฯในบางหน่วยงานยังอยู่ในระดับอนุบาลเท่านั้น
เชลแลน ยังโทษ กูเกิล (Goggle) ในเรื่องความลังเลในการทำงานร่วมกับหน่วยงานกลาโหมด้านเทคโนโลยีเอไอ ในขณะที่บรรดาบริษัทจีน ถูกกำหนดให้เป็นภาระหน้าที่ที่จะต้องทำงานกับรัฐบาล และได้ “ลงทุนมหาศาล” ในการพัฒนาเอไอโดยไม่ต้องคำนึงถึงจริยธรรม
ถึงแม้ว่าสหรัฐฯได้ทุ่มงบประมาณมากกว่าจีนอย่างน้อยสามเท่าในการป้องกันทางไซเบอร์ แต่ก็ไม่บังเกิดประโยชน์ใด เนื่องจากวอชิงตันทุ่มเทผิดที่ผิดทาง และทำงานกันแบบ “ระบบราชการที่เต็มไปด้วยกฎระเบียบมากมายก่ายกอง” ในการเปลี่ยนแปลงด้านนี้