เอเจนซี/MGR Online - ตำรวจไต้หวันคาดเพราะ ผู้รับเหมาซ่อมบำรุงหน้าผาข้างทางรถไฟ "ลืมดึงเบรกมือ" รถบรรทุกติดเครน เป็นเหตุทำให้รถไหลลงมาชนกับรถไฟด่วนไท่หลู่เก๋อ ที่กำลังวิ่งผ่านอุโมงค์ต้าชิงสุ่ย โดยเบื้องต้นทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 48 ราย
วันนี้ (2 เม.ย.) จากอุบัติเหตุรถไฟโดยสารพุ่งชนรถบรรทุกจนตกรางภายในอุโมงค์ค์ทางตอนเหนือของเมืองฮัวเหลียน ขณะที่รถไฟขบวนนี้กำลังมุ่งหน้าไปยังเขตไถตง (Taitung) จนตู้โดยสารบางตู้กระแทกเข้ากับกำแพงอุโมงค์อย่างจัง ทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 09:28น. ของวันนี้ซึ่งถือเป็นวันแรกช่วงหยุดยาวเทศกาลเช็งเม้ง
ช่วงบ่ายวันนี้ เว็บไซต์สถานีวิทยุแห่งชาติไต้หวัน หรือ RTI รายงานความคืบหน้าของเหตุการณ์ว่า ขบวนรถไฟดังกล่าว คือ ขบวนรถไฟด่วนไท่หลู่เก๋อหรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อทาโรโกะ เที่ยวที่ 408 วิ่งจากสถานีซู่หลินในนครนิวไทเป ไปยังเมืองไถตง ขณะวิ่งผ่านอุโมงค์ต้าชิงสุ่ย (大清水) ใกล้เมืองฮัวเหลียน เกิดเหตุรถบรรทุกติดเครนของบริษัทเอกชนที่รับเหมางานซ่อมบำรุงหน้าผาข้างทางรถไฟ ลื่นไหลลงจากเขา ชนกับรถไฟที่วิ่งออกจากอุโมงค์อย่างจัง ทำให้หัวรถไฟพังยับเยิน ตู้ที่ 2 และ 3 ของขบวนรถไฟตกราง ขณะที่ตู้ที่ 3-8 ติดอยู่ในอุโมงค์ ณ เวลา 15:48 น. มีผู้โดยสารรวมพนักงานขับรถไฟขบวนมรณะนี้เสียชีวิตแล้ว 48 ราย ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาล 66 คน อีกประมาณ 20 คนยังติดค้างอยู่ในขบวนรถ จากผู้โดยสารทั้งหมด 374 คน เบื้องต้นทราบว่า ไม่มีคนไทยโดยสารรถไฟขบวนนี้
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจไต้หวันได้ควบคุมตัวนายหลี่ อายุ 45 ปี คนขับรถบรรทุกติดเครนของบริษัทรับเหมาโครงการซ่อมบำรุงทางรถไฟของการรถไฟไต้หวัน โดยนายหลี่ให้การว่า จอดรถแล้วเดินไปที่ห้องทำงาน ไม่ทราบรถไหลลงเขาได้อย่างไร ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่า นายหลี่ลืมดึงเบรคมือ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงครั้งนี้
อนึ่ง ภาพถ่ายจากดาวเทียมแสดงให้เห็นว่า ขบวนรถมีทั้งหมด 8 ตู้ มี 2 ตู้โผล่อยู่นอกอุโมงค์ ที่ด้านข้างมีรถบบรทุกติดเครนคันหนึ่งลื่นไถลลงมา คาดว่าขณะรถไฟวิ่งผ่านอุโมงค์ใกล้ฮัวเหลียน ชนใส่รถบรรทุกดังกล่าว หัวรถไฟพังยับเยิน ตู้ที่ 2 และ 3 ตกราง ขณะที่ตู้ที่ 3-8 ติดอยู่ในอุโมงค์
ด้าน นายหลิน เจียหลง รมว. กระทรวงคมนาคมรุดไปยังจุดเกิดเหตุ ได้สั่งการให้ให้กรมการทางพิเศษ และกรมทางหลวงดำเนินมาตรการบรรเทาการจราจรฉุกเฉินฝั่งตะวันออก ระดมกำลังหน่วยบรรเทาภัยช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำหรับสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุในครั้งนี้ ต้องรอการสอบสวนโดยละเอียดต่อไป
