ในความเชื่อของคนจีน ดวงวิญญาณบรรพบุรุษที่ล่วงลับ คือพลังเกื้อหนุนของคนที่มีชีวิตอยู่ ชาวจีนแสวงหาความสงบสุขภายในตนเองด้วยพิธีกรรมในเทศกาลเช็งเม้ง และกิจกรรมที่ดำเนินอยู่ในเทศกาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดสุสาน การจัดเตรียมของไหว้ ตลอดจนการเผากระดาษเงินกระดาษทองผ่านไฟ ล้วนเป็นพิธีที่ใช้เป็นสะพานเชื่อมสู่ดวงวิญญาณ อันจรรโลงดูแลจิตใจผู้ยังมีชีวิตอยู่ให้รู้สึกมั่นคงมีความสุขนั่นเอง
เทศกาลเช็งเม้งจึงเป็นประเพณีที่รวมคุณธรรมความกตัญญู และการมุ่งหวังชีวิตที่ดี ดูแลตนเองผู้อยู่ และรู้คุณผู้จากไป ซึ่งสิ่งนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแม้กาลเวลาผ่านไปกี่พันปี กี่คนชั่วรุ่นก็ตาม แต่หัวใจของประเพณียังคงดำรงรักษาไว้ตลอดมา
.
เทศกาลเชงเม้งหรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่าวันกวาดสุสานเป็นเทศกาลจีนโบราณที่สำคัญ โดยคำว่า เชงเม้ง หรือชิงหมิงเจี่ย (清明節) หมายถึงท้องฟ้าและอากาศโปร่งสว่างสดใส นอกจากนี้ยังหมายถึงความสุขของฤดูใบไม้ผลิ เพราะในช่วงเวลาของเทศกาลนี้ ซึ่งมักตรงกับวันที่ 5 เมษายน อันนับเป็น106 วัน นับจากวันที่พระอาทิตย์ โคจรห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากที่สุด (ตามปฏิทินทางจันทรคติของจีน) ฤดูใบไม้ผลิเพิ่งจะเริ่มต้น หญ้าขึ้นชุกปกคลุมสุสานของบรรพบุรุษ อุณหภูมิในภาคเหนือของจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นช่วงอากาศอุ่นกำลังสบายที่ประมาณ 15 องศาเซลเซียส และ ในขณะที่ในภาคใต้ ฝนฤดูใบไม้ผลิเริ่มโปรยปราย ซึ่งถือเป็นเหมือนพรล้ำค่า
.
โดยธรรมชาติเช่นกัน หลังจากฤดูหนาวอากาศมัวที่ยาวนาน ผู้คนชาวจีนรอได้พบอากาศและท้องฟ้าข้างนอกบ้าน ซึ่งแม้จะมุ่งออกจากบ้านเพื่อไปสุสานกราบไหว้ ปัดกวาดสุสานของบรรพบุรุษ แต่ระหว่างนั้น ก็เหมือนได้ออกนอกบ้านชมนกชมไม้ ท่องเที่ยวชมความเขียวขจีของธรรมชาติที่ไม่เคยได้เห็นเลยตลอดฤดูหนาวนานหลายเดือน
.
วันเช็งเม้งเป็นวันหยุดทางการ ประชาชนจีนทั้งประเทศ หยุดงาน 1 วัน โดยรัฐบาลจีนกำหนดให้เป็น "เทศกาลทำความสะอาดสุสานของชาวจีน" เทศกาลเชงเม้ง ไม่เพียงแต่เป็นเป็นช่วงเวลาของการรำลึกคุณบรรพบุรุษ คิดถึงบุคคลอันเป็นที่รัก แต่ยังเป็นเวลาให้คิดรู้คุณคนที่ยังมีชีวิตอยู่ และเป็นการจรรโลงจิตใจให้กับตัวเองด้วย
.
"ผู้คนยังคงอยู่ตราบเท่าที่เรายังจดจำเขาเหล่านั้นได้" ปัจจุบันในสังคมสมัยใหม่ มีหลายวิธีในการรำลึกถึงผู้ล่วงลับ รวมถึงการรำลึกถึงผู้ล่วงลับผ่านระบบออนไลน์ การรำลึกถึงผู้ล่วงลับไม่ว่าทางใด วิธีใด พูดคุย มองดูรูปภาพผ่านอัลบัมดิจิทัลวีแชท และเขียนถ้อยคำรำลึกอาลัยออนไลน์ ก็อาจเป็นวิธีหนึ่ง ซึ่งอาจจะมีคนไม่เห็นด้วยบ้าง แต่สำหรับบางคนก็สนับสนุนเพราะเป็นการทำด้วยความตั้งใจจริง อีกทั้งเมื่อคนอื่นๆ ได้อ่านข้อความรำลึกของครอบครัวหนึ่ง ก็เหมือนเป็นแรงบันดาลใจให้คนย้อนมองครอบครัวของตนเช่นกัน
.
ในสมัยโบราณ ก็มีบทกวีมากมายที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางวันเช็งเม้ง รวมทั้งในช่วงราชวงศ์ถัง (618-907) และราชวงศ์ซ่ง (960-1279) ซึ่งเป็นยุคที่ศิลปะบทกวีรุ่งเรืองสูงสุดในประเทศจีน โดยบทกวีที่โด่งดังชิ้นหนึ่งคือบทกวีชื่อ "วันแห่งการไว้ทุกข์" ของ ตู้มู่ (杜牧, ค.ศ. 803-852) กวีผู้มีชื่อเสียงแห่งราชวงศ์ถัง
《清明》(唐)杜牧
清明时节雨纷纷,路上行人欲断魂。借问酒家何处有?牧童遥指杏花村。
“ยามชิงหมิงฝนพรำ ดั่งหัวใจผู้รอนแรมร่ำไห้ ใคร่พักโรงเตี๊ยมอยู่หนใด เด็กเลี้ยงวัวไซร้ ชี้ปลายทางหมู่บ้านซิงฮวา”