จากภาพคลื่นคนออกเดินทางท่องเที่ยววันหยุดยาวแรงงานตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในประเทศจีน การจัดคอนเสิร์ตที่เมืองอู่ฮั่นเปิดให้ผู้คนนับพันมาชมโดยไม่มีระยะห่างสังคม และไม่สวมหน้ากอย่างเคร่งครัด อาจเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าจีนมั่นใจการควบคุมโควิด-19 ได้ดีแล้วหรืออยู่หมัดโดยส่วนใหญ่ ทว่า จริงๆแล้ว จีนยังวิตกกังวลอยู่มากเรื่องเชื้อกลายพันธุ์ใหม่ทั้งสายพันธุ์อังกฤษ สายพันธุ์อินเดีย ที่ต่างก็ได้เข้ามายังจีนแล้ว ดังนั้นจีนยังต้อง “เข็นครกขึ้นเขา” ในศึกปราบโควิด-19 โดยก้าวต่อไปนั้นจะมุ่งไปที่มาตรการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ด้วยการฉีดวัคซีน
ในการประชุมใหญ่สภาวิทยาศาสตร์แห่งเอเชีย (Science Council of Asia Conference/ SCA Conference)ที่จัดขึ้นที่เมืองกว่างโจวระหว่างวันที่ 13-15 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาทางคลินิกว่าด้วยโรคระบบทางเดินหายใจจีน (National Clinical Research Center for Respiratory Disease) นพ. จง หนันซาน ชี้ถึงมาตรการควบคุมโรคระบาด ณ เวลานี้ ควรมุ่งไปที่การศึกษาพัฒนาวัคซีนสำหรับต่อต้านเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ “การสร้างภูมิคุ้มหมู่โดยการฉีดวัคซีนยิ่งเร็วเท่าไหร่ ไวรัสกลายพันธุ์ก็จะยิ่งน้อยลง และสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นมาได้”
วิธีการหนึ่งที่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้นั้น คือการปล่อยให้มีการติดเชื้อโดยธรรมชาติ (การติดเชื้อโดยไม่มีการแทรกแซงใดๆ) ซึ่งจะต้องปล่อยให้ประชาชนติดเชื้อกันถึง 70%-80% และมีผู้เสียชีวิต 5% (15 ล้านคน) ดังนั้นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่โดยธรรมชาตินี้จึงเป็นวิธีที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ และไร้มนุษย์ธรรม
สำหรับอีกวิธีการหนึ่งในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ คือการฉีดวัคซีนขนานใหญ่ โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากทั่วโลกซึ่งใช้เวลา 2-3 ปี จึงจะประสบความสำเร็จ
นพ.จง ได้แสดงข้อมูลจากการวิจัยชุดหนึ่งระบุอัตราการฉีดวัคซีนระดับสูงในแต่ละประเทศ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
หากวัคซีนมีประสิทธิภาพถึง 70 % สำหรับในจีนอัตราการฉีดวัคซีนควรสูงถึง 83.3% ของประชากร ส่วนที่อื่นๆในโลก อัตราควรอยู่ที่ 89.2% ขณะที่เอเชีย และยุโรป อัตรานี้ควรสูงถึง 80.2 และ 96.2 ตามลำดับ
หากวัคซีนมีประสิทธิภาพถึง 80 % อัตราการฉีดวัคซีนในประเทศจีนต้องถึง 72.9 จึงสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นมาได้ ขณะที่อัตราฉีดวัคซีนทั่วโลกต้องถึง 78 เปอร์เซ็นต์ 70.2 ในเอเชีย และ 84.2 ในยุโรป
อัตราการฉีดวัคซีนมาตรฐานที่แตกต่างกันของประเทศและเขตต่างๆในโลกเนื่องจากปัจจัยด้านโครงสร้างประชากร เช่น ความหนาแน่นของประชาชน หรือช่วงอายุต่างๆของประชากร
นพ.จง กล่าวว่าขณะนี้จีนนำหน้าโลกในด้านของจำนวนการฉีดวัคซีน แต่อัตราความครอบคลุมในประเทศ ยังถือว่าล้าหลัง โดยมีเพียง 23 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ผู้เชี่ยวชาญวัคซีนในเซี่ยงไฮ้ Tao Lina เผยว่า จีนจะบรรลุการฉีดวัคซีนถึง 70 เปอร์เซ็นต์ภายในปลายปี 2021 นี้ หากซับพลายวัคซีนมีเพียงพอ