สื่อต่างประเทศรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (23 ม.ค.) ว่า เครื่องบินทหารของจีน 13 ลำ รวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิด H-6K 8 ลำ ได้บินเข้าไปยังเขตน่านฟ้าของไต้หวัน อันปฏิบัติการณ์ ที่ราวกับเป็นภารกิจปกติของกองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLA) ไปแล้ว
กระทรวงกลาโหมไต้หวัน กล่าวว่า กองทัพอากาศของไต้หวัน ได้ติดตั้งขีปนาวุธเพื่อ "เฝ้าติดตาม" การคุกคามน่านฟ้า และว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จีนซึ่งอ้างสิทธิ์ไต้หวันเป็นดินแดนของตน ได้ทำการบินเกือบทุกวันในน่านน้ำระหว่างทางตอนใต้ของไต้หวันและหมู่เกาะปราตัสที่ไต้หวันควบคุมในทะเลจีนใต้
ไต้หวันกล่าวว่า โดยทั่วไปแล้ว ภารกิจเหล่านั้น เป็นเครื่องบินลาดตระเวนเพียงหนึ่งหรือสองลำ แต่ล่าสุด กลับปรากฏฝูงเครื่องบินรบของจีนจำนวนมาก ประกอบด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิด H-6K ที่สามารถใช้ระเบิดนิวเคลียร์ จำนวน 8 ลำ และเครื่องบินขับไล่ J-16 จำนวน 4 ลำ - นี่เป็นเรื่องผิดปกติ
ด้าน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเรียกร้องให้จีนเข้าร่วมการเจรจาและหยุดการกดดันทางทหารกับไต้หวัน โดยเป็นหนึ่งในมาตรการสนับสนุนไต้หวันของคณะบริหารสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ระบุว่า "เราจะยืนเคียงข้างพันธมิตร ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง ความมั่นคง และเสถียรภาพในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงการกระชับความสัมพันธ์กับไต้หวันอันเป็นชาติประชาธิปไตยให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น"
แถลงการณ์ของสหรัฐ นี้คือการส่งสัญญาณการสานต่อนโยบายของรัฐบาลชุดก่อนหน้าที่ชัดเจนที่สุด หลังจาก อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เพิ่มโควต้าการขายอาวุธให้ไต้หวัน