ร่มฉัตร จันทรานุกูล
มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ วิทยาลัยนานาชาติ กรุงปักกิ่ง (UIBE)
ปี 2021 มาถึงอย่างรวดเร็ว การระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น หลังจากที่หลายคนรอวัคซีนมากว่าครึ่งปี แต่เพียงในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา กลับมีข่าวของตัวไวรัสที่กลายพันธุ์ในอังกฤษ เป็นที่หวาดผวากันอีกทั่วโลก
ภายใต้กฎของธรรมชาติ ผู้เขียนมองว่ามนุษย์จริง ๆ แล้วอ่อนแอนัก เพราะความไม่แน่นอนในชีวิตทำให้ในหนึ่งปีที่ผ่านมาหลายคนคิดฉุกคิดอะไรได้หลายอย่าง หลายคนเลือกที่จะระมัดระวังในการใช้ชีวิตมากขึ้นเพราะไม่รู้ว่าในอนาคตจะพบเจอกับอะไรที่ไม่คาดฝันอีก
จากสถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่กระจายมากว่าหนึ่งปี จีนเป็นหนึ่งประเทศที่มีประสบการณ์ในการรับมือมากที่สุด ไม่เพียงแค่เป็นประเทศแรกของโลกที่พบการระบาดในวงกว้าง ยังเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ดังนั้นในการบริหารจัดการเป็นงานที่ท้าทายอย่างมาก
ข้อได้เปรียบหนึ่งของจีนคือเรื่องระบบการบริหารและการปกครองจากส่วนกลางสู่ท้องถิ่นที่เบ็ดเสร็จ ทำให้การบริหารงานทุกอย่างทำได้รวดเร็ว
หากย้อนกลับไปดูเมื่อต้นปี 2020 สิ่งที่เกิดในอู่ฮั่นตอนนั้นทำให้คนแตกตื่นทั่วโลกกับไวรัสตัวใหม่ที่ยังไม่มีทางรักษา ประชาชนล้มป่วยและเสียชีวิตจำนวนมาก รัฐบาลจีนตัดสินใจปิดเมืองอู่ฮั่นและระดมทีมแพทย์จากทั่วประเทศลงไปช่วยเหลือ สร้างโรงพยาบาลสองแห่งภายในเวลา 10 กว่าวัน สายการผลิตอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นไม่หยุดพักแถมเพิ่มกำลังการผลิตอย่างเต็มกำลังความสามารถ
จีนใช้เวลาเกือบสองเดือนในการต่อสู้กับโรคระบาดโควิด-19 ในอู่ฮั่น จนเปิดเมืองและชีวิตประชาชนค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ หลังจากจีนหลายประเทศทั่วโลกเกิดการระบาดตามมา จนกลายเป็นว่าการระบาดของโควิด-19 ในหลายประเทศรุนแรงและแพร่กระจายรวดเร็วกว่าในจีน ดังนั้นหลังจากที่จีนควบคุมสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศได้แล้ว ก็เริ่มที่จะหาหนทางป้องกันการระบาดโควิด-19 ขาเข้า
อย่างที่ผู้เขียนเกริ่นไปก่อนหน้าว่าจีนเป็นประเทศหนึ่งที่มีประสบการณ์กับโควิด-19มากที่สุด ทำให้จีนพยายามค้นคว้า วิจัยและตั้งสมมติฐานการแพร่กระจายของโรค ความเป็นไปได้ต่าง ๆ นานา
หลัง ๆ มาผู้เชี่ยวชาญจีนค้นพบว่าไวรัสชนิดนี้ ดำรงชีวิตได้อย่างดีในอุณหภูมิที่ต่ำ กล่าวคือสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วในภาวะอากาศหนาวเย็น แถมเป็นไวรัสตัวหนึ่งที่มีความเฉลียวฉลาดสามารถแฝงตัวและปรับตัวในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี(ทำให้มนุษย์ควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสได้ยาก)
ที่สำคัญคือ นักวิจัยจีนพบว่าไวรัสโควิด-19 นี้นอกจากแพร่กระจายจากคนสู่คนแล้ว ยังสามารถแพร่กระจายจากสิ่งของมาสู่คนได้อีกด้วย โดยผ่านการสัมผัส เพราะเหตุนี้มาตรการการป้องโรคโควิด-19 ของจีนขาเข้าของจีนจึงป้องกันทั้งคนและสิ่งของ
“外防输入,内防反弹” (Wai fang shuru,Nei fang fantan)อ่านว่า "ไหว้ฝางชูรู่ เน่ยฝางฝ่านถาน" หมายถึงป้องกันขาเข้า ภายในการ์ดไม่ตก เป็นคำขวัญหลักของมาตรการการป้องกันโควิด-19 ของจีนในช่วงที่ผ่านมา
ในบทความนี้ผู้เขียนจะขอกล่าวถึง "การป้องกันขาเข้า" โดยมีสองมาตรการหลักคือ "หนึ่งการปิดประเทศ" ไม่รับต่างชาตินอกจากต่างชาติที่ถือวีซ่าทางการทูตหรือได้รับการอนุมติเป็นกรณีพิเศษจากรัฐบาลจีน เปิดในสัญชาติจีนยังเข้าได้แต่ต้องรับการกักตัว 14+7 วัน พร้อมต้องรับการตรวจโควิด-19 หลายครั้ง ค่าใช้จ่ายทั้งหมดต้องจ่ายเอง
"สองคือการตรวจหาไวรัสในสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ" โดยเฉพาะสินค้าจำพวกอาหารสดแช่แข็งนำเข้า เพราะในช่วงปลายปีที่ผ่านมาเกิดการระบาดของโควิด-19 ในประเทศจีนเป็นกลุ่มเล็กย่อย และตลาดสดหลายแห่ง
ทั้งนี้นอกจากอาหารสดแช่แข็งแล้วยังมีการฆ่าเชื้อและสุ่มตรวจพัสดุที่นำเข้าจากต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งในการสุ่มตรวจอาหารทะเลแช่แข็งที่ผ่านมาของจีน ก็มีการค้นพบถึงตัวอย่างที่มีผลเป็นบวก เจอกับไวรัสที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นต้น
ในเดือนธันวาคม 2020 ที่ผ่านมา การแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ทั่วโลกไม่มีท่าทีที่จะลดน้อยลง ยิ่งทวีความรุนแรงมากกว่าเมื่อต้นปี โดยการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยใหม่รายวันถึงวันละ 6 แสนคน เสียชีวิตวันละ 1 หมื่นกว่าคนทั่วโลก ไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ เลยทีเดียว
ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลจีนดำเนินนโยบายในขณะนี้คือการป้องกันทั้งคนและสินค้า อีกทั้งไม่สนับสนุนให้คนประเทศเที่ยวหรือเดินทางไปต่างประเทศอีกด้วย
ในปีนี้การเดินทางระหว่างประเทศของจีนก็ยังไม่กลับมาเป็นปกติ อย่างเช่น คนไทยที่พำนักอยู่ในปักกิ่ง ต้องการที่จะเดินทางกลับเมืองไทยต้องจองผ่านสถานทูตไทยล่วงหน้า ซึ่งจะประกาศเที่ยวบินเดินทางประจำเดือน ถือว่าเป็นเที่ยวบินพิเศษแบบเหมาลำ
หลังจากเกิดภาวะการระบาดโควิด-19 ทั่วโลก จีนก็พยายามที่จะรับประชาชนของตัวเองจากต่างประเทศกลับมาโดยจนถึงเดือนพ.ย. จีนรับประชาชนกลับมา 70,000 กว่าคนจาก 92 ประเทศทั่วโลก
จากตัวเลขที่ประกาศล่าสุดของทางการจีนในเดือนพ.ย. กล่าวว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจีนมีผู้ป่วยโควิด-19 ขาเข้าที่กลับมาจากต่างประเทศสะสมกว่า 3,700 คน ในเดือนต.ค. ผู้ป่วยขาเข้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในแต่ละวันเฉลี่ยวันละ 16.6 คน เพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของเดือนที่แล้ว 45% ในช่วงของหน้าหนาวตัวเลขผู้ป่วยขาเข้าสูงขึ้น ก็มีนัยยะสำคัญ
มาตรการหลักของจีนในการป้องกันโควิด-19 ขาเข้ามี 4 วิธีการดังนี้คือ "หนึ่ง" การคุมเข้มชายแดนทั่วประเทศ มีการปิดชายแดนทางบกทั้งหมด 66 ด่าน ปิดการเข้าออกของประชาชนนอกจากมีกรณีพิเศษที่ได้รับการอนุมัติ
"สอง" คือไม่ให้คนเข้าออกต่างประเทศอย่างเสรี ตรงนี้มีเงื่อนไขที่มาก ทำให้คนไม่เดินทางไปโดยปริยาย อีกทั้งยังหยุดการให้วีซ่ากับคนต่างชาติและจำกัดการเข้าประเทศ
"สาม"เพิ่มมาตรการคุมเข้มรถสินค้าที่เข้าออกระหว่างประเทศ
"สี่" เข้มกับการเข้าออกเมืองผิดกฎหมาย ไม่มีละเว้น
จากที่ผู้เขียนแนะนำไปจะเห็นว่ารัฐบาลจีนมีความรอบคอบอย่างยิ่งในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ถึงแม้ในช่วงหน้าหนาวนี้จะมีเคสผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังอยู่ในความควบคุมอยู่ค่ะ